‘นายกฯ’ ชี้ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เฟส 3 ไม่เลิก แย้มแจกตอน เศรษฐกิจดี

‘นายกฯ’ ชี้ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เฟส 3 ไม่เลิก แย้มแจกตอน เศรษฐกิจดี

“แพทองธาร” แจงโยกงบ 1.57 แสนล้าน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไปทำโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ก่อนเหตุ เจอภาษีสหรัฐ แย้มกลับมาแจกเมื่อเศรษฐกิจดี ชี้ “ทักษิณ” อดเจอ “ทรัมป์” ไม่รู้เจ้าสัวพลังงาน คุยอะไร

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ถึงกรณีเปลี่ยนแปลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เป็นเพราะไม่มีเงินหรือไม่ และจะชี้แจงอย่างไรกับประชาชนที่รออยู่ ว่า เป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของประเทศทั้งหมด โดยในการแจกรอบแรก และรอบสอง ได้มีการกระตุ้นไปแล้วในกลุ่มเปราะบาง และผู้สูงอายุ แต่พอมีเรื่องของภาษีสหรัฐเข้ามา เราก็ต้องพิจารณาทบทวน และได้ข้อเสนอจากธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้ทบทวนเรื่องนี้ใหม่ ว่าเงินก้อนนี้สามารถใช้อะไรที่จำเป็น และเร่งด่วนกว่าดิจิทัลวอลเล็ต คือเปลี่ยนรูปแบบของการกระตุ้น โดยเอาเงินก้อนนี้ไปจัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรที่จำเป็นสำหรับประเทศ ณ ขณะนี้ แล้วจะเกิดผลกับประเทศสูงสุด 

เมื่อถามว่า ดิจิทัลวอลเล็ตมีการยกเลิก แต่รัฐบาลไม่กล้าพูดหรือไม่ เพราะกลัวกระทบฐานเสียง นายกฯ กล่าวว่า เราต้องคุยกันให้เข้าใจก่อนว่า ตอนนี้ปัญหาที่เข้ามาแทรก ก็คิดว่าประเทศไหนก็ไม่อยากได้ปัญหานี้ เพราะฉะนั้นเงินก้อนนี้ทั้งก้อนจะเกิดประโยชน์ที่ตรงไหนสูงสุด เราเน้นที่ตรงนั้นมากกว่า เราไม่ได้บอกว่ายกเลิก เพราะสมมติถ้ากลับมาทำอีกในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มันดีขึ้น แล้วการกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบนี้จะได้ผลมากที่สุด เราก็มีความหวัง ว่าเราก็อยากจะให้อะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะได้ทำ อย่างกรณีที่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทบทวนกันมาว่า การแจกดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดเวลานี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับฟัง และถามว่า แล้วตัวกระตุ้นไหนดีที่สุดสำหรับประเทศนั่นคือ สิ่งที่เราทำอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐเข้ามา

เมื่อถามว่า ต่อไปการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคต เมื่อสัญญาไปแล้วไม่เป็นไปตามนั้น จะกระทบอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเวลาหาเสียง เราประเมินสถานการณ์แล้วว่า เราทำได้จริง แต่ว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐที่เพิ่มเข้ามา เรื่องนี้ไม่มีประเทศไหนคาดคิด ซึ่งตัวเลขภาษีที่จะมีการเก็บทุกคนก็ตกใจ หลายประเทศ 30-40% ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่ถามว่าทำไม่ได้จริงหรือไม่ก็ไม่จริง เราก็ทำไปแล้ว ไม่ใช่ว่านโยบายนี้เราทำไม่ได้เลย เพียงแต่สถานการณ์ที่เข้ามามันสุดวิสัย ไม่ใช่ว่าทำอยู่แล้วถูกยกเลิก หรือว่าไม่ทำแล้วชะลอ มันก็ไม่ได้ชะลอ แต่ 2 เฟสแรกมันผ่านความคิดเห็นกันมาได้ แต่เฟส 3 มีกรณีกำแพงภาษีเข้ามา มัน ผ่านไม่ได้ ก็ต้องให้ สส.เพื่อไทย ทำความเข้าใจ แล้วถามว่าเงินก้อนนี้ไปไหน เรานำไปทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศใหม่ ระบบน้ำทั้งหมด ทุกคนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ ก็จะได้โยกเงินก้อนนี้ไปทำก่อนดิจิทัลวอลเล็ต 

เมื่อถามว่า การนำเงินไปลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน ก็ยังมองไม่ออกว่า จะเป็นการต่อกรกับกำแพงภาษีอย่างไร จะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เงินก้อนนี้ 1.57 แสนล้านบาท มาจากงบกลาง จะต้องใช้ให้หมดภายใน 30 ก.ย.68 นี้ ตรงนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จัดการกับกำแพงภาษี เรื่องกำแพงภาษีมันอยู่ในนโยบาย ว่าต้องทำอะไรหรือเปลี่ยนอะไรบ้างกับทางสหรัฐ แล้วจะต้องมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบหรือไม่ ต้องรอดูคนละเรื่องกัน ทั้งนี้ 1.57แสนล้าน เราต้องวางแผนในระยะสั้นเพื่อที่จะใช้เงินก้อนนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และหลังจาก 30 ก.ย.68 นี้ มีนโยบายระยะกลาง และระยะยาวใดรองรับต่อ

นายกฯ กล่าวว่า งบ 1.57 แสนล้าน เพื่อดำเนินการในระดับโครงสร้างของประเทศ ก็อาจจะไม่ได้ลงถึงรายบุคคล แต่เป็นภาพรวมที่ทั้งประเทศจะได้ประโยชน์ร่วมกัน ก็ขอความร่วมมือในการช่วยกันสื่อสาร เมื่อเกิดเหตุการณ์แทรกขึ้นมา มันทำให้เราจะต้องชะลอให้คนบางกลุ่มก่อน 

เมื่อถามว่า งบที่จะใช้สู้กับภาษีสหรัฐ จะอยู่ในพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในงบ 1.57แสนล้าน นี้ก็มีส่วนหนึ่ง แต่เงินส่วนนี้ต้องการจะให้เห็นชัดเป็นรูปธรรม และจะมีงบอีกก้อนที่เราใช้ด้วย ซึ่งรายละเอียดให้กระทรวงการคลังชี้แจง 

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการเจรจาภาษีสหรัฐ อย่างก่อนหน้านี้นักธุรกิจด้านพลังงานได้พบประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กาตาร์ เป็นสัญญาณดีหรือไม่ว่า พอดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้ไป ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้คุยอะไร แต่ก็ไม่มีอะไรที่ประสานกับรัฐบาล ก็บอกแล้วว่าเสียดาย เพียงแต่มีการพูดถึงว่านายกฯ กาตาร์ ได้ทักทาย 

เมื่อถามว่า นายกฯ จะดึงนักธุรกิจพลังงานรายใหญ่ มาช่วยเจรจาภาษีสหรัฐ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราต้องทำตามระบบก่อน และไม่ว่านักธุรกิจใหญ่หรือเจ้าไหน ถ้าสมมติว่าเกิดประโยชน์กับรัฐบาล ทุกฝ่ายคงร่วมมือกัน ไม่ต้องเป็นธุรกิจใหญ่ก็ได้ธุรกิจเล็ก ถ้าสามารถช่วยรัฐบาลได้ยิ่งดี 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์