วาระแห่งชาติ ลากไส้‘ฮั้ว สว.’ นิติสงคราม ลามยุบพรรคน้ำเงิน

วิบากกรรมของขบวนการฮั้ว สว. กำลังไล่ล่าผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ย่อมมีผลต่อการเมืองภาพใหญ่ ไม่มากก็น้อย ที่แน่ๆ 2 ผู้นำจิตวิญญาณ แดงและน้ำเงิน ยากจะมองหน้ากันได้อีกต่อไป
KEY
POINTS
- ดูเหมือนเกมเช็กบิลฮั้ว สว. พยานหลักฐาน ค่อยๆ สาวถึงปลาตัวใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ
- ในเอกสารร้องยุบพรรคภูมิใจไทยของณฐพร โตประยูร เปิดหมดทุกชื่อ และพฤติการณ์ ถึงขนาดระบุว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูง
- สถานการณ์ที่พรรคน้ำเงินโดนไล่ต้อน ยิ่งต้องกอดอำนาจไว้ให้นานที่สุด
- เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว และจะได้มีกลไกเอาคืนศัตรูทางการเมือง
พิษฮั้ว สว. ลุกลามรวดเร็วไปถึงขบวนการเบื้องหลัง ที่ถูกล็อกเป้าว่าเป็นมาสเตอร์มายด์ หรือผู้กำหนดเกม และฝ่ายปฏิบัติเพื่อยึดอำนาจส่วนใหญ่ในสภาสูง
ปฏิบัตการเช็กบิลของคณะอนุกรรมการสืบสวนฯ กกต. ที่ทยอยแจ้งข้อกล่าวหา สว.กว่าครึ่งร้อยในล็อตแรก ให้เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาไปแล้ว
ในขณะที่อีกด้าน ณฐพร โตประยูร เปิดเกมยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เซ่นพิษฮั้ว สว. ต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ ม.49 บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
โดยในเอกสารคำร้องดังกล่าว อ้างอิงพยานหลักฐานของดีเอสไอและ กกต.ไล่เรียงแผนผังขบวนการฮั้ว สว. มีที่มาที่ไปอย่างไร และระบุถึงการใช้เงิน พันไปถึงบุคคลสำคัญทางการเมืองจากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง มีตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี สส. รวมถึงกรรมการบริหารพรรค และเจ้าของพรรคร่วมฯ พรรคหนึ่งด้วยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร และในเอกสารดังกล่าวยังระบุถึงขนาดว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูงเลยทีเดียว
เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนี้ ถ้าไม่มีพยานหลักฐานแน่ชัด คงไม่มีใครกล้าเปิดหน้าแลกถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้น หากเกมพลิก โดนเช็กบิลเสียเอง มีแต่จะเจ็บหนัก
ดีเดย์ 19 พ.ค. วันแรกของการเรียก สว.ล็อตแรก ที่อยู่ในข่ายเข้าชี้แจงต่ออนุฯ สืบสวน ยังไม่ทันที่จะเรียบร้อย รายชื่อล็อต 2 ก็ปรากฎในหน้าสื่อ ตามรายงานตัวเลขทั้งหมดล่าสุด ทะลุ 140 คนไปแล้ว มีทั้ง สว.และคนนอก
รอบสองนี้ มีบิ๊กเนมหลายคนในค่ายสีน้ำเงิน ที่ถูกออกหมายเรียก อาทิ นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร วารินทร์ ชิณวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ข้าราชการการเมือง อย่าง สมเจตน์ ลิมปะพันธ์ุ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และ สว.สายใต้ สีน้ำเงิน อีกหลายคน อาทิ เตชสิทธิ์ ชูแก้ว สมศักดิ์ จันทร์แก้ว ณัฐกิตติ์ หนูรอด เป็นต้น
สถานการณ์ที่พรรคสีน้ำเงินและเครือข่าย โดนรุกไล่กดดัน กระชับวงล้อมตีโอบศูนย์กลางอำนาจ หรือบุคคลที่เป็นไข่แดงของค่ายนี้เข้าไปทุกขณะ
เรื่องการตรวจสอบฮั้ว สว. ที่นับว่าเป็นวาระแห่งชาติ มีตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นร้อยเป็นพัน หลายคนในนั้น ก็เป็นตาสีตาสา ตามเกมไม่ทัน หรือไม่รู้เรื่องอะไรด้วยกับการขยายฐานอำนาจของสีน้ำเงิน รู้เฉพาะหน้าเสื่อของตัวเอง จนเป็นที่มาของการถูกเช็กบิลในวันนี้
ตรงนี้จึงนับว่า น่ากังวลไม่น้อย สำหรับบิ๊กสีน้ำเงิน หากคำชี้แจงหรือคำให้การของคนในขบวนการระดับตัวเล็กตัวน้อย ซัดทอดถึงคนระดับมือทำงาน หรือผู้กำหนดเกม เพื่อเอาตัวรอด ก็อาจเป็นหลักฐานมัดจนดิ้นไม่หลุด
การเกาะเกี่ยวอยู่ในอำนาจ ไม่ให้หลุดวงโคจร เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งของเครือข่ายสีน้ำเงิน เพื่อรักษาดุลต่อรอง การมีอำนาจเสมือนมีเกราะคุ้มกันตัวเองจากศัตรู และมีกลไกฟาดฟัน เอาคืนฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองได้
แต่ถึงอย่างนั้น เกมเตะตัดขาล้มนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล หรือบีบให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าจะด้วยกลเกมใดก็ตามของสีน้ำเงิน อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะจะยิ่งเร่งเร้าให้ถูกไล่บี้หนักขึ้น จากชนักปักหลังที่เป็นกรณีอยู่
เกมเสี่ยงทั้งหลายที่สั่นคลอนฐานอำนาจ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อค่ายน้ำเงิน ไหนยังต้องลุ้นกรณี สว.พันธุ์ใหม่ ล่าชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้สั่ง สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ
วิบากกรรมของขบวนการฮั้ว สว. กำลังไล่ล่าผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ย่อมมีผลต่อการเมืองภาพใหญ่ ไม่มากก็น้อย ที่แน่ๆ 2 ผู้นำจิตวิญญาณ แดงและน้ำเงิน ยากจะมองหน้ากันได้อีกต่อไป







