‘อนุดิษฐ์-การุณ’ สมัครเข้ากล้าธรรม รับบทบู๊-บุ๋น สู้ ‘เลือกตั้ง’

“อนุดิษฐ์-เก่ง การุณ” สมัครสมาชิก “พรรคกล้าธรรม” รับหน้าที่บุ๋น-บู๊ “อรรถกร” จ่อชง หน. ตั้งผู้การป๊อป นั่ง ปธ.ยุทธศาตร์ สู้เลือกตั้ง “ไผ่” สวน “เท้ง” ไปหาตัวงูเห่าส้ม เพิ่มเอง
ที่พรรคกล้าธรรม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายการุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรค โดยมีนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะนายทะเบียนพรรค ให้การต้อนรับ และเมื่อเสร็จสิ้น ได้แถลงข่าวร่วมกัน
โดยนายอรรถกร กล่าวว่า บุคลากรทั้งสองคนถือเป็นการเสริมทัพพรรคกล้าธรรมที่ตรงจุด เชื่อว่าทั้งสองคนจะทำให้พรรคมีความพร้อมที่จะทำงานให้ประชาชนทั่วประเทศได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจากนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ว่าหลังจากกระบวนการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเสร็จสิ้น ให้เตรียมเสนอเอกสารไปยังหัวหน้าพรรคให้มีคำสั่งเร่งด่วนแต่งตั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค เพื่อช่วยวางแผนยุทธศาสตร์ให้พรรค โดยหลังจากนี้จะขึ้นรถด่วนไปยังหัวหน้าพรรค เพื่อมอบหมายภารกิจสำคัญให้กับทั้งสองคน
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมกับพรรคกล้าธรรม เพราะแม้ทุกพรรคจะมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนทั้งสิ้นในเรื่องที่ดีต่อประเทศชาติ แต่พรรคนี้เป็นพรรคการเมืองที่ยึดเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตรงนี้สำคัญ การเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางอาจจะมีหลายพรรคที่ชอบใช้คำนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกเหนือคำพูดคือการปฏิบัติ การจะขับเคลื่อนนโยบายใดๆ ตอบสนองประชาชนต้องเข้าใจตั้งแต่รากเหง้าปัญหา ตนติดตามการทำงานของทุกพรรค ยอมรับว่า พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคที่มีความใกล้ชิดประชาชน ฟังเสียงประชาชน เอาปัญหาเหล่านั้นมาหาคำตอบว่าจะแก้ไขให้ประชาชนอย่างไร คิดว่ามันตรงใจกับเราทั้งสองคน เราเองเติบโตมาจากการเป็น สส.เขต คลุกคลีกับประชาชน ถ้าเราจะเริ่มงานใหม่กับพรรคการเมืองใหม่การเมืองหนึ่งที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราจะทำงานที่พรรคกล้าธรรม เราทั้งสองคนจะทุ่มเท ใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่มีในการทำงานให้พรรคเติบโตจากพรรคน้องใหม่กลายเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง
เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์พรรคอย่างไร น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ดีเอ็นเอของพรรคกล้าธรรมคือ การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ถ้าจะต้องกำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคสำหรับ การเลือกตั้งปี 70 คงต้องใช้เสียงของประชาชนในการสะท้อนความต้องการและปัญหาต่างๆ เบื้องต้นวันศุกร์ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พูดเรื่องการกำหนดยุทธศาสตร์กับหัวหน้าพรรค เรื่องการได้มาซึ่งข้อมูล ซึ่งท่านก็สนับสนุน โดยจะมีแพลตฟอร์มเป็นสื่อกลาง ไว้ค่อยสื่อสารตรงมายังพรรค เพื่อนำความต้องการเหล่านี้มาประมวลผล นำข้อมูลมาตัดสินใจมาเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองต่อไป
เมื่อถามว่า จะทำให้พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคระดับไหน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคกล้าธรรมการจะเดินไปสู่จุดการนำเสนอนโยบาย สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเชื่อ คือ การพิสูจน์ในงานที่เรากำลังทำในปัจจุบัน ส่วนจะเดินไปจุดไหนอย่างไร เร็วไปที่จะตอบ ต้องดูการทำงาน 2 ปีที่เหลือ
ขณะที่นายการุณ กล่าวว่า การมาอยู่ที่พรรคกล้าธรรมครั้งนี้ พวกเราไม่ว่าจะเลขาธิการพรรค นายทะเบียนพรรค หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรค เราทำงานร่วมกันมาหลายโอกาส ร่วมมือกันมาด้วยดีตลอด เป็นดีเอ็นเอเดียวกัน ให้ความรัก ความใจกว้าง ความใจถึง บ้านหลังเล็กๆ หลังนี้เป็นบ้านที่อบอุ่น สำหรับตนได้โอกาสเข้ามาทำงาน ได้ประสานกับหัวหน้าพรรค ซึ่งบอกว่าอย่างตนเหมาะสมกับการบู๊ ส่วน น.อ.อนุดิษฐ์ จะบุ๋น ในการจัดทัพ ระดมความคิด สร้างโครงสร้าง สนับสนุนหัวหน้าพรรคในการขับเคลื่อนพรรคให้ไปได้ไกล ตนได้รับมอบหมายให้ประสานภาคส่วนต่างๆ และประสานในต่างจังหวัด ในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า หลายคนจะเห็นว่า ความสง่างามของ ร.อ.ธรรมนัส ใครจะพูดอย่างไรถึงท่านอย่าไปฟัง สิ่งเดียวที่มีคือ ไม่เคยถูกครหาว่าคอร์รัปชั่น มีความหวังว่า อยากจะเห็นพรรคเป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ยืนยันว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเจอมรสุมอะไร เราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน ร.อ.ธรรมนัสใจถึง พึ่งได้ ผมเป็นน้องเล็ก ใจไม่ถึง แต่พึ่งได้ จะทำงานสุดความสามารถ
ทั้งนี้ นายไผ่ กล่าวว่า กรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ท้าให้เปิดรายชื่อ สส.พรรคปชน.ที่จะย้ายมาพรรคกล้าธรรมนั้น ถ้าในบ้านท่านมีการนอกใจกันก็เป็นหน้าที่ของท่านในการหาเอง ไม่ใช่ส่งมาให้พวกตนหา และที่บอกให้เราเปิดนั้น เรามีไทม์ไลน์ของเรา แล้วยังไม่ได้บอกว่าเป็นใคร อย่าเพิ่งร้อนตัว ส่วนที่นายณัฐพงษ์ ระบุสุดท้ายไม่มีใครมาแล้วนั้น วันนี้ก็มี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ซึ่งย้ำมาโดยตลอดว่าไม่มีการชักจูง แต่เกิดจากสนิมเนื้อใน ส่วนที่ตนยื่นให้ตรวจสอบจริยธรรมนายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรคประชาชนเรื่องเงิน 55 ล้านบาทนั้น ตนไม่ได้ร้อนตัว แต่อยากจะรู้จริงๆ ถ้ามีเอกสาร หลักฐาน ก็นำมาเปิดให้สาธารณชนรับทราบ หรือให้เร่งกระบวนการตรวจสอบเลยก็ได้รู้ว่าใครผิดใครถูก
เมื่อถามว่า มีการพูดว่า หากย้ายออกจากพรรค ปชน.แล้ว ครั้งหน้าจะไม่ได้เป็น สส.อีก เพราะคนในพื้นที่ไม่ยอมรับ นายไผ่ กล่าวว่า ต้องพิสูจน์ด้วยผลงาน ซึ่งพรรคประขาชน มีแคมเปญที่ดี หลัง น.ส.กฤษฎิ์ย้าย ก็ลงไปพื้นที่ทันที แต่เราเชื่อมั่นในการลงพื้นที่หลังจากนี้ ซึ่งวันนี้ยังไม่เกิดขึ้น เพราะพรรค ปชน.ยังไม่ได้ขับ น.ส.กฤษฎิ์ออก และยังไม่ได้เข้ามาในพรรค กธ. นอกจากนี้ การเลือกตั้งที่ผ่าน เราก็ได้ สส.ดาวฤกษ์เสมอ ฉะนั้น ไม่มีการดูดแน่นอน ใครรู้เห็นเรื่องนี้ก็นำหลักฐานมาเปิด