นายกฯลุยจันทบุรี สางปมผลไม้ราคาต่ำ ชาวสวนวอนดึง 'ลิซ่า' โปรโมท

นายกฯลุยจันทบุรี สางปมผลไม้ราคาต่ำ ชาวสวนวอนดึง 'ลิซ่า' โปรโมท

นายกฯ ลงพื้นที่พร้อม รมต.พบชาวสวนจันทบุรี สั่งลุยแก้ปัญหาราคาต่ำทันที ปรับปรุงขั้นตอนราชการ-เจรจา ตปท.ลดเงื่อนไขส่งออก ชาวสวนวอนดึง 'ลิซ่า' โปรโมทผลไม้ไทย

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2568 เวลา 10.45 น. ที่สวนรักตะวัน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี  นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออกและแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ โดยมี นางสาวจิราพร สินธุไพร  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

เมื่อมาถึงนายกฯรับฟังรายงานจากผู้ว่าฯและรับฟังข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกร ที่ขอให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวจีน ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ราบรื่น เช่น มีแล็บตรวจทุเรียนในพื้นที่หลักที่มีการผลิต เนื่องจากขณะนี้หลายประเทศมุ่งส่งทุเรียนเข้าประเทศจีน จึงต้องให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ และขอให้รัฐบาลใช้ซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทย เช่น ลิซ่า โปรโมทผลไม้ไทยเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเดิม และจะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่สูงกว่าเดิม เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายผลไม้ไทยสูงกว่าเดิม จากปีละ 2 -3 แสนล้านบาทเป็น 5 แสนล้านบาทได้แน่นอน รวมถึงให้เร่งช่วยแก้ปัญหาการส่งออกล่าช้าเนื่องจากมีตู้ค้างหน้าด่าน 700-1,000 ตู้ ทำให้ล่าช้า ซึ่งจากเดิมใช้เวลา 14 วัน แม้รัฐบาลจะดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว แต่ยังคงใช้เวลา 8-12 วัน เราอยากจะให้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ขอความช่วยเหลือเรื่องปัญหาทุเรียนอ่อนทำให้ไม่ได้น้ำหนักตามที่กำหนด โดยเรายังไม่มีกฎบังคับใช้ตรงนี้ จึงขอความชัดเจนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยออกกฎระเบียบโดยอาจจะออกเป็นระเบียบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี รวมถึงขอให้แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรโดยให้เพิ่มอายุการทำงานแรงงานต่างด้าวและให้แรงงานต่างด้าวสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ พร้อมขออนุมัติงบกลาง ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินเยียวยาความเสียหาย ทั้งเสียชีวิตและสวนทุเรียนจากปัญหาช้างป่า
 
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ดีใจอย่างมากที่ได้มาเจอชาวจันทบุรี วันนี้ตั้งใจจะมาพูดคุยกับชาวสวนทุกท่านว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง และอยากรับฟังปัญหาที่ได้เจอจริงๆที่เกิดขึ้น รวมถึงรับฟังเรื่องของราคา ซึ่งเดี๋ยวจะขอไปดูรายละเอียดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้างในเรื่องของราคาผลไม้ต่างๆ โดยภาพรวมมีผลไม้ล้นตลาด ซึ่งรัฐบาลนำเอกชนเข้ามาช่วยซื้อ เพื่อไม่ให้ราคาลดลงเยอะและเพื่อไม่ให้สินค้าเน่าเสียได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และความจริงแล้วเราอยากจะสนับสนุนเรื่องของการวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องของห้องแล็บ ตนได้ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศเน้นในเรื่องการวิจัย เพราะเราเป็นตัวท็อปในเรื่องการส่งออกปลาทะเลและกุ้งซึ่งตอนนี้ลดน้อยลง เพราะธรรมชาติเปลี่ยนไปและมีปัจจัยอื่นเข้ามา โดยเฉพาะเพื่อนบ้านมีการวิจัยที่ดี และพัฒนาโปรดักส์ให้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้ามาซื้อของดีคุณภาพสูงราคาถูก เรื่องนี้ตนได้สั่งการในคณะรัฐมนตรี (ครม.)เรียบร้อยในเรื่องการทำวิจัยสินค้าส่งออกของไทย

"ตอนนี้ต้องรอการดำเนินการ เพราะการวิจัยคือการวางรากฐานสู่อนาคต โปรดักส์ของเราต้องพัฒนาขึ้น โลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยนไปต้องพัฒนาศึกษาต่อคือสิ่งที่ไม่ปล่อยแน่นอน"

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของคุณภาพมังคุดที่บอกว่าติดหน้าด่าน พร้อมแก้ปัญหา แต่ไม่แน่ใจว่ามีปัญหาเมื่อไหร่ เข้าใจว่าผลไม้เสียเราไม่อยากให้ติดด่าน ทำให้ต้นทุนเพิ่ม เดี๋ยวจะย้ำเรื่องนี้ และให้ใช้เวลานานในการขนส่งลดให้เหลือวันน้อยที่สุด ทั้งนี้ ขอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ตั้งทีมทำงานพูดคุยกันว่าในพื้นที่อยากได้แบบไหน พูดคุยกันในพื้นที่ว่าจะเอาอะไรบ้าง เพื่อให้ตรงกับชาวบ้าน หรือตั้งสแตนดาร์ดว่าคุณภาพนี้ได้ราคานี้เพื่อให้ชัดและมีการกำหนดราคาหลายราคาให้ชัดเจน
 
ส่วนเรื่องของแรงงานได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปดูในกฎระเบียบว่าทำอย่างไรได้บ้าง ส่วนเรื่องของช้างป่า จะดูให้เป็นกรณีพิเศษ เดี๋ยวจะไปถามด้วยตัวเองเพราะความจริงแล้วที่พูดแบบนี้ เพราะว่ามีอันตรายถึงชีวิตคน เรื่องนี้สำคัญที่สุดโลกเราเปลี่ยนไป ถ้าเรายังมีลมหายใจ เราก็สู้ได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มาถึงชีวิต ฉะนั้นเดี๋ยวจะไปดูเรื่องนี้ให้อย่างจริงจังว่าทำอะไรแล้วบ้าง และต้องทำอะไรเพิ่มได้อีกบ้าง หากถ้าคิดไม่ออกอาจจะส่งคำถามมาที่ผู้ว่าฯว่ามีข้อแนะนำอะไรบ้าง ขอฝากผู้ว่าฯไว้ก่อน เพื่อเป็นช่องทางที่สามารถพูดคุยกันได้
 
จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมการไลฟ์สดขายทุเรียนของกลุ่ม Young Smart Farmer ก่อนรับฟังการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ดูระบบการบริหารจัดการและควบคุมการปนเปื้อนสารเคมีตกค้างในทุเรียนเพื่อการส่งออก จากนั้นนายกฯได้ปลูกต้นทุเรียนและดูรถพ่นยาในสวน (แอร์บัส) ก่อนรับมอบทุเรียนหมอนทองเป็นที่ระลึกจากสภา เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี และเดินดูต้นทุเรียนร้อยปี พร้อมได้ทดลองตัดทุเรียนในสวนด้วย

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิตจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยตัวแทนเกษตรกรชาวจังหวัดจันทบุรีที่ได้นำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวสวนทุเรียนในปัจจุบัน รวมทั้งข้อเสนอแนวทางแก้ไขการปัญหาความต้องการของเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนของผลไม้ไทย  ซึ่งเกษตรกรจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนด้านต้นทุนการผลิตให้เหมาะสม รวมถึงหาตลาดใหม่เพิ่มเติม จากตลาดจีน เช่น ยุโรป  และรักษาผู้ประกอบการส่งออกที่ดีไว้ พร้อมทั้งเสนอให้บังคับใช้กฎหมายควบคุมการจำหน่ายทุเรียนอ่อนอย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาออกกฎระเบียบเพิ่มเติม หรือ มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลอย่างเข้มงวด

ในส่วนของระบบการขนส่งและโลจิสติกส์นั้น ผู้แทนเกษตรกรฯ ระบุว่า ยังประสบปัญหาในขั้นตอนการผ่านด่านศุลกากร ซึ่งส่งผลให้การขนส่งล่าช้า ขอให้รัฐบาลเร่งเจรจากับประเทศคู่ค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ ทุเรียนของไทยสามารถขนส่งถึงปลายทางได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้สด ยิ่งขนส่งล่าช้าความเสียหายยิ่งเพิ่ม

ด้านตัวแทนเกษตรกรชาวสวนมังคุด ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาราคามังคุดตกต่ำ โดยเฉพาะในกรณีของ มังคุดดำ มักจะมีราคาต่ำกว่าปกติ โดยเห็นว่าควรมีกลไกในการกระจายผลผลิตไปยังผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เช่น การจัดตั้งจุดรวบรวมผลผลิตและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกระจายสินค้า นอกจากนี้ ยังเสนอให้ ผู้ประกอบการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจนและเป็นธรรม ตามระเบียบของกระทรวงพาณิชย์  และควรมีมาตรการสนับสนุนค่าขนส่ง เพิ่มจุดรวบรวมผลผลิต และอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ค้าและขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ชาวต่างชาติให้มาลงทุนในการส่งออกผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไยมากขึ้น ไปพร้อมๆรักษาผู้ประกอบการกลุ่มเดิมทั้งชาวไทยและชาวจีนให้ยังอยู่ในประเทศไทยมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการย้ายฐานการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน  เนื่องจากการทำธุรกิจส่งออกผลไม้ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนจำนวนมาก   
       
ทั้งนี้ผู้ประกอบการอยากให้โปรโมททุเรียนไทยและผลไม้ไทยชนิดอื่น ๆ ใน ประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศจีน โดยการนำอินฟลูเอนเซอร์ที่ชาวจีนชื่นชอบ  อย่าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ มาช่วยดำเนินการโปรโมทผลไม้ไทยไปยังผู้บริโภคชาวจีนโดยตรง ก็จะเป็นผลดีต่อผลไม้ของไทยอย่างยิ่ง
   
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าดีใจที่ได้มีโอกาสพบปะกับผู้ประกอบการชาวสวนจังหวัดจันทบุรีเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ซึ่งจากการรับฟังตัวแทนท่านแรกเกี่ยวกับปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ ตนเองจะลงพื้นที่ดูรายละเอียดร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป โดยเบื้องต้นเรื่องของภาพรวมผลไม้ต่าง ๆ พบว่ามีแนวโน้มมีผลผลิตล้นตลาด โดยรัฐบาลได้เร่งประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนให้เข้ามารับซื้อผลผลิต เพื่อช่วยพยุงราคาและป้องกันไม่ให้สินค้าเน่าเสีย ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการในส่วนนี้แล้ว

นายจิรายุ เปิดเผยอีกว่า นายกฯระบุว่า รัฐบาลเร่งพัฒนาการวิจัย (R&D) ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านมีการวิจัยที่ดี และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น  ทำให้ลูกค้ามาซื้อของดีราคาถูก มีคุณภาพจัดส่งง่าย ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร่งดำเนินการด้านการวิจัยเพิ่มเติมใน ทุกผลิตภัณฑ์ส่งออกของไทย เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ส่วนปัญหาการความล่าช้าในการผ่านด่านส่งออก ซึ่งส่งผลให้ผลไม้เกิดความเสียหายนั้น รัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขเพื่อลดระยะเวลาให้สั้นที่สุด ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการด้านเอกสารให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะดำเนินการในรูปแบบ One Stop Service เพื่อให้สามารถดำเนินการทุกขั้นตอนได้จบในจุดเดียว และสามารถส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 

ส่วนของมาตรการควบคุมคุณภาพ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะ เพื่อกำหนดแนวทางการควบคุมคุณภาพผลผลิตให้ชัดเจน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อให้เกิดการหารือร่วมกันในพื้นที่ ระหว่าง เกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการล้ง เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในเรื่องของมาตรฐานคุณภาพและราคารับซื้อ

ในส่วนของ การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทยติดตามความคืบหน้าในด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับ ปัญหาช้างป่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป็นปัญหากรณีพิเศษจะลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อรับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและพิจารณาว่าสามารถให้ความช่วยเหลือในรูปแบบใดได้บ้าง พร้อมทั้งจะประสานงานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป

จากนั้นนายกรัฐมนตรีชมนิทรรศการสถานการณ์การผลิตผลไม้ของจังหวัดจันทบุรีและภาคตะวันออกและการนำเสนอการใช้เทคโนโลยีการเกษตร ที่มีการใช้โดรนในพื้นที่สวนรักตะวัน โดยสวนดังกล่าว มีการทำเกษตรแบบ Business Model Canvas พร้อมเยี่ยมชมสวนทุเรียนและหนึ่งในนั้นมีต้นทุเรียนโบราณอายุกว่า 100 ปี และยังเป็นทุเรียนต้นแรกหรือทุเรียนชุดแรกที่ถูกนำมาปลูกในพื้นที่  ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำการปลูกต้นทุเรียนหมอนทอง ซึ่งปลูกคู่กับต้นทุเรียนของ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทยทึ่ได้ปลูกต้นทุเรียนในโอกาสมาศึกษาดูงานที่จังหวัดจันทบุรีเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565