'ปริญญา' เตือนทุกฝ่ายยึดกติกา อย่าสร้างเงื่อนไขเรียกทหารมาอีก

'ปริญญา' รำลึกเหตุการณ์ 33 ปี 'พฤษภา 35' เตือนทุกฝ่ายต้องยึดกฎกติกาบ้านเมือง ชี้ไทยยังไม่พ้นวงจรรัฐประหาร ขออย่าสร้างเงื่อนไขเรียกทหารออกมาอีก
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2568 ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถ.ราชดำเนิน นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ให้สัมภาษณ์เนื่องในวาระ 33 ปี เหตุการณ์พฤษภาประชาคม โดยระบุว่า สวนแห่งนี้ตั้งใจให้เป็นสถานที่เรียนรู้ประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก แม้ผ่านมากว่า 3 ทศวรรษ ประเทศไทยยังเผชิญ รัฐประหารและความรุนแรงทางการเมือง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะหลังพฤษภา 35 ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า “จะไม่มีการรัฐประหารอีก” แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม
“ถึงปี 2568 แล้ว ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าการรัฐประหารหรือการนองเลือดจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะเรายังไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด โดยปี 2570 ที่จะครบรอบ 35 ปี ควรเป็นวาระเปิดสวนสันติพรอย่างสมบูรณ์ และหวังว่าเหตุการณ์เศร้าสลดแบบเดิมจะไม่เกิดขึ้นอีก” นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวถึงผู้นำเหล่าทัพว่า ควรออกมารับปากกับประชาชนและวีรชนว่า จะไม่แทรกแซงการเมืองหรือล้มล้างรัฐธรรมนูญอีก พร้อมเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ร่วมกันป้องกันไม่ให้ประชาธิปไตยล้มเหลวจนกลายเป็นเงื่อนไขให้ทหารออกมายึดอำนาจ ทั้งนี้ ประชาชนเองก็มีหน้าที่สำคัญ ต้องไม่ไปเรียกร้องให้กองทัพออกมาจัดการ ไม่ควรล้อมหน่วยเลือกตั้ง หรือปฏิเสธกติกา เพราะประชาธิปไตยต้องดำเนินไปภายใต้รัฐธรรมนูญ
เมื่อถูกถามถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองในปัจจุบัน โดยเฉพาะสีแดงกับสีน้ำเงิน นายปริญญา กล่าวว่า เปรียบเหมือนกีฬา แข่งขันกันได้ภายใต้กติกา เหมือนมวยที่ต่อยกันบนเวที หรือฟุตบอลที่แข่งกันในสนาม หากใครชนะก็ได้เป็นรัฐบาล ใครแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน และให้ประชาชนตัดสินใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า
“ไม่มีเหตุผลใดที่ชอบธรรมต่อการรัฐประหาร หากทุกคนอยู่ในกติกา ปัญหาจะไม่ถึงทางตัน และทหารก็จะไม่ออกมา” นายปริญญา กล่าว







