นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ สอย ‘ทวี’ - ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ

นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ สอย ‘ทวี’ - ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ

นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ ติดเบรก ‘ทวี’ ลุ้นคดี ป.ป.ช. ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ จับตาวิปวุฒิฯ 16 พ.ค.68 ตั้งกมธ.สอบประวัติ ‘ตุลาการศาล รธน.- กกต.’

KEY

POINTS

  • สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ปมร้อน “โพยฮั้ว สว.” ยังคงสะท้อนฉาก “นิติสงคราม” ภายใต้เกมไฟต์ติ้งระหว่างฝั่ง “แดง-น้ำเงิน” ผ่านสงครามตัวแทน
  • เกมเอาคืนของ “ฝั่งสีน้ำเงิน”  ยังยื่นคำร้อง “คู่ขนาน” ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ “บิ๊กวี” และ “บิ๊กแพร” พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และผิดจริยธรรม
  • “ฝั่งสีน้ำเงิน” ก็กำลังเผชิญกับ “เกมเร็ว” ไล่ล่า หวังทุบสีน้ำเงินให้แตกรัง สร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึง “ผู้กุมอำนาจตัวจริง”
  • การเปิดเกมเบรกจาก “หมอเปรม” นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.สายสีแดง เรียกร้องให้ “ชะลอ” วาระตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติ ผู้ได้รับการเสนอชื่อ เป็น “กกต.” และ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”   เนื่องจากมีความเร่งรีบชนิด  “แทบจะเอาเสลี่ยงไปหามเข้ามา”
  • “เกมสีน้ำเงิน” ไม่ได้จบแค่นี้แน่นอน แต่อาจ “เล่นใหญ่” ถึงขั้นใช้สงครามตัวแทนยื่นสอย “ทวี” ในฐานะตัวแทน สทร.ลงจากเก้าอี้ หวังผลไปถึง “เกมเขย่าดุลอำนาจ” ครั้งสำคัญ

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ปมร้อน “โพยฮั้ว สว.” ยังคงสะท้อนฉาก “นิติสงคราม” ภายใต้เกมไฟต์ติ้งระหว่างฝั่ง “แดง-น้ำเงิน” ผ่านสงครามตัวแทน

วันที่ 14 พ.ค.68 ศาลรัฐธรรมนูญ มีการพิจารณาคำร้องที่ “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร” สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ซึ่งรู้กันทั้งบางว่าเป็น “สว.สายสีน้ำเงินเข้ม” และเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เปิดเกมเอาคืนกรณีสอบโพยฮั้ว สว. ด้วยการ นำรายชื่อ 92 คน ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมและ “บิ๊กวี” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม  

โดยกล่าวอ้างถึงพฤติกรรมของ “2 รัฐมนตรี” ในฐานะ “ประธาน-รองประธาน” คณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งรับคดีโพยฮั้ว สว.ในส่วนของ “คดีฟอกเงิน” ไว้เป็นคดีพิเศษ อันอาจเข้าข่ายแทรกแซงอำนาจหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กลั่นแกล้งข่มขู่วุฒิสภา ถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5)

ทั้งนี้ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า “ภูมิธรรม” ผู้ถูกร้องที่ 1 ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วน  “พ.ต.อ.ทวี” ผู้ถูกร้องที่ 2 ดำรงตำแหน่งรมว.ยุติธรรม มีหน้าที่และอำนาจ ในการสั่ง และปฏิบัติราชการในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการกระทรวงยุติธรรมอันรวมไปถึงดีเอสไอ

ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า พ.ต.อ.ทวี ผู้ถูกร้องที่ 2 มีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรมเฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวน คดีพิเศษ และรองประธาน กคพ. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย

นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ สอย ‘ทวี’ - ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ

เกมนิติสงคราม “แดง-น้ำเงิน” มีแผล

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ”  ชิงเกมเร็วขยี้ซ้ำ โดยเชื่อว่า กรณีที่ศาลสั่งให้ “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ รมว.ยุติธรรม จะเจอ “คิดบัญชี” หลังจากนี้อย่างแน่นอน 

อย่างที่รู้กัน นอกเหนือจากการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว  หากย้อนกลับไปในช่วงเวลาดังกล่าว ยังพบเกมเอาคืนของ “ฝั่งสีน้ำเงิน”  ยังยื่นคำร้อง “คู่ขนาน” ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ “บิ๊กวี” และ “บิ๊กแพร” พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และผิดจริยธรรม กรณีกล่าวหาการฮั้วเลือก สว.เข้าข่ายความผิดอั้งยี่ และฟอกเงิน จนถึงเวลานี้ยังต้องรอลุ้นการพิจารณาของป.ป.ช.

เช่นนี้ต้องจับตา “คดีฮั้ว สว.” ที่มีการเปิดฉากนิติสงครามเอาคืนกันไปมา จนทำให้ต่างฝ่ายต่างมีแผล  ฝั่ง “ทวี” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นตัวแทนฝั่ง “ดุลอำนาจสีแดง”  ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ดูแลดีเอสไอ  ขณะที่ “บิ๊กแพร”  ขุนพลข้างกาย ก็ยังมีคำร้องที่ค้างคาอยู่ในป.ป.ช. 

กลายเป็นว่าเผือกร้อนตกไปอยู่ในมือ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องตั้งรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งมาดูแลดีเอสไอ แทน “ทวี” ในระหว่างถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ สอย ‘ทวี’ - ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ

ขณะที่ “ฝั่งสีน้ำเงิน” ก็กำลังเผชิญกับ “เกมเร็ว” ไล่ล่า หวังทุบสีน้ำเงินให้แตกรัง สร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึง “ผู้กุมอำนาจตัวจริง”

ทั้งกรณีการแจ้งข้อหา “55 สว.” จำนวนนี้มีระดับผู้คุมเกมคือ “มงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิสภา และ “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 รวมอยู่ด้วย

แถมยังมี สว.ล็อต 2 ที่จะถูกออกหมายเรียกตามมา อีก 97 ราย ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่า กลุ่มนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนโดยเฉพาะเรื่องกระแสเงินที่มีการจ่ายให้หัวละ 5,000 - 20,000 บาท รวมมีเงินหมุนเวียนประมาณ 500 ล้านบาท ถึงขั้นที่ว่า อาจเชื่อมโยงถึง “ผู้บงการ” ซึ่งเป็น “ผู้มีอิทธิพล” อีกด้วย

นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ สอย ‘ทวี’ - ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ

สรรหาตุลาการ “แดง-น้ำเงิน” วัดพลัง

เหนือไปกว่านั้นที่ต้องจับตาคือ ในจังหวะที่ “คดีโพยฮั้ว สว.”  กำลังเป็นเกมไฟต์ติ้งระหว่าง “แดง-น้ำเงิน” นี้เอง ยังเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ “องค์กรอิสระ” กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน 

เมื่อ “ดุลอำนาจสภาสูง” ซึ่งมีอำนาจในการสรรหาบุคคลในองค์กรอิสระถูกรวบไว้ที่ “สีน้ำเงิน” ขณะที่ดุลอำนาจในองค์กรอิสระเหล่านี้อยู่ในสภาวะ “ปลา 2 น้ำ” ทั้ง “อำนาจเก่า” และ “อำนาจใหม่”

จึงได้เห็นสัญญาณการ “ซ่อนไพ่” ต่อรองอยู่กลายๆ โดยเฉพาะในส่วนของ การสรรหา “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” 2 คน แทน “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์”ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และ “ปัญญา อุดชาชน” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการสรรหา รอบที่สอง หลังที่ประชุมวุฒิสภา ตีตก “สิริพรรณ นกสวน สวัสดี” นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ “ชาตรี อรรจนานันท์” อดีตอธิบดีกรมการกงสุล และอดีตเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเฮก เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

“2 ชื่อ” ที่ถูกเสนอโดยคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มี “ชนากานต์ ธีรเวชพลกุล” ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 ที่ผ่านมา  คือ “สุธรรม เชื้อประกอบกิจ” อาจารย์สาขา รัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ “สราวุธ ทรงศิวิไล” อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และอดีตอธิบดีกรมทางหลวง

น่าสนใจตรงที่มาที่ไปของ “สราวุธ” เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง ยุค “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นรมว.คมนาคม และอยู่จนครบวาระ 4 ปี ก่อนต่ออายุราชการอีก 1 ปี ในยุค “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม คนปัจจุบัน  กระทั่งครบกำหนดเกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา

แน่นอนว่า ในห้วงที่สีน้ำเงินคุมสภาสูง ไม่ต่างจากชื่อของ  “สราวุธ” ซึ่งถูกโยงว่าเป็นตัวแทนจากฟากฝั่งการเมืองส่งเข้าประกวด

นิติสงคราม ‘ฮั้ว สว.’ ลาม ครม. ‘น้ำเงิน’ สอย ‘ทวี’ - ‘แดง’ ขวางสรรหาองค์กรอิสระ

ไม่แปลกที่ล่าสุด จะได้เห็นการเปิดเกมเบรกจาก “หมอเปรม” นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.สายสีแดง เรียกร้องให้ “ชะลอ” วาระตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติ ผู้ได้รับการเสนอชื่อ เป็น “กกต.” และ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”  ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา ที่มีประธานวุฒิสภา เป็นประธาน ในวันที่ 16 พ.ค.68 นี้  ออกไปก่อน 

“หมอเปรม” อ้างถึงความเร่งรีบในการเสนอชื่อเปรียบเปรยว่า  “แทบจะเอาเสลี่ยงไปหามเข้ามา” ทั้งที่ในห้วงเวลานี้ สว.ส่วนใหญ่กำลังถูกตรวจสอบ

เป็นเช่นนี้ต้องจับตาประเด็น “โพยฮั้ว สว.” ภายใต้ฉาก “นิติสงคราม” ผ่านศึกตัวแทนที่กำลังเปิดฉากรบอยู่ในเวลานี้ทำท่าจะเริ่มลามสู่ ครม.ให้เป็นกรณีตัวอย่างเอาคืนรัฐมนตรี 

 ว่ากันว่า “เกมสีน้ำเงิน” ไม่ได้จบแค่นี้แน่นอน แต่อาจ “เล่นใหญ่” ถึงขั้นใช้สงครามตัวแทนยื่นสอย “ทวี” ในฐานะตัวแทน สทร.ลงจากเก้าอี้ หวังผลไปถึง “เกมเขย่าดุลอำนาจ” ครั้งสำคัญในขั้วรัฐบาล ท่ามกลาง “เกมต่อรอง” ที่แรงขึ้นทุกที ส่วนจะแตกหักเมื่อไร คงได้ลุ้นไม่นานเกินรอ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์