‘แพทองธาร’ กลางไฟแค้น เอฟเฟกต์ผลงาน นับถอยหลังรัฐบาล

‘แพทองธาร’ กลางไฟแค้น เอฟเฟกต์ผลงาน นับถอยหลังรัฐบาล

การบริหารจัดการของนายกฯ แพทองธาร ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ อาจทำได้แค่ประคองตัว ไม่ให้บอบช้ำ หรือต้องหวังให้ 2 ฝ่ายยุติการห้ำหั่น เพราะหวาดเสียวจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนลุยต่อสมัยหน้าไม่ได้นั่นเอง 

KEY

POINTS

  • ความขัดแย้งของ2เจ้าสำนักแดง-น้ำเงิน ลงลึกและรุนแรง สะท้อนผ่านหลายกรณี จนมีบ่วงที่ผูกขาแต่ละฝ่าย
  • การทำงานของรัฐบาลภายใต้บรรยากาศขบเหลี่ยม สกัดตัดขากันไปมา ย่อมเกิดปัญหาในการเดินหน้าสร้างผลงาน เรียกคะแนนนิยม
  • จับตา การผ่านงบฯ69 อาจเป็นผลงานส่งท้ายของรัฐบาลแพทองธาร ก่อนเข้าสู่โหมดเตรียมเซ็ตซีโร่เลือกตั้งใหม่หรือไม่

สถานการณ์การเมืองชั่วโมงนี้ หมดเวลาฮันนีมูนมานานแล้ว เดินหน้าเข้าสู่โหมดเจ็บจริง ตายจริง เต็มตัว จากความระหองระแหงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล จนบานปลายกลายเป็นการฟาดฟันของ 2 เจ้าของ ค่ายแดง และน้ำเงิน

ปฏิบัติการของ กกต.และดีเอสไอ เปิดเกมเร็ว ปิดหมายเรียก ประเดิม 55 สว.ตัวจี๊ดล็อตแรก ในคดีพิเศษตามข้อกล่าวหาฮั้ว สว.สร้างแรงกระเพื่อมไปถึงองคาพยพจากค่ายน้ำเงินอย่างจัง โดยเฉพาะกับกระทรวงมหาดไทย และพรรคการเมืองบางพรรคเต็มๆ

ทักษิณ ชินวัตร เองขณะนี้ก็ขยับลำบาก หลังมติแพทยสภา ชี้ชัดว่าหมอ 3 ราย ให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง นั่นเท่ากับว่า กรณีป่วยทิพย์ ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ ค่อนข้างมีน้ำหนัก

ห้วงเวลานี้ ทักษิณ มีคิวขึ้นลงศาลบ่อย เมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันที่แพทยสภาลงดาบ 3 หมอ ทักษิณ ในฐานะจำเลยตามข้อกล่าวหาคดี ม.112 ยื่นคำร้องขอออกนอกประเทศ แต่สุดท้ายศาลปฎิเสธ และ 13 มิ.ย.นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดผู้เกี่ยวข้องชี้แจง กรณีอาจมีการบังคับตามคำพิพากษาไม่เป็นไปตามหมายจำคุก 1 ปี เมื่อคดีถึงที่สุดของทักษิณ และมติของแพทยสภา ก็ทำเอาหลายคนหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามกัน

ท่ามกลางศึกของผู้มีอำนาจ 2 สี ย่อมสะเทือนถึงการทำงานของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องอยู่ระหว่างเกมโหดของไฟขัดแย้ง 

ฝั่งหนึ่งคือพ่อ อีกฝั่งคือเจ้าของพรรคร่วมฯ พรรคหนึ่ง ซึ่งมีเครือข่ายที่สร้างแรงต่อรองในรัฐบาลได้มหาศาล พยายามขวางทางสว่างของเพื่อไทยแทบทุกประตู และมีกลไกยื่นสอยนายกฯ อยู่ในมือ

บรรยากาศที่แพทองธาร กำลังเผชิญ จึงนับว่ารากเลือด ถ้าไม่นับความไม่แน่นอนทางการเมือง ก็ยังต้องเจอกับปัญหาบ้านเมืองนับไม่ถ้วน ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพรรคในรัฐบาลผสม ย่อมเดินหน้าแก้ปัญหาต่างๆ ได้ยากลำบาก

ไหนจะเศรษฐกิจปากท้อง สงครามการค้า ตัวเลขการเติบโตของประเทศ การดับไฟใต้ที่ปะทุเดือดอีกครั้งในรอบหลายปี นโยบายเรือธงทั้งหลายที่ยังลอยเท้งเต้ง มองไม่เห็นฝั่ง ล้วนเป็นความท้าทายสำหรับนายกฯ แพทองธาร ทั้งสิ้น อาการหายใจไม่ทั่วท้องของแพทองธาร ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา

ข้อสังเกตสำคัญที่มีมาตั้งแต่ก่อนที่ลูกสาวทักษิณจะขึ้นมาเป็นนายกฯ หากมีตำแหน่งเมื่อไหร่ ก็เท่ากับถูกขึง หรือกลายเป็นตัวประกันทางการเมืองเมื่อนั้น วันนี้อาจมีบางฝ่ายประเมินว่า พล็อตเรื่องที่ว่าได้เป็นเช่นนั้นแล้ว

เกมลากไส้ ฮั้ว สว.เป้าใหญ่ อาจไม่ได้อยู่ที่บรรดา สว.เท่าที่เห็นเท่านั้น แต่มีแนวโน้มสูงที่สามารถขยายผลตามพยานหลักฐานต่างๆ ในมือดีเอสไอ และ กกต. ว่าเชื่อมโยงถึงนักการเมืองระดับรัฐมนตรี รวมถึงแก๊งลูกเทพทั้งหลาย

ความตึงเครียดระหว่าง 2 ผู้มีอำนาจ แดงและน้ำเงิน ต่างมีแรงขับ คือ แรงแค้นฝังหุ่น เปิดหน้าแลกไปมา เอฟเฟกต์ย่อมมีผลต่ออายุรัฐบาลที่อาจสั้นลง 

สัญญาณสำคัญคือการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 69 ผ่านสภาฯ และมีผลบังคับใช้ตามกำหนดไทม์ไลน์เดิม งานนี้อาจเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของพรรคร่วมฯ จากนั้นอาจเห็นการเขย่าขวด เซ็ตซีโร่เลือกตั้งใหม่

เพราะหากไม่ดันงบฯ 69 ให้ผ่าน แล้วเอาเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมืองเพื่อล้มนายกฯ ล้มรัฐบาล หรือหาเหตุเปลี่ยนตัวนายกฯ ก็อาจจะดูทุ่มทุนสร้างเกินไป มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ เช่น หาเหตุให้ สว.เข้าชื่อเสนอศาลรัฐธรรมนูญ สอยพ้นตำแหน่ง

บรรดานักเลือกตั้งคงไม่มีใครเสี่ยงไปตายดาบหน้า ในเมื่อเวลานี้ยังมีอำนาจในการพิจารณาจัดสรรงบฯ แล้วจะตัดช่องทาง หรือทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม ยิ่งถ้าจะแตกหักเลือกตั้งเร็ว ก็ยิ่งต้องเร่งให้งบฯ ผ่านเร็ว ทุนรอนเฉพาะหน้าจะได้พร้อม ไม่เช่นนั้น หากบุ่มบ่ามเอาสะใจ พอเลือกตั้งกลับมา อาจไม่มีของให้ใช้

การบริหารจัดการของนายกฯ แพทองธาร ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ อาจทำได้แค่ประคองตัว ไม่ให้บอบช้ำ หรือต้องหวังให้ 2 ฝ่ายยุติการห้ำหั่น เพราะหวาดเสียวจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนลุยต่อสมัยหน้าไม่ได้นั่นเอง