ผ่าพอร์ตหุ้น ‘ชาญวีรกูล’ ใน STEC ‘ลูกอนุทิน’ ใหญ่สุด 23% ‘น้อง’ 6%

พอร์ตหุ้น STECON บริษัทรับเหมาสร้างสภาฯใหม่ พบ ‘ชาญวีรกูล’ ยังถือหุ้นรวมกันมากสุด ‘เศรณี-นัยน์ภัค’ 2 บุตรชาย-บุตรสาว ‘อนุทิน’ ยังถือครองมากสุดผ่านบริษัทเครือข่าย 23.1%
KEY
POINTS
- ผ่าจักรวาลพอร์ตหุ้น STECON ร่างใหม่ของ STEC บริษัทรับเหมาสร้างสภาฯใหม่ พบ ‘ชาญวีรกูล’ ยังถือหุ้นรวมกันมากสุด
- ‘เศรณี-นัยน์ภัค’ 2 บุตรชาย-บุตรสาว ‘อนุทิน’ ยังถือครองมากสุดผ่านบริษัทเครือข่าย 23.1%
- ส่วน ‘อนิลรัตน์-มาศถวิน’ น้องสาว-น้องชาย ถือรวมกัน 6.43%
กรณีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC บริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่มี “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” อดีตรัฐมนตรี หลายสมัย เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บุตรชาย เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในช่วงปี 2535 - 2547 ก่อนลาออกจากบริษัท
ท่ามกลางสถานการณ์ ที่ฝ่ายสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพิ่งตรวจรับงาน โครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ครบ 100% ไปเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา แต่กลับมีการของบประมาณนับพันล้านบาท เพื่อปรับปรุง รัฐสภานี้เพิ่มเติม จนถูกสาธารณชนกังขาหลายแง่มุม
กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอไปแล้วว่า STEC ปัจจุบันได้ขอเพิกถอนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อปรับโครงสร้างหุ้น โดยโอนหุ้น 1 ต่อ 1 ไปยังบริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ตั้งแต่ ต.ค. 2567 โดย STECON มีบริษัท ซี.ที.เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทโฮลดิ้งของตระกูลชาญวีรกูล) ถือหุ้นใหญ่สุด 19.33% ที่เหลือมีคนในตระกูล “ชาญวีรกูล” ร่วมถือหุ้น และบริษัทอื่นๆ ร่วมถืออีกจำนวนไม่น้อย
สำหรับ บริษัท ซี.ที.เวนเจอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2535 ทุนปัจจุบัน 5,361,000,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 32/55 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ ลงทุนในธุรกิจอื่น มีกรรมการ 2 คนคือ นัยน์ภัค ชาญวีรกูล และ เศรณี ชาญวีรกูล บุตรสาว และบุตรชายของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ เม.ย.2567 ปรากฏชื่อ เศรณี ชาญวีรกูล ถือ 50.0001% และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล ถือ 49.9999% นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 2,743,243,066 บาท หนี้สินรวม 399,725,860 บาท รายได้รวม 220,709,064 บาท รายจ่ายรวม 45,901,431 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 5,668,953 บาท เสียภาษีเงินได้ 31,394,122 บาท กำไรสุทธิ 137,744,558 บาท
บริษัท ซี.ที.เวนเจอร์ จำกัด ยังถือหุ้นในอีก 3 บริษัทใหญ่ ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ถือ 15.35% จำนวน 234,086,788 หุ้น มูลค่า 2,405,318,604 บาท บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) ถือรองลงมาที่ 6.91% จำนวน 30,000,000 หุ้น มูลค่า 81,681,283 บาท บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด ถือ 1.98% จำนวน 300,000 หุ้น มูลค่า 2,323,682 บาท และบริษัท เอช ที อาร์ จำกัด ถือ 1 หุ้น
ส่วน STEC หรือ “ซิโน-ไทย” (เดิม) ยังถือหุ้นอีก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด 20% บริษัท ไทย เมนเทนแนนซ์ คอนแทรคติ้ง จำกัด 19% บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) 9% และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 1.88%
ขณะที่ STECON หรือ “ซิโน-ไทย” (ใหม่) ถือหุ้นในบริษัทอื่นอย่างน้อย 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท สเตคอน โลจิสติกส์ แอนด์ ทรานสปอร์เทชั่น จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการด้านโลจิสติกส์ จำนวน 99.98%
ในส่วนของ 2 “บุตรสาว-บุตรชาย” ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” พบว่า ไปถือหุ้นอีกหลายแห่ง แบ่งเป็น นัยน์ภัค ชาญวีรกูล ถือหุ้น 9 บริษัท และเศรณี ชาญวีรกูล ถือหุ้น 7 บริษัท โดยทั้ง 2 คนถือหุ้นร่วมกัน 4 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท ซี.ที.เวนเจอร์ จำกัด วัตถุประสงค์ ลงทุนในธุรกิจอื่น (นัยน์ภัค ถือ 50% เศรณี ถือ 50%)
2.บริษัท อิควิตี้ พลัส จำกัด วัตถุประสงค์ การลงทุนในหลักทรัพย์ (นัยน์ภัค ถือ 50% เศรณี ถือ 50%)
3.บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก หลักทรัพย์ (นัยน์ภัค ถือ 50% เศรณี ถือ 50%)
4.บริษัท วัน พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) วัตถุประสงค์ กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก (นัยน์ภัค ถือ 25.50% เศรณี ถือ 25.50%)
นัยน์ภัค ชาญวีรกูล ถือเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท เจริญคีรี จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมการดำเนินงานของสนามบิน (ยกเว้น การขนถ่ายสินค้า) (ถือ 41.90%)
2.บริษัท สยามกลอรี่ จำกัด วัตถุประสงค์ การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย (ถือ 91.44%)
3.บริษัท ศรัทธาธรรม คอนสตรัคชั่น จำกัด วัตถุประสงค์ ขายเครื่องจักร และอะไหล่ ถือ 1 หุ้น
4.บริษัท ซิโน ไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด วัตถุประสงค์ ลงทุนในธุรกิจอื่น (ถือ 5.00%)
5.บริษัท เพอร์เพชวล พรอสเพอริตี้ จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่า และการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย (ถือ 99.97%)
ส่วนเศรณี ชาญวีรกูล ถือเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) วัตถุประสงค์ การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น (ถือ 1.10%)
2.บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด วัตถุประสงค์ สโมสรฟุตบอล (ถือ 0.86%)
3.บริษัท แมทเทอร์ 365 จำกัด วัตถุประสงค์ ร้านขายปลีกเสื้อผ้า (ถือ 45.00%)
ขณะที่ “น้องสาว-น้องชาย” ของ “อนุทิน” ที่เข้าไปถือหุ้นใน STECON คือ อนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ ถือ 4.75% มาศถวิน ชาญวีรกูล ถือ 1.68% พบว่า ทั้ง 2 คนยังถือหุ้นเพิ่มเติมอีกหลายบริษัทเช่นกัน แบ่งเป็น อนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ 10 บริษัท (เลิกกิจการ 1 แห่ง เสร็จชำระบัญชี 1 แห่ง)
1.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) วัตถุประสงค์ การก่อสร้าง ถือ 1.67%
2.บริษัท กอล์ฟเขาใหญ่ จำกัด วัตถุประสงค์ การดำเนินงานเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการแข่งขันกีฬา ถือ 21.67% โดยบริษัทแห่งนี้ กำลังถูกคณะทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปตรวจสอบโฉนดที่ถูกสร้างเป็นรีสอร์ตบริเวณเขาใหญ่
3.บริษัท เจริญคีรี จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมการดำเนินงานของสนามบิน (ยกเว้น การขนถ่ายสินค้า) ถือ 21.28%
4.บริษัท เจ้าพระยา เอสเตต เรสซิเด้นซ์ จำกัด วัตถุประสงค์ ให้บริการบริหารจัดการที่พักอาศัยประเภทโรงแรม อาคารชุด คอนโดมิเนียม และประเภทอื่นๆ ถือ 0.16%
5.บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมที่เกี่ยวกับคลังสินค้าและการจัดเก็บสินค้าอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ถือ 1 หุ้น
6.บริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบธุรกิจเกี่ยวติดตั้ง ผลิต และจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าและพลังงานทดแทน ถือ 1 หุ้น
7.บริษัท เอสที ฮับ จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง ถือ 1 หุ้น
8.บริษัท เอสที ฮิลล์ จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง ถือ 1 หุ้น
9.บริษัท เพอร์เพชวล พรอสเพอริตี้ จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย ถือ 1 หุ้น
10.บริษัท ซิโน ไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด วัตถุประสงค์ ลงทุนในธุรกิจอื่น ถือ 5%
ส่วน มาศถวิน ชาญวีรกูล ถือ 5 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) วัตถุประสงค์ การก่อสร้าง ถือ 1.67%
2.บริษัท ฟิลอัพ เนตเวิร์ค จำกัด วัตถุประสงค์ การขายปลีกเชื้อเพลิงยานยนต์ในร้านค้าเฉพาะ สถานี ปั๊ม ถือ 1 หุ้น
3.บริษัท อิมแพคท์ โซล่าร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด วัตถุประสงค์ การผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ถือ 1 หุ้น
4.บริษัท เพอร์เพชวล พรอสเพอริตี้ จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย ถือ 1 หุ้น
5.บริษัท ซิโน ไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด วัตถุประสงค์ ลงทุนในธุรกิจอื่น ถือ 5%
ก่อนหน้านี้ "มาศถวิล" เคยถือหุ้นในธุรกิจกัญชงกัญชา แต่เลิกกิจการ เสร็จชำระบัญชีไปแล้ว
ส่วน “นิติบุคคล” อื่นๆ ที่เข้าไปถือหุ้นใน STECON นอกเหนือจาก “ซี.ที.เวนเจอร์” ที่เป็นธุรกิจ “โฮลดิ้ง” ของบุตรสาว-บุตรชาย “อนุทิน” เช่น บริษัท พี.พี.โกลบอล เวลท์ จำกัด ถือ 5.08% พบว่ามี ปราณี พิริยะมาสกุล ถือหุ้นใหญ่สุด 99.98% โดยเธอปรากฏความสัมพันธ์กับ “อนุทิน” ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน กรณีกู้ยืมเงินกว่า 8.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอื่นอีกอย่างน้อย 7 แห่ง โดยบางส่วนเป็นธุรกิจในเครือ “ชาญวีรกูล” ได้แก่ บริษัท บียอนด์ แอสเส็ท 56 จำกัด บริษัท พี.พี. โกลบอล เวลท์ จำกัด บริษัท พีแอลเอ็ม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด บริษัท สยามกลอรี่ จำกัด บริษัท สยามพรีมิส จำกัด บริษัท เจริญคีรี จำกัด และบริษัท เนชั่นแนล ยูเนี่ยน จำกัด
บริษัท โกลเด้น เอร่า แคปิตอล จำกัด ถือ 4.22% พบว่ามี พัชรา จิรรัตน์สถิต ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9933% โดยเธอคือภรรยาของ “จารุณัฐ จิรรัตน์สถิต” กรรมการบริหาร STECON Group และเคยถูกโปรโมตว่าเป็นผู้ “รับไม้ต่อ” บริหารกิจการ STECON Group คนต่อไป นอกจากนี้ พัชรา จิรรัตน์สถิต ยังถือหุ้นโดยตรง STECON จำนวน 1.1686%
บริษัท แอสเซท เลกาซี่ จำกัด ถือ 1.9430% พบว่ามี ณิศนาถ อนันตชัย ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9980% โดยก่อนหน้านี้เธอเคยถือหุ้นโดยตรง STEC แต่ปัจจุบันมิได้เป็น 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว
ส่วนบริษัท อิควิตี้ พลัส จำกัด ถือ 3.20% และ บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด ถือ 0.57% พบว่า 2 บริษัทดังกล่าวเป็นธุรกิจของ “เศรณี-นัยน์ภัค” บุตรชาย-บุตรสาวของ “อนุทิน” ถือหุ้นใหญ่คนละ 50%
ทั้งหมดคือเครือข่ายจักรวาล “พอร์ตหุ้น” ของ STECON ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง “ร่างใหม่” ของ STEC โดยยังไม่นับบรรดา กองทุนต่างประเทศที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทแห่งนี้ พบว่า STECON ยังคงมีตระกูล “ชาญวีรกูล” ถือหุ้นใหญ่สุดผ่านเครือข่าย “บุตรชาย-บุตรสาว” ของ “อนุทิน” ถือหุ้นทั้งทางตรง และทางอ้อม (ผ่านบริษัทต่างๆ) รวมกันอย่างน้อย 23.1% (ซี.ที.เวนเจอร์ 19.33% อิควิตี้ พลัส 3.20% เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ 0.57%) ส่วนน้อง 2 คนถือรวมกัน 6.43% (อนิลรัตน์ ถือ 4.75% มาศถวิน ถือ 1.68%)
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์