เรื่องวุ่นๆ ‘บิ๊กสมาคมกีฬา’ ควันหลงเลือก ‘ปธ.โอลิมปิคฯ’

เรื่องวุ่นๆ ‘บิ๊กสมาคมกีฬา’  ควันหลงเลือก ‘ปธ.โอลิมปิคฯ’

เบื้องลึกเบื้องหลัง ย้อนเลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ เมื่อ 25 มี.ค. วันแตกหัก "บิ๊กน้อย" กับ “เสี่ยเจริญ” ลาม "บิ๊กสุชัย" ถูกครหาเตรียมเงินซื้อเสียง 200 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • บิ๊กสุชัย ถูก เสี่ยเจริญ กล่าวหาเตรียมเงินซื้อเสียง 200 ล้านบาท แพ้เลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ กลับบอกเป็นเงินบริจาค
  • บิ๊กน้อย ออกโรงในฐานะเป็นผู้สนับสนุน บิ๊กสุชัย ชิงเก้าอี้เลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ และเป็นผู้เสนอชื่อเสี่ยเจริญ เป็นประธานการเลือกตั้ง

 

ดูเหมือนยังไม่จบ แม้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ประกาศรับรอง “บิ๊กเอ” พิมล ศรีวิกรม์ เป็นประธานโอลิมปิคแห่งประเทศไทยไปแล้ว

หลัง “บิ๊กสุชัย” สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย คู่ชิงเก้าอี้ประธานโอลิมปิคฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้ “เสี่ยเจริญ” เจริญ วรรธนะสิน รองประธานโอลิมปิคฯ คนปัจจุบัน กล่าวหามีการเตรียมเงินไว้ 200 ล้านบาทซื้อเสียง เสียงละ 5 ล้านบาท มีสมาคมกีฬารับไว้เพียง 2 สมาคม เมื่อแพ้การเลือกตั้ง กลับให้ข่าวว่าบริจาคด้วยความรักวงการกีฬา

ร้อนถึง “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ต้องออกโรงด้วยตัวเองในฐานะเป็นผู้สนับสนุน “บิ๊กสุชัย” ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานโอลิมปิคฯ

และ “บิ๊กน้อย” ยังเป็นผู้เสนอชื่อ “เสี่ยเจริญ” ให้เป็นประธานการเลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ เมื่อ 25 มี.ค.68 เพราะมองว่า เสี่ยเจริญ ทำหน้าที่นี้มา 7 ครั้ง มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส เป็นกลาง

การแถลงข่าว วานนี้ (5 พ.ค.68)มี “บิ๊กน้อย” มาร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังมี “มนตรี ไชยพันธุ์” อดีตรักษาการ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) “สีหศักดิ์ อารีราชการัณย์” นายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์ และสปีดสเก็ตติ้ง แห่งประเทศไทย “อรรถพล วงศ์รัตน์” ผู้จัดการสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

โดยการแถลงข่าวสรุปใจความได้ว่า เงินจำนวน 200 ล้านบาท เป็นการชูนโยบายของ “บิ๊กสุชัย” หากชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานโอลิมปิคฯ จะขอภาคเอกชนสนับสนุนงบประมาณนำมาเป็นกองทุนสนับสนุนสมาคมกีฬาขาดแคลน 

ตั้งกองทุนขึ้นมา โดยการทำเอ็มโอยู 3 ฝ่าย คือ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬา

ส่วน พล.อ.วิชญ์ ระบุว่า รู้สึกผิดหวังในการเลือกตั้งคือ การเสนอชื่อ นายเจริญ วรรธนะสิน เป็นประธานเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ในการจัดการเลือกตั้งมาแล้วถึง 7 ครั้ง น่าจะมีความเป็นกลาง โปร่งใส นั่นคือ สิ่งที่คนเป็นประธานควรจะให้ความสำคัญ แต่วันนั้นเราได้เห็นแล้วว่า ประธานเลือกตั้งไม่ได้เป็นกลาง ทำให้ผิดหวัง และเสียใจเพราะคิดว่าน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้  

“หลังการเลือกตั้ง นายเจริญ ได้โทรศัพท์มาหา ตำหนิว่าไปให้ข่าวกล่าวหาว่าเขาไม่เป็นกลาง ผมจึงย้อนกลับไปว่าตัวเขาเองควรจะรู้ และละอายใจในสิ่งที่ทำ สิ่งที่พูดออกไปมันคือ ความผิดหวัง ซึ่งก่อนหน้านี้ศรัทธา และเคารพในตัวเขา นี่คือสิ่งที่ผมยืนยันได้เลยว่า นายเจริญ เป็นบุคคลที่ใช้ไม่ได้”

พล.อ.วิชญ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายเจริญ ยังมากล่าวหาในสิ่งที่เขาวางเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เรื่องเงิน 200 ล้านบาท มากล่าวหาว่าเอาเงินมาซื้อเสียงเลือกตั้ง ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ถูกต้อง  

“สิ่งที่ติดใจคือ นายเจริญ ซึ่งอายุ 88 ปีแล้ว แต่ยังพยายามรักษาในสิ่งที่คิดว่าเป็นผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่สุภาพบุรุษ ปากหวานก้นเปรี้ยว วันนี้ขอยืนยันว่าสิ่งที่เขากล่าวหาเป็นเพียงนโยบาย นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ส่วนตัวไม่ได้ติดใจผลเลือกตั้ง ยอมรับ เพราะในเมื่อโอลิมปิกสากลรับรองมาแล้ว ก็หมดหน้าที่ไป แต่สิ่งที่ติดใจคือ นายเจริญ ไม่ยอมจบ”

เรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ย้อนไปวันเลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ เมื่อ 25 มี.ค.68 ขณะนั้น “เสี่ยเจริญ” มีตำแหน่งรักษาการรองประธานโอลิมปิคฯยุค “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นทีมร่วมทำงานกันมานาน

“บิ๊กน้อย” ไว้วางใจเสนอชื่อ “เสี่ยเจริญ” เป็นประธานการเลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ แต่การทำหน้าที่ของ “เสี่ยเจริญ” ในวันที่ 25 มี.ค.68 ถูกมองว่าไม่เป็นกลาง เนื่องจากไม่เปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิคัดค้านได้ใช้สิทธิ จึงเป็นที่มาของการวอล์กเอาต์ ทีมบิ๊กสุชัย

และในช่วงค่ำวันเดียวกันนั้น เสี่ยเจริญ ได้โทรศัพท์มาหา บิ๊กน้อย กรณีถูกกล่าวหาไม่เป็นกลางในการทำหน้าที่ประธานเลือกตั้งประธานโอลิมปิคฯ โดยต่างฝ่ายต่างต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง และเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้พูดคุยกัน

ปัจจุบัน เสี่ยเจริญ ได้นั่งเป็นรองประธานโอลิมปิคฯ อีกสมัย ยุค “พิมล” ก่อนจะมาให้ข่าวกล่าวหาว่า ทีมสุชัย มีการเตรียมเงิน 200 ล้านซื้อเสียง

แน่นอนว่า การเคลื่อนไหว “เสี่ยเจริญ” ถูกมองว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง คอยเสี้ยมให้แตกคอกับ “บิ๊กน้อย” เพราะที่ผ่านมา บิ๊กสุชัย ก็ย้ำชัดเจน เป็นนโยบายเพื่อใช้เป็นกองทุนให้สมาคมกีฬา ไม่มีประเด็นอะไรที่จะต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราว

นอกจากนี้การที่ “เสี่ยเจริญ” ออกมาให้ข่าวเช่นนี้ถูกมองว่า เป็นการดูถูก ต้องการดิสเครดิต บิ๊กสุชัย โดยไม่มีหลักฐาน พร้อมทั้งมีการตั้งข้อสังเกต เสี่ยเจริญได้รับผลประโยชน์อะไรหรือไม่ เพราะได้รับการคัดเลือกจาก “พิมล” ให้นั่งเป็นรองประธานโอลิมปิคฯ

จากนี้คงต้องจับตา เรื่องวุ่นๆ ของบรรดาบิ๊กๆ ในสมาคมกีฬา เพราะทีม “บิ๊กสุชัย” เตรียมหาช่องเอาผิดข้อหาหมิ่นประมาทกับ “เสี่ยเจริญ” คนคุ้นเคย ที่ปัจจุบันเปลี่ยนข้างจากมิตรมาเป็นศัตรู 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์