'ภราดร' แจง งบปรับปรุงสภา เพื่อต่อเติม ใช้ผู้รับเหมาเดิมไม่ได้

"ภราดร" แจง งบปรับปรุง "สภาฯ" เป็นการต่อเติม ไม่ใช่ซ่อมสร้าง ย้ำการเสนอขอเป็นเรื่องหน่วยงานเห็นความจำเป็น สส.มีหน้าที่ตัด-ลด ในชั้นกมธ.
ที่รัฐสภา นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอของบประมาณในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เพื่อปรับปรุงพื้นที่รัฐสภา ซึ่งถูกท้วงติงว่าไม่เหมาะสม ว่า การเสนอของบดังกล่าวตนรับผิดชอบ 3 โครงการ คือ โครงการปรับปรุงห้องสมุด โครงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา งบประมาณ 120 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงระบบเสียงห้องประชุมจำนวน 1,500 ที่นั่ง งบประมาณ 99 ล้านบาท โดย ทุกการใช้งบประมาณจะคุ้มค่ากับเงินภาษีของพี่น้องประชาชน และจะกำกับดูแลทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่าพิพิธภัณฑ์รัฐสภาเป็นเพียงสุสานใต้ถุนรัฐสภานั้น ตนเห็นด้วย เพราะตั้งแต่รับมอบพื้นที่ เมื่อกลางปี2567 ห้องดังกล่าวเป็นเพียงห้องเปล่าที่ไม่สามารถใช้งานได้ จึงสั่งการให้ฝ่ายที่รับผิดชอบเร่งออกแบบ เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต และประชาชนสามารถเข้าใช้งานได้จริง
"ทุกโครงการที่ของบประมาณไปนั้น เป็นเพียงแค่ร่างงบประมาณปี 2569 เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นที่สิ้นสุด ขอเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 1 สิ้นเดือนพ.ค. จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งมีทั้ง สส. และบุคคลภายนอกเข้ามาทำหน้าที่พิจารณาลงลึกในรายละเอียด หากเห็นว่าโครงการหนึ่งโครงการใดไม่คุ้มค่า ก็มีสิทธิ์ที่จะปรับลดงบประมาณในทุกโครงการ จึงขอให้ประชาชนสบายใจว่าการของบประมาณยังไม่เสร็จสิ้น" นายภราดร กล่าว
นายภราดร กล่าวด้วยว่าส่วนกระแสวิจารณ์การของบปรับปรุงดังกล่าวถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่เป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนตื่นรู้กับการใช้จ่ายเงินงบประมาณของทุกหน่วยงานราชการ ทำให้ทุกหน่วยงานต้องยิ่งตระหนักว่างบประมาณทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินภาษีของประชาชน
เมื่อถามว่า ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการรับประกันการก่อสร้างอาคารรัฐสภา เหตุใดจึงไม่ให้ผู้รับเหมาดำเนินการ กล่าวว่า งบประมาณที่ขอไปไม่ใช่งบซ่อมสร้าง แต่เป็นงบต่อเติม เพราะยังมีส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการ และต้องทำในเฟส 2-3 โดยการก่อสร้างเป็นเพียงการเตรียมพื้นที่เอาไว้ เพื่อที่จะรองรับการดำเนินการในอนาคต
เมื่อถามการตั้งงบปรับปรุงในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ไม่เหมาะสม นายภราดร กล่าวว่า การของบประมาณของหน่วยงานสภาฯ เป็นความเห็นที่หน่วยงานเห็นว่าจำเป็น ทั้งนี้อยู่ที่กรรมาธิการฯ จะพิจารณาว่าโครงการใดไม่จำเป็นเร่งด่วน สามารถตัดลดในชั้นกรรมาธิการได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข้อทักท้วงต่อการเสนอของบประมาณ ว่า สส. ไม่ควรแปรญัตติงบประมาณให้หน่วยงานตัวเอง นายภราดร กล่าวว่า สส.ไม่สามารถแปรญัตติเพิ่มให้หน่วยงานใดๆ ไม่เฉพาะรัฐสภา เพราะตามรัฐธรรมนูญทำไม่ได้ หน้าที่ของสส. คือ ตัด ลดงบประมาณ โดยเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการ ที่จะพิจารณาตัด ลด โครงการที่ข้าราชการทำเสนอไปตามขั้นตอน
ถามย้ำว่าการของบปรับปรุง มีสว.ท้วงว่าเป็นภาระของบประมาณแผ่นดิน นายภราดรร กล่าวว่า อยู่ที่ความเหมาะสม หรือ ความคุ้มค่าของงบประมาณที่ใช้ไป บางโครงการลงทุน 100-200 ล้านบาท หากมีความจำเป็นลงทุน หรือบางโครงการใช้งบเพียง 5 แสนบาท แต่หากไม่จำเป็นต้องตัด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาในชั้นกรรมาธิการต่อไป.







