'กลุ่มภาคประชาชน' ยื่นสภาฯ สอบจริยธรรม 'พีระพันธุ์' หนุนด้อมพัง

'กลุ่มภาคประชาชน' ยื่นสภาฯ สอบจริยธรรม 'พีระพันธุ์' หนุนด้อมพัง

"ตัวแทนภาคประชาชน" ยื่น "สภาฯ" สอบจริยธรรม "พีระพันธุ์" เข้าข่ายอยู่เบื้องหลัง-ด้อมพัง ละเมิดสิทธิเสรีภาพคนเห็นต่างทางการเมือง

ที่รัฐสภา นายอรรทิตย์ฌาณ คูหาเรืองรอง ตัวแทนภาคประชาชน ยื่นหนังสือต่อ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมและบทบาทของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ว่ามีเกี่ยวข้องกับการส่งเสริม และสนับสนุนในการสร้างด้อมพีระพันธุ์ หรือด้อมพัง หรือไม่ 

โดยนายอรรทิตย์ฌาณ กล่าวว่า กลุ่มแฟนคลับ หรือ ด้อมพังมีพฤติกรรมล่วงละเมิดหรือล่วงเกิน คุกคาม ผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง โดยมีการถ่ายทอดสดหรือผลิตวิดีโอที่บิดเบือนข้อมูลด่าทอ ใช้ข้อความที่หยาบคาย รวมถึงการบูลลี่เด็กพิเศษด้วย นอกจากยังมีการคุกคามสิทธิเสรีภาพของคนที่มีความเห็นต่าง  ทั้งนี้มีความสงสัยว่านายพีระพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างกลุ่มแฟนคลับดังกล่าวหรือไม่นั้น ทั้งนี้มีหลักฐานที่แฟนคลับไปช่วยกันแพ็คเสื้อพัง รวมถึงปฏิทินของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในสถานที่ที่คาดว่าเป็นสถานที่ราชการคือบ้านพิบูลธรรม ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายพีระพันธุ์ 

“ไม่แน่ใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ สนับสนุนให้มีการส่งเสริมหรือสนับสนุน ให้มีการจัดกิจกรรม การพบปะของด้อมพีระพันธุ์หรือไม่ โดยหลักฐานที่ยื่น ประกอบด้วย การเปิดตัวด้อมพีระพันธุ์ ตั้งแต่ช่วงเม.ย.ปี 67 หลังจากนั้นจะมีการจัดงานเสวนาอีก 2 ครั้งที่สามย่านมิตรทาวน์ และล่าสุดคือ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมด้อมพีระพันธุ์อีกครั้ง แต่ทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมนายพีระพันธุ์จะไปร่วมด้วย และในวันที่ 20 เม.ย. นายพีระพันธุ์มีการพูดในประเด็นที่ทำให้เกิดการโต้แย้งกันในสังคมถึงการทำงานของนายพีระพันธุ์" นายอรรทิตย์ฌาณ กล่าว

นายอรรทิตย์ฌาณ กล่าวต่อว่าตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียง คลิปวิดีโอของนายพีระพันธุ์ ที่เปรียบเปรยประชาชนที่ไม่ได้สนับสนุนตัวเอง เป็นประชาชนที่อยู่ในกลุ่มคนใต้โคลนตม ไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องมุดลงไป กระชากคนเหล่านั้นขึ้นมา ทำให้ตนตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมต่างๆของนายพีระพันธุ์ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับด้อมพีระพันธุ์หรือไม่แน่ใจว่าสนับสนุนหรือส่งเสริมด้วยหรือไม่

"ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆ หากนายพีระพันธุ์ มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมไม่แน่ใจว่าจะผิด รัฐธรรมนูญ ในหมวด 8 มาตรา 164 วรรค 4 ด้วยหรือไม่ รวมถึงอาจจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมด้วยว่าเข้าขั้นร้ายแรงหรือไม่" นายอรรทิตย์ฌาณ กล่าว 

ด้านนายภราดร กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรเป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน จากทุกภาคส่วน วันนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้รับผลกระทบจากโลกออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นว่าบนโลกสังคมออนไลน์มีการบูลลี่ในทุกกลุ่มสีเสื้อ ตนจึงคิดว่ามีความจำเป็นที่สภาฯ จะต้องมาศึกษาและหาแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรกับโลกออนไลน์ที่มีผู้คนที่จะบูลลี่ฝ่ายตรงข้าม โดยในระบอบประชาธิปไตย ตนเชื่อว่าความเห็นต่างทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่การแสดงความคิดเห็นต้องไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น โดยตนจะนำเรื่องดังกล่าวนำเข้าสู่คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ไปดำเนินการต่อ.