'ทวี' หนุนเปิดพื้นที่ประชาชน ถกแก้ไฟใต้ ย้ำไม่ใช่การเสียหน้า

'ทวี' หนุนเปิดพื้นที่ประชาชน ถกแก้ไฟใต้ ย้ำไม่ใช่การเสียหน้า

"รมว.ยุติธรรม" ตรวจพื้นที่3จว.ใต้ รับสถานการณ์รุนแรงใต้กระทบหลายด้าน หนุนเปิดพื้นที่ให้ประชาชน ร่วมแก้ปัญหา บอกไม่ใช่การเสียหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ที่ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในการวางแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน  โดยมีเจ้าหน้าที่ ฝ่ายความมั่นคงทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้ชี้แจงมาตรการรักษาความปลอดภัย สถานการณ์ด้านการข่าว ระบุว่าในปี  2568 มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น จำนวน 38 เหตุการณ์ โดยมีแนวโน้มการก่อเหตุรุนแรงต่อกลุ่มไทยพุทธ  เจ้าหน้าที่รัฐและฐานปฏิบัติการ  โดย รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ และมุ่งมั่นในการคลี่คลายปัญหาความไม่สงบอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นในการ ดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ พร้อมให้กำลังใจและรับฟังความเห็นของทุกคนเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ตรงจุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

จากนั้น  พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นพบว่าในปีนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เสียชีวิตรวม  13 คน  ซึ่งการประชุมได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำให้เร็วที่สุด คือ สร้างความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินให้ประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกับบูรณาการการทำงาน โดยพิจารณาจากบทเรียนต่างๆ อย่างไรก็ดีในการดูแลพื้นที่พบว่าในหมู่บ้านมีผู้ที่ช่วยดูแล ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน  อย่างในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีกำลังอสม.   3,000 คน ทหารพราน 7,000 คนและตำรวจอีก 2,000 คน  แต่ไม่พอโดยต้องให้ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และประชาชนมาช่วดูแล

“เหตุการณ์ในอดีตเป็นบทเรียน ต้องป้องกันประชาชน เพราะจังหวัดชายแดนเป็นปัญหาระดับประเทศ ดังนั้นต้องเร่งเรื่องความมปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน พิ่มมาตรการการข่าว การสืบสวน และเมื่อเกิดเหตุแล้วต้องแจ้งข้อเท็จจริงให้ประชาชน โดยทุกหน่วยืนยันนการทำหน้าที่ ที่ต้องบูรณาการเพิ่มขึ้น โดยในหมู่บ้าน ชุมชนต้องเป็นพื้นที่ของรัฐไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รัฐต้องเข้าไปดูแลแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะยาเสพติด และผลกระทบทางเศรษฐกิจ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

เมื่อถามถึงมาตรการเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองชาวไทยพุทธ และกลุ่มเปราะที่เป็นเป้าหมายการทำร้าย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า   มาตรการที่ ฉก.นราธิวาสและ 3จังหวัดนำเสนอได้แลกเปลี่ยน คือทำงานเต็มที่ แต่ส่วนหหนึ่งที่ยังขาดคือ เมื่อมีผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจ จิตวิญญาณ อยากให้หน่วยงานที่มีนักจิตวิทยา เช่น กรมสุขภาพจิต กรมคุ้มครองเด็ก ดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย รวมถึงการให้ความดูแลชุมชนชาวพุทธด้วย ทั้งนี้ปัญหาภาคใต้ไม่มีการเสียหน้าอะไร เมื่อถึงเวลาต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนเสนอความเห็น รวมถึงยกระดับการพูดคุยเพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรพัย์สิน จะเป็นการเสียโอกาสหากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น

เมื่อถามถึงประเด็นที่รัฐบาลไม่ตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยเป็นปัจจัยให้เกิดการก่อเหตุหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าว ในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ได้รับฟังการทำงาน ทั้งนี้หน้าที่ของรัฐบาลสร้างความปลอดภัย ตามที่ได้แถลงนโยบาย คือการสันติสุข และสันติภาพกลับสู่ภาคใต้ เพราะเป็นปัญหาวาระของชาติต่อจากนี้จะเข้มข้น ส่วนการพูดคุยเป็นนโยบนายที่สมช.กำหนด

“เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล การนำสันติสุขต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่การเสียหน้า เราเร่งแก้ไข ส่วนตัวผมมองว่าต้องมีวิธีแก้โดยเร็ววผ่านความเชื่อมั่น ส่วนการตั้งคณะเจรจานั้นมีหลายทฤษฎีในการคิดขอให้อยู่ในวงนโยบายอีกครั้ง เร็วๆ นี้จะคุยกันอีกครั้ง” รมว.ยุติธรรม กล่าว