'ชุติพงศ์' จี้ 'นายก' ใช้กลไกรัฐต่อรัฐ ทลายแก๊งคอลฯ ฝั่ง กัมพูชา

"ปธ.อนุกมธ.ปราบแก๊งคอลฯ" สภาฯ จี้ "นายกฯ" ใช้ความสัมพันธ์รัฐบาลต่อรัฐบาล ปราบแก๊งคอล ฝั่งกัมพูชา แฉฝั่งปอยเปตยังมีการจ่ายไฟฟ้าจากไทย
ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ฐานะประธานอนุคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกัน ปราบปรามแก้ไขปัญหาขบวนการค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมอนุกมธ. ต่อประเด็นการกลับมาระบาดของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ว่า เป็นเพราะการแก้ไขปัญหาไม่มีความคืบหน้าจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม แม้รัฐจะออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาบังคับใช้แล้วก็ตาม และการดำเนินการที่ผ่านมาจะพบว่าที่มีการดำเนินการส่งชาวจีนกลับประเทศ รัฐได้ทำการตัดไฟและตัดน้ำมัน ที่จะส่งไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งถือว่าได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ไม่เห็นความคืบหน้าในหลายจุดโดยเฉพาะชายแดนประเทศกัมพูชา ที่มีข้อมูลมาว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทยมากที่สุด
"พูดกันตรงๆ ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชา ระหว่างผู้นำประเทศ หรือระดับบุคคลที่เป็นรุ่นพ่อของผู้นำประเทศ ก็มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี เหตุใดจึงไม่เจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา และล่าสุดที่นายกฯเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา เราก็รอติดตามว่านายกฯได้มีการพูดคุยเรื่องการแก้ไขปัญหาเเก๊งค์คอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนบ้างหรือไม่" นายชุติพงศ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่ามองว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไม่ได้ผลหรือไม่ นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ตราบใดที่โจรยังอยู่ในมือถือของเราทุกคนไม่มีความปลอดภัย และอย่าคิดว่าเหยื่อของแก๊งค์มิจฉาชีพจะเป็นคนสูงอายุเท่านั้น เพราะหลายคนเป็นผู้ใหญ่ เป็นอาจารย์ วิศวกร เป็นคนที่มีความรู้ แต่เรื่องปฏิบัติการจิตวิทยาที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ จะสร้างความหวาดกลัว สร้างความรัก และมีการใช้แอพพลิเคชั่นที่แฝงเข้ามาในโทรศัพท์เพื่อหลอกให้ดาวน์โหลด จึงมีโอกาสที่ทุกคนสามารถพลาดได้ หากไม่สามารถปัญหาที่ต้นตอ
"ในฝั่งกัมพูชา ได้ข้อมูลจากการประชุมอนุกมธ.ฯว่า มีเครื่องปั่นไฟขนาดกลางถูกตั้งไว้หน้าบ้านที่สร้างใหม่จำนวนมาก ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ขนาดเล็กไม่ใช่แค่ตึกสูง คำถามคือรัฐบาลไทย ทำไมไม่ทะลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่ฝั่งกัมพูชา ทั้งนี้ไฟฟ้าฝั่งปอยเปต ไฟฟ้าหลักมาจากประเทศไทย ซึ่งระดับความสัมพันธ์รัฐบาลต่อรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ แล้วรัฐบาลว่าจะรอถึงเมื่อใด







