‘กมธ.สีส้ม’เร่งเครื่องชน‘ชินวัตร’ ล็อก ‘อิ๊งค์’ สอบ‘เลี่ยงภาษี’

‘กมธ.สีส้ม’เร่งเครื่องชน‘ชินวัตร’ ล็อก ‘อิ๊งค์’ สอบ‘เลี่ยงภาษี’

"พรรคประชาชน" ใช้กลไก กมธ. ตรวจสอบ "นายกฯอิ๊งค์" กรณีตั๋ว P/N เป็นนิติกรรมอำพราง-เลี่ยงภาษี งานนี้ชี้ชัดว่า เกมแค้นฝังหุ่น "ตระกูลชินวัตร" ได้เริ่มการเอาคืน

KEY

POINTS

Key Point :

  • กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่มี "สส.สีส้ม" นั่งหัวโต๊ะ ได้ฤกษ์สอบ "แพทองธาร ชินวัตร" กรณีตั๋วP/N
  • หลังจากที่ "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" เปิดประเด็นไปเมื่อ  23มี.ค.
  • การทิ้งเวลากว่าเดือน ก่อนให้ "กมธ.เครือข่าย" ลุยสอบ สะท้อนให้เห็นว่า ความแค้นฝังหุ่น "ตระกูลชินวัตร" ไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป
  • นัดแรก วันนี้ เชิญ "อธิบดีสรรพากร" มาเค้นข้อเท็จจริง ปมตั๋วP/N ว่า "นายกฯ" ทำได้หรือไม่ พ่วงการตรวจสอบในแง่กฎหมายตามอำนาจ
  • ทว่า พลพรรคเพื่อไทย ไม่อาจปล่อยให้ "พรรคส้ม" ออกหมัดชก "นายน้อย" ได้ถนัด 
  • จับตาเกมเขี้ยวลากดิน ที่ "เพื่อไทย" เตรียมมตอบโต้ คือ สัญญาณ "เกียร์ว่าง" เพื่อเป็นทางเบี่ยงให้ "ตระกูลชินวัตร" ไม่ต้องถูกตรวจสอบในเรื่องนี้

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาฯ ได้ฤกษ์นับหนึ่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการทำธุรกรรม และการชำระภาษีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434.5 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นนิติกรรมที่หวังเลี่ยงเสียภาษีของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ในวันนี้

หลังจากที่ “พรรคประชาชน” โดย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ เปิดประเด็นกลางสภาฯ ครั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เมื่อ 24 มี.ค.ว่า การออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ “ตั๋วP/N” 9 ฉบับ ซื้อหุ้นคนในครอบครัว และเครือญาติรวม 5 ราย มูลค่า 4,434.5 ล้านบาท 

เข้าข่าย “นิติกรรมอำพราง” สร้างรูปแบบเพื่อบิดเบือนการซื้อขายหุ้น ซึ่งเชื่อว่าไม่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นรูปแบบเพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี “การรับให้” มูลค่ากว่า 218 ล้านบาท

ต่อมาได้ยื่นเรื่องให้ กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่มี ดร.ชาย - สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน กมธ.ขยายผลตรวจสอบ ตามบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติ

ตามหน้าที่ของ กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ในการประชุมตรวจสอบเรื่องนี้นัดแรก ได้เชิญ ปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร และ มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รวมถึง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในฐานะผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน มาให้ข้อมูล

‘กมธ.สีส้ม’เร่งเครื่องชน‘ชินวัตร’ ล็อก ‘อิ๊งค์’ สอบ‘เลี่ยงภาษี’ โดย “ดร.ชาย” ยอมรับว่า การตรวจสอบเรื่องนี้จำเป็นต้องให้ “ฝ่ายรัฐ” ที่มีหน้าที่รับผิดชอบมาชี้แจงรายละเอียด ก่อนสาวไปถึงเส้นทางของเรื่อง ที่ฝ่ายค้านฟันธงว่า "นายกฯแพทองธาร" มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงการเสียภาษี ส่อว่าเป็นความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับคนระดับผู้นำประเทศ

ทว่า การตรวจสอบเรื่องนี้อาจไม่ใช่ของง่าย เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ยอมให้ฝ่ายค้านออกหมัดชกได้ถนัด สำหรับ กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่มี กมธ.15 คน พบว่ามี สส.เพื่อไทย นั่งประจำการ รวม 4 คน ได้แก่ ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สส.นครพนม รองประธาน กมธ.คนที่หนึ่ง วิภาณี ภูคำวงศ์ สส.ขอนแก่น ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา และ รวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ ในฐานะกมธ.

เบื้องต้น “ภูมิพัฒน์” บอกว่า กรณีนี้ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยดูอยู่ จึงเชื่อว่า จะไม่ปล่อยให้เป็นประเด็น ทำให้ นายกฯแพทองธาร ตกม้าตาย ถูกเล่นงานในแง่จริยธรรม เหมือนอย่างรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลก่อนหน้านั้นเผชิญ

‘กมธ.สีส้ม’เร่งเครื่องชน‘ชินวัตร’ ล็อก ‘อิ๊งค์’ สอบ‘เลี่ยงภาษี’

ส่วนกรณีที่ “ฝ่ายค้าน” ตั้งประเด็นว่าเป็นนิติกรรมอำพราง เพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษี รองประธาน กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ฝั่งเพื่อไทยบอกว่า ไม่น่าเป็นเช่นนั้น เพราะรัฐบาลต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การตรวจสอบต้องรับฟังหน่วยงานที่มาชี้แจงก่อน

“มุมที่ฝ่ายค้านมองว่า มีเจตนาหลบเลี่ยงการเสียภาษี ไม่น่าเป็นประเด็น เว้นแต่ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย โดยไม่มีเจตนา การเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ต้องตรวจสอบให้ถ้วนถี่ และรอบคอบ เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าทำอะไรที่ผิดจริยธรรม” สส.ภูมิพัฒน์ จากเพื่อไทย ระบุ

ขณะที่บทบาทของ สส.เพื่อไทย ในฐานะด่านหน้า ที่ต้องปกป้อง “นายน้อย” ไม่ให้ถูกดิสเครดิตฝ่ายเดียวนั้น “ภูมิพัฒน์” บอกว่า ขั้นแรกจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงรายละเอียดก่อน โดยไม่มีอะไรที่ต้องกังวลไปก่อน ส่วนการทำหน้าที่ของ กมธ.ฝั่งพรรคเพื่อไทย พร้อมจะซักถามข้อมูลรายละเอียด เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด เป็นไปอย่างมีเหตุผล ตั้งบนกรอบกติกา และกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งการทำหน้าที่ของ กมธ.ต้องยึดกรอบกฎหมายเช่นกัน

‘กมธ.สีส้ม’เร่งเครื่องชน‘ชินวัตร’ ล็อก ‘อิ๊งค์’ สอบ‘เลี่ยงภาษี’

อย่างไรก็ดี ท่าทีของ สส.เพื่อไทยที่ตั้งรับการรุกไล่จากฝ่ายค้านนั้น เป็นยุทธวิธีที่เชื่อว่าจะดีที่สุด เพราะก่อนหน้านั้น อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะฝ่ายรัฐที่มีอำนาจตรวจสอบ ซึ่งเป็นคนใน ตระกูลสุรัสวดี ลูกหม้อพรรคเพื่อไทย ออกโรงรับประกันชั้นแรกว่า “ไม่เข้าข่ายการหลบเลี่ยงภาษี” 

เพราะ “ตั๋ว P/N สามารถออกแบบ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน แต่ต้องจ่ายเงินทันทีเมื่อถูกเรียก หรือถูกทวงถาม และเมื่อมีการจ่ายเงิน ต้องมีการชำระภาษี” ปิ่นสาย สุรัสวดี ระบุไว้เมื่อ 25 มี.ค.2568

ในแง่การรุกไล่จากฝ่ายค้าน “วิโรจน์” กัดไม่ปล่อย เพราะมองว่า การการันตีเช่นนั้น “เป็นคนละเรื่อง” เพราะกรณีของ “แพทองธาร” ไม่ใช่การยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่เป็นการเสียภาษีการรับให้ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดว่า ต้องชำระภาษีเมื่อถึงเกณฑ์ต้องเสีย

ในวงตรวจสอบของ กมธ.การพัฒนาการเมืองวันนี้ วิโรจน์เตรียมประเด็นเพื่อไล่บี้อธิบดีกรมสรรพากร โดยตั้ง 3 ประเด็น คือ 

1.การตรวจสอบสัญญาซื้อ-ขายหุ้นที่ชัดเจน 2.การใช้ตั๋ว P/N เพื่อซื้อหุ้นของคนในครอบครัว และเครือญาติเกิดขึ้นจริง หรือเป็นรูปแบบเพื่อหลบเลี่ยงภาษี 3.การปันผลหุ้น ที่แพทองธารได้รับสิทธิโดยสมบูรณ์

“เคยมีการแบ่งเงินชำระการซื้อหุ้นหรือไม่ หรือไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ที่ครอบครัวและเครือญาติเสียสละเงินปันผล เพื่อแลกกับตั๋วP/N ซึ่งในรูปแบบปกติแล้วเชื่อว่าจะไม่มีทางยอม เพราะดอกเบี้ยไม่จ่าย ค่าซื้อหุ้นไม่มี และปันผลไม่ได้รับอีก”

“วิโรจน์” ย้ำด้วยว่า มีสิ่งที่ต้องการจากปากคำของอธิบดีกรมสรรพากร คือการทำงานเพื่อตรวจสอบในระดับ “คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร” ที่ชี้ชัดในกรณีออกตั๋ว P/N ของแพทองธาร ว่าทำได้หรือไม่ 

‘กมธ.สีส้ม’เร่งเครื่องชน‘ชินวัตร’ ล็อก ‘อิ๊งค์’ สอบ‘เลี่ยงภาษี’

ก่อนเดินสเต็ปต่อไป คือยื่นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อไล่บี้ “นายน้อย” ไม่ให้มีที่ยืนในสังคม หลัง “พรรคส้ม” แค้นฝังหุ่น “นายใหญ่” ชนิดไม่เหยียบเงา ไม่เผาผี “ชินวัตร-พรรคเพื่อไทย” ในการเมืองสมัยนี้

ต้องจับตานักการเมืองสไตล์เขี้ยวลากดิน-เพื่อไทย ที่อาจใช้วิธีถนัดในแก้เกมถนัด คือการ “เพิกเฉย” แล้วส่งบทให้หน่วยงานใส่เกียร์ว่าง สกัดทางไม่ให้ “นายน้อย-ตระกูลชินวัตร” ถูกลากขึ้นเขียง.