ฉากจบ ‘น้ำเงิน’สลาย รบ.ข้ามขั้ว ‘ก่อแก้ว’เปิดสมการใหม่ แดงผสมส้ม

ฉากจบ ‘น้ำเงิน’สลาย รบ.ข้ามขั้ว ‘ก่อแก้ว’เปิดสมการใหม่ แดงผสมส้ม

"ก่อแก้ว พิกุลทอง" สส.สายคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ประเมินฉากอนาคตการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การขบเหลี่ยมชิงแต้มทางการเมืองระหว่าง พรรคการเมือง2สี

KEY

POINTS

  • "ก่อแก้ว พิกุลทอง" ประเมินฉากจบของพรรคร่วมรัฐบาล หาก "พรรคเพื่อไทย" และ "พรรคภูมิใจไทย" ยังหาทางออกร่วมกันไม่ได้ ปลายทางอาจต้องมีการยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่

  • พรรคเพื่อไทย ในปีกของ นปช.ยังมองว่า พรรคไม่ได้เป็นอนุรักษนิยมพันธุ์ใหม่ แต่จำเป็นต้องจับมือกับก๊กอนุรักษนิยมเพื่อขอโอกาสทำงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และผลักดันกฎหมายที่ต้องการ 
  • แดง นปช.เพื่อไทย พยายามผลักดันแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. เพื่อให้ญาติผู้สูญเสียนำตัวผู้กระทำผิดจากเหตุการสลายชุมนุมคนเสื้อแดงและการชุมนุมทางการเมืองขึ้นสู่ศาลได้ในกรณี ป.ป.ช.ต้องตีตกคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรืออัยการสั่งไม่ฟ้อง 
  • สูตรรัฐบาลเสรีนิยม "แดง" ผสม "ส้ม" ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในการเลือกตั้งใหญ่รอบหน้า
     

“ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากจะเดิน แล้วพรรคภูมิใจไทยค้าน ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง มันมีทางออกเดียวคือ ยุบสภาฯ” เป็นเสียงเตือนจาก สส.แดง ในปีกของพรรคเพื่อไทยอย่าง “ก่อแก้ว พิกุลทอง” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ที่อาคารรัฐสภา ถึงท่วงทำนองที่ “พรรคสีน้ำเงิน” พรรคร่วมรัฐบาลเบอร์รองจาก “พรรคค่ายแดง” โชว์บทบาทตีรวนอยู่เป็นระลอก ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงนโยบายเรือธงสำคัญของพรรคเพื่อไทย

“บางเรื่องที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฯ ต้องสนับสนุน ถ้าไม่สนับสนุนนโยบายที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาประเทศ ก็เป็นเรื่องที่่ก่อให้เกิดความแตกร้าวในพรรคร่วมได้ ดังนั้น สองพรรคหลักของรัฐบาล ต้องคุยกันให้รู้เรื่องทุกอย่าง การขับเคลื่อนไปข้างหน้า ถ้าสิ่งไหนไม่เห็นด้วย ก็ต้องทำความเข้าใจว่า จะปรับเปลี่ยนยังไง ให้มันหาจุดลงตัวได้”

เมื่อถามถึงจุดล่อแหลมนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย จะอาศัยช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา สื่อสารถึงข้อดีของ “เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” อย่างไร “ก่อแก้ว” ระบุว่า ถ้าต้องขัดผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม เฉพาะกลุ่ม บางทีเราก็ไม่สน เพราะประเทศต้องมาก่อน คนไทยต้องมาก่อน

“การที่พรรคเพื่อไทยขอเลื่อนเรื่องเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปสมัยประชุมรัฐสภาหน้า เนื่องจากยังมีความเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์เรื่องนี้เยอะ มีการบิดเบือนข้อมูลเยอะ จนทำให้ 90% เสียหายไป ทั้งที่มีเรื่องไม่ดีอยู่เรื่องเดียว 10% แค่นั้นเอง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด”

"ก่อแก้ว"  ย้ำว่า ถ้า สส.ผ่านกฎหมายฉบับนี้แล้ว แต่หาก สว.ไม่เห็นด้วย แก้ไขก็ได้ แต่ถ้า สว.คว่ำต้องกลับมาที่ สส.ต่อ ถ้า สส.ยืนก็ผ่าน ส่วนตัวคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร 

ขู่ภูมิใจไทยตีรวน เจอยุบสภาฯ

เมื่อถามถึงการผ่าทางตัน หากพรรคเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ยังเจรจาหาทางออกไม่ได้อีกไปเรื่อยๆ จะถึงขั้นยุบสภาฯ แยกทางกันเลยหรือไม่ “ก่อแก้ว” ตอบทันที แบบไม่ลังเลว่า “ก็ยุบสภาฯ ครับ เพราะว่าพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน 314 เสียง ภูมิใจไทย 71 เสียง ถ้าเอาภูมิใจไทยออก ก็เหลือ 240 กว่าเสียง ก็ไม่พอ ส่วนพรรคประชาชนเอง ติดเงื่อนไขทางการเมืองอยู่”

เมื่อถามแย้งว่า หากตัดพรรคภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้านเลย มีโอกาสที่รัฐบาลจะดึงเสียง สส.ที่เป็นพันธมิตร ปีกฝ่ายค้านมาเติมเสียงได้หรือไม่ ก่อแก้วประเมินว่า "ยากอยู่ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องเจรจากับภูมิใจไทย ให้เดินร่วมกันได้ แต่ถ้าถึงจุดหนึ่ง คุยไม่รู้เรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องเดินด้วยกัน ยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ แค่นั้นเอง”

ฉากจบ ‘น้ำเงิน’สลาย รบ.ข้ามขั้ว ‘ก่อแก้ว’เปิดสมการใหม่ แดงผสมส้ม

เปิดสูตร“แดงผสมส้ม”รัฐบาล 250 อัป

เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่อดีตแกนนำ นปช.ปัจจุบันนี้ แตกอุดมการณ์ทางความคิดเป็น 2 เฉดสี เป็น “แดงเพื่อไทย” และ “แดงกินส้ม” จนมีข้อครหา ว่า “พรรคเพื่อไทย”เป็นพรรคอนุรักษนิยมพันธุ์ใหม่ มองอย่างไร “ก่อแก้ว” ระบุว่า “ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นอนุรักษนิยมพันธุ์ใหม่ ผมต้องเรียนตรงว่า ผมคงไม่อยู่ด้วยหรอกครับ เพราะผมเองยังยึดแนวทางเสรีนิยม ประชาธิปไตยเสรีนิยม”

“ด้วยข้อจำกัดทางการเมืองที่เราเห็นอยู่ สมการการเมือง แต่ละพรรคมีเสียงเท่าไร ทำอย่างไรมารวมเป็นรัฐบาลได้ ทำอย่างไรจะจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาประเทศได้ มันมีข้อจำกัด ที่จริงพูดตรงๆ เลือกตั้งคราวหน้า ถ้าเกิดว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เลือกตั้งได้เกินครึ่ง รวมกันแล้วได้เกินครึ่ง ก็ควรมาจับมือกันในการจัดตั้งรัฐบาล”

“ก่อแก้ว”ย้ำสมการ “แดง” จับมือกับ “ส้ม” ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า “ถ้าพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ได้ผลการเลือกตั้ง 2 พรรครวมกันแล้วเกินครึ่ง จัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นซีกฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยมด้วยกัน ซึ่งจะร่วมกันผลักดันกฎหมายที่เราอยากให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทิศทาง ที่เป็นเหมือนสากลเขา”

“ถ้าพรรคประชาชน มีแนวคิดเหมือนกับเรา ก็เดินด้วยกันได้ ส่วนที่เคยแหลมๆ ไป ก็ต้องปรับโทนกัน เพราะบางที มันอาจจะไม่เหมาะต่อสังคมไทย”

“เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย ต้องพิสูจน์ตัวเอง ให้พี่น้องเสื้อแดงได้ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนที่มั่นคง ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นมาตรฐานเดียว เรื่องทวงคืนความยุติธรรมให้กับพี่น้องที่สูญเสียจากเหตุการณ์การชุมนุม ถ้าทำสำเร็จ เขาก็คงรู้สึกว่าใช่”

อดีตแกนนำ นปช.สายแดงเพื่อไทย บอกถึงเหตุผลจำเป็นที่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องจับมือจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วไป จับมือกับพรรคการเมืองปีกอนุรักษนิยม ก็เพื่อขอโอกาสทำงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และผลักดันกฎหมายที่ต้องการ แต่หากเลือกเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศได้

ฉากจบ ‘น้ำเงิน’สลาย รบ.ข้ามขั้ว ‘ก่อแก้ว’เปิดสมการใหม่ แดงผสมส้ม

"ผมมองว่าเสื้อแดงยังมีจิตใจที่มั่นคงต้องการให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยแบบสากล มีจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม แต่ว่าความเชื่อมุมมองของเขาต้องเคารพกันว่าส่วนหนึ่ง ก็ไม่มีความสุข บางคนถึงขั้นโกรธแค้นพรรคเพื่อไทยไปจับมือกับกลุ่มอนุรักษนิยมพรรคลุงตู่ พรรคลุงป้อม ซึ่งเขาก็มีสิทธิคิดได้"

"เขามีสิทธิแสดงความรู้สึกที่ผิดหวัง ไม่เชื่อ ตีจาก แต่การตีจากไม่ได้ไปจากจุดยืนประชาธิปไตยนะ  เขาก็ไปพรรคที่มองว่าเป็นพวกเสรีนิยม ชูประชาธิปไตยเสรีเป็นหลักเหมือนกัน อย่างพรรคประชาชน"
 

15 ปีสลายนปช. ย้อนปมแดง 2 ก๊ก

ทั้งนี้ ใกล้ห้วงครบรอบ 15 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนพฤษภา สิ่งที่ก่อแก้ว หนึ่งในอดีตแกนนำ นปช.จำไม่เคยลืม โดยเฉพาะจุดพลิกผันเมื่อ 15 ปีก่อน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ที่สี่แยกคอกวัว และราชประสงค์ เม.ย.-พ.ค.2553  

“ตอนที่มีการเจรจากัน (รัฐบาลกับแกนนำ นปช.ขณะนั้น) ตอนปลายเม.ย.แกนนำ นปช.มีการประชุมกัน ส่วนหนึ่งก็บอกว่า รัฐบาลยอมยุบสภาฯ แล้วมีเงื่อนไขว่า ขอเวลากี่เดือน ซึ่งกลุ่มนายวีระ มุสิกพงศ์ ผม ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อาจารย์ธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ บอกว่า พอแล้ว รับเงื่อนไขแล้ว สลายการชุมนุม”

“แต่แกนนำอีกซีกหนึ่ง ถ้าเราเลิกการชุมนุมเลย แต่ยังมีคนตาย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ยังไม่มีคนถูกดำเนินคดี ถ้าเกิดมีมวลชนบางส่วนไม่ยอมสลายการชุมนุม คนก็เหลือน้อย เขาจะไม่ถูกยิงเหมือน 10 เม.ย.หรือ เลยทำให้มีการถกเถียงกันสองมุมเรื่องนี้”

 “จริงๆ ผมเห็นภาพตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค. 2553 แล้ว ในพื้นที่ชุมนุมถูกปิดล้อมหมด ช่วงวันที่ 6-7 พ.ค. 2553 เริ่มมีการเตือนไม่ให้คนเข้ามา มีการยิงทุกคนที่เดินเข้ามาพื้นที่ชุมนุม ช่วงนั้นจะมีข่าวคนถูกยิงด้วยสไนเปอร์ทุกวัน บางวันเป็น 10 ศพ ผมเห็นแล้วว่า ถ้ารัฐบาลกล้าใช้ อาวุธสงครามกระทำฆ่าคนแบบนี้ ประชาชนซึ่งเป็นผู้ชุมนุมมือเปล่าจะเอาอะไรมาสู้รัฐบาลที่มีอาวุธสงคราม แบบนี้ ผมก็บอกว่าเราคงไม่รอดแน่นอน”

สิ่งเดียวในความคิดของ “ก่อแก้ว” นาทีนั้น มีเพียงความหวังให้สังคมไทย และสังคมโลก ประโคมข่าวถึงเหตุการณ์ที่มีการปิดล้อมกระชับพื้นที่กลุ่มคนเสื้อแดงกลางกรุง เพราะปลายทางเขารู้ฉากจบของเหตุการณ์ว่า จะจบลงด้วยความสูญเสีย เพียงแต่ยังไม่ทราบวัน ว. เวลา น.ที่แน่ชัด

“แกนนำที่บอกว่า ต้องพอได้แล้ว ไม่อย่างนั้น มันไม่จบ ก็เลยไม่ขึ้นเวทีในช่วงท้าย แต่ออกไปไหนไม่ได้ เพราะเรามี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกหมายจับควบคุมตัว 23 คน” ก่อแก้ว เล่าถึงความคิดของ นปช.สายพิราบ ที่ต้องการยุติการสูญเสียไว้ก่อน

ส่วนเหตุการณ์สังหาร เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก “ก่อแก้ว” ยังคงเชื่อว่า เป็นสัญญาณหนึ่งที่ส่งจากฝั่งรัฐว่า จะใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ทั้งที่ เสธ.แดงไม่ได้มีพิษภัยอะไร แต่ถูกฉายภาพให้เห็นว่า มีส่วนปลุกเร้าให้กับผู้ชุมนุม มวลชนมาสู้กับทหาร

ฉากจบ ‘น้ำเงิน’สลาย รบ.ข้ามขั้ว ‘ก่อแก้ว’เปิดสมการใหม่ แดงผสมส้ม

ยอมรับนิรโทษฯม็อบ อาจเว้น ม.112

เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและ พ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุข ที่กำลังคาอยู่ในวาระการประชุมสภาฯ 4 ฉบับนั้น "ก่อแก้ว" ระบุว่า "ผมได้อ่านดู มี 2 ร่างจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็คัดค้านกัน คือการนิรโทษกรรมการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองทั้งหลาย  ยกเว้นความผิดจากการใช้กำลังอาวุธ ความผิดสั่งการ ความผิดจากทุจริตคอร์รัปชัน ไม่รวมความผิดกรณี มาตรา 112  

ส่วนอีก 2 ฉบับ ซึ่งมีฉบับจากภาคประชาชน ฉบับนี้ขอให้นิรโทษกรรมเยาวชน คนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมในช่วงปีไม่กี่ปีที่ผ่านมาในทุกความผิด โดยให้เหตุผลว่า มีความปรารถนาดีต่อประเทศต้องการให้ประเทศเปลี่ยนแปลง แล้วบางอาจขาดการยั้งคิดไปบ้าง แต่ต้องการให้เขามีโอกาสกลับคืนสู่สังคม ทำตัวเป็นพลเมืองดีในอนาคต ตรงนี้จะมีการนิรโทษกรรม  ผมจำปีไม่ได้ น่าจะปี 2559 เป็นต้นมา"

"พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล  มีหลายพรรคอยู่ในซีกอนุรักษนิยม เขามีแนวคิดที่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทยในเรื่องหลักการบางอย่าง  เขามีความเห็นว่าต้องมีการนิรโทษกรรม  โดยไม่รวมมาตรา 112 ไม่รวมผู้ออกคำสั่งที่ทำให้เกิดการตาย พรรคเพื่อไทยเอง ก็จำเป็นทางการเมือง ที่ต้องเดินในทิศทางนี้ ถ้าไม่เดินทิศทางนี้ มันจะเกิดความขัดแย้ง ในพรรคร่วมรัฐบาลนะครับ ทำให้การทำงานสำคัญลำบาก ซึ่งก็มีการเสนอให้รับโดยไม่รวมมาตรา 112"

อดีตแกนนำ นปช. ยอมรับว่า ถ้าดูมติของพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็น่าจะเป็นไปได้ว่าการยกเว้น มาตรา 112 เป็นไปได้ยาก เท่าที่ฟังที่ผ่านมา คือ เป็นไปได้ยาก

ภารกิจทวงคืนความยุติธรรมยังเดินต่อ

แม้เหตุการณ์จะผ่านมายาวนาน แต่การเดินหน้าทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ ยังคงเดินหน้าผ่านกลไกนิติบัญญัติ “ก่อแก้ว” ระบุว่า ขณะนี้กำลังมีการผลักดันให้เกิดการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (พ.ร.ป.ป.ป.ช.) ซึ่งเขาเป็นผู้เสนอเรื่องนี้เอง ในการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาครั้งหน้า ในเดือน ก.ค.2568 เรื่องนี้จะเข้าสู่รัฐสภา

“สาระสำคัญคือ ในกรณีเกิดเหตุใช้กำลังโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย ถึงแม้ ป.ป.ช.ตีตกมาตรา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรืออัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ความผิดจากมาตราอื่น ไม่ตัดสิทธิญาติผู้สูญเสีย ให้สามารถฟ้องร้องโดยตรงได้”

ทั้งนี้ญาติผู้สูญเสียสามารถใช้สิทธิยื่นฟ้องตรงต่อศาลอาญาที่อยู่ในเขตอำนาจได้ ในกรณีเกิดเหตุใช้อำนาจโดยมิชอบ จนทำให้ประชาชนเกิดการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 288 บวก มาตรา 295 แต่ถ้า ป.ป.ช.ตีตกทั้งยวง ญาติสามารถไปฟ้องเอง โดยฟ้องมาตราเกี่ยวกับการตาย หรือการบาดเจ็บ

“ก่อแก้ว” เชื่อว่า คดีความการสูญเสียของคนเสื้อแดง จะยังเดินหน้าทวงความยุติธรรมได้ ภายใต้อายุความ 20 ปี ซึ่งขณะนี้เหลือ 5 ปี โดยเชื่อว่า จะสามารถเอาตัวผู้กระทำมาขึ้นสู่ศาล เพื่อพิสูจน์ความเป็นธรรมได้ ด้วยการผลักดันการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.ให้ได้ภายใต้กรอบ 8 เดือน

“ที่เหลือ ญาติจะได้ทวงคืนความยุติธรรม และพิสูจน์ในศาล ผมไม่ได้บอกว่าใครผิด ใครถูก แต่ผมต้องการให้เรื่องนี้ ขึ้นสู่ศาล เพราะว่าเวลาเรื่องแบบนี้ขึ้นสู่ศาล มันเป็นเครื่องเตือนใจผูู้มีอำนาจรัฐในอนาคต ไม่ว่าระดับรัฐบาล หรือระดับข้าราชการประจำ ที่เป็นหัวๆ ว่า คุณจะใช้อำนาจอะไร แล้วทำให้ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตาย คุณต้องระวังให้มาก คุณต้องยั้งคิดให้มาก เพราะคุณต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา” ก่อแก้ว ทิ้งท้าย