'เวทีเสวนาแผ่นดินไหว สภาฯ' แนะ กทม.-รัฐ พัฒนาระบบแจ้งเตือน

'เวทีเสวนาแผ่นดินไหว สภาฯ' แนะ กทม.-รัฐ พัฒนาระบบแจ้งเตือน

"หอสมุดรัฐสภา" จัดเวทีเสวนารับมือแผ่นดินไหว แนะ กทม. สร้างเครื่องเตือนภัย เขตละ 1 แห่ง เพื่อประเมินสถานการณ์ "สว.นันทนา" จี้ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง

ที่รัฐสภา หอสมุดรัฐสภาจัดเสวนา  เรื่อง “แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องไกลตัว : พร้อมแค่ไหนกับการรับมือแผ่นดินไหว” โดยมีนักวิชาการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเวทีกับ สว. และสส.

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค. ถือเป็นวิกฤตชาติที่ต้องถอดบทเรียน โดยเฉพาะระบบการจัดซื้อจัดจ้าง หลังจากที่ตึก สตง. แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม  หากมีบทบัญญัติให้ประชาชนหรือสส.เข้าชื่อ 1 ใน 4 ยื่นถอดถอนองค์กรอิสระได้ถูกยื่นแล้ว แต่เพราะไม่มีความสามารถตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรอิสระได้ จึงมีพฤติกรรมแปลกและเป็นอิสระจากประชาชน

\'เวทีเสวนาแผ่นดินไหว สภาฯ\' แนะ กทม.-รัฐ พัฒนาระบบแจ้งเตือน

"ควรปฏิรูประบบการจัดซื้อจัดจ้างของระบบราชการไทยและองค์กรอิสระใหม่ ต้องตรวจสอบและถ่วงดุลให้ได้ วัฒนธรรมไทยต้องมีวัฒนธรรมหน้าบาง เหมือนญี่ปุ่นที่เกิดเรื่องต้องลาออก อย่าให้ตึกมูลค่า 2,000ล้านบาทถล่มไปฟรีๆ ต้องใช้เป็นกรณีศึกษา ทำให้คนอยู่ในกระบวนการรอเงินทอน 20-30% มีหนาว ดิฉันเสนอให้มีการสร้างอนุสรณ์สถานแห่งความโกงให้เป็นสิ่งเตือนใจว่าเราจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ การจัดซื้อจัดจ้าง ในภาคราชการต่อไปจะไม่มีแบบนี้ ใครที่ทำจะได้รับโทษทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเอารูปผู้เสียชีวิตมาเพื่อรำลึกว่าเป็นเหยื่อของการทุจริตด้วย”น.ส.นันทนา กล่าว

ขณะที่ น.ส.ศนิวาร บัวบาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกรรมาธิการ(กมธ.) ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย กล่าวว่าที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญกับแผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม แต่ไม่มีการทบทวนบทเรียน ดังนั้นตนมองว่าควรเตรียมพร้อม ขณะที่หน่วยงานภาครัฐต่างคนต่างทำงานๆ มีข้อมูลของตนเองปัญหาอยู่ที่โครงสร้างในเรื่องรัฐโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งควรเปิดให้ประชาชนมีส่วนตรวจสอบข้อมูลได้

\'เวทีเสวนาแผ่นดินไหว สภาฯ\' แนะ กทม.-รัฐ พัฒนาระบบแจ้งเตือน

ทางด้าน นายนคร ภู่วโรดม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าในอนาคตกฎหมายควรมีกลไกถ่วงดุลมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเห็นปัญหา คือไม่มีใครจ่ายเพิ่มเพื่อความปลอดภัย เป็นการแข่งขันทางด้านธุรกิจ ทั้งนี้เห็นว่าควรมีเครื่องมือติดตั้งเตือนแผ่นดินไหวในอาคาร เพื่อให้ผู้มีอำนาจ ประเมิน สั่งการได้ทันที ว่าจะต้องอพยพออกจากอาคารหรือไม่ เพื่อลดการสูญเสีย 

ส่วนนายไพบูลย์ นวลนิล นักแผ่นดินไหววิทยา กล่าวว่า ตนมองว่ากทม. ควรลงทุนให้มีBangkok metropolitan Strong Motion Network  (BSMN) เพื่อตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวทั้งระยะใกล้และไกลในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมวลผลต่างๆ โดยให้มีเขตละ 1 เครื่อง  นอกจากนั้นควรพัฒนาเกี่ยวกับการแจ้งเตือนแผ่นดินไหว เพิ่มจำนวนสถานีสามารถรองรับการเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ เปลี่ยนวิธีแปลผลปัจจุบันที่มีความล่าช้าให้สามารถรู้ตำแหน่งและขนาดแผ่นดินไหวได้เร็วขึ้นภายในเวลาอย่างน้อย 1 นาที ส่งบุคลากรไปอบรมการแปลผลแผ่นดินไหวอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ในการเตือนภัยในต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ และให้มีช่องทางการส่งข้อมูลการสื่อสารความเร็วสูง

\'เวทีเสวนาแผ่นดินไหว สภาฯ\' แนะ กทม.-รัฐ พัฒนาระบบแจ้งเตือน

"ควรให้หน่วยงานเตือนภัยพิบัติเป็นหน่วยงานอิสระ และตั้งสถานีการวัดแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวตามแนวชายแดนให้มากยิ่งขึ้นและเห็นควรให้มีการออกกฎหมายบังคับให้ต้องมีตัวเตือนความสั่นไหวของอาคาร"นายไพบูลย์ กล่าว.