‘พปชร.’ ประชุมใหญ่ เปลี่ยนโลโก้ ตั้ง 2รองหัวหน้าพรรค เพิ่ม

“บิ๊กป้อม” นำทัพ พปชร. จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี เปลี่ยนโลโก้พรรค ตั้ง “สุรเดช-ธีระชัย” นั่งรองหัวหน้าพรรคเพิ่มเติม
ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ อาคารรัชดาวัน กรุงเทพฯ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนภาค และตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค,พลเอกกฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค, รวมถึงกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายอนันต์ ผลอำนวย กรรมการบริหารพรรค,นายทวี สุระบาล กรรมการบริหารพรรค,นายสุธรรม จริตงาม กรรมการบริหารพรรค นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ กรรมการบริหารพรรค,นายคอซีย์ มามุ กรรมการบริหารพรรค,พลตำรวจโทปิยะ ตะวิชัย กรรมการบริหารพรรค ,หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค และนายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหารพรรค
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดประชุมว่า พรรคพลังประชารัฐขอประกาศจุดยืนทางการเมืองในการเป็นพรรค "อนุรักษ์นิยมทันสมัย" ที่มีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะยึดมั่นและปกป้องสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ อนุรักษ์และสืบสาน วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณี และ ค่านิยมอันดีงามของชาติ โดยขอขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่เดินทางมาร่วมประชุมใหญ่ของพรรคในวันนี้
จากนั้นที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองที่ได้ดำเนินในรอบปี 2567รวมถึงให้ความเห็นชอบงบการเงินของพรรคการเมืองประจำปี 2567
นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบตราสัญลักษณ์พรรคและความหมายของพรรคพลังประชารัฐตราใหม่ มีลักษณะดังนี้
คำว่า "พรรค" อยู่บนกึ่งกลางด้านในของเครื่องหมายพรรคการเมือง เหนือตัวอักษรคำว่า"พลังประชารัฐ"โดยมี คำว่า "พลัง" เป็นสีเขียว คำว่า "ประชา" เป็นสีน้ำเงิน คำว่า "รัฐ" เป็นสีแดง อยู่ภายในวงล้อพลวัต ที่มี 3 แถบสี เป็นสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว บนพื้นสีขาว
ขณะที่ นายสุรเดช เปิดเผยว่า ตนได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยรับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร ให้มาทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา แม่ฮ่องสอน น่าน ทั้งหมด 34 เขต สส.34 คน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ต่อเนื่องในการเผยแพร่นโยบายของพรรค โดยเฉพาะในส่วนของการปกป้องสถาบันที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดรองลงมาก็คือ เราจะต้องทำให้เกิดเศรษฐกิจทันสมัยไม่ใช่ว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมและจะต้องทำงานแบบหัวโบราณ แต่เราร่วมสมัยไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่เราก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกันได้
“เราจะใช้ความจริงใจในการพบปะกับชาวบ้านว่า พรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน และอยากจะรณรงค์ให้คนทั้งประเทศรักสถาบันให้มากๆ โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไม่อยากให้เกิดความสับสนในเรื่องนี้ เพราะเราจะอยู่ได้ก็ต้องมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวต่อว่า นโยบายของพลังประชารัฐเรื่องการคัดค้านเปิดกาสิโนนั้น เท่าที่ตนได้พูดคุยกับหัวหน้าชุมชนหลาย ๆ คน พวกเขาก็เห็นด้วยว่า ไม่ต้องการให้มีกาสิโนเกิดขึ้น รวมไปถึงปัญหาเรื่องยาเสพติดที่จะต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรม โดยเราเชื่อว่า จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนภาคเหนือพอสมควร ซึ่งตนขอยึดจำนวน สส.ที่พลเอกประวิตร เคยตั้งเป้าเอาไว้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าและเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า จำนวน 60 ที่นั่ง โดยตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด