‘ผู้ตรวจการแผ่นดิน’จับมือภาครัฐทำงานเชิงรุกลดเรื่องร้องเรียน

‘ผู้ตรวจการแผ่นดิน’จับมือภาครัฐทำงานเชิงรุกลดเรื่องร้องเรียน สร้างเครือข่ายให้ความรู้ประชาชน แนะนำกรอกรายละเอียดร้องเรียน ปั้นหมู่บ้านคุณธรรม – ตำบลคุณธรรม
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวบรรยายพิเศษเรื่องธรรมาภิบาลกับการดำเนินงานตามหน้าที่ และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตอนหนึ่งว่า การปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐ อาจจะส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม มี 3 กรณี 1.ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ และขั้นตอนการใช้บริการของหน่วยงานรัฐ เป็นภาระต่อประชาชนโดยไม่จำเป็น
2.ความเดือดร้อนจากกระทำ หรือการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย 3.ความเดือดร้อนจากการเสียสิทธิพึงมีพึงได้รับจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นความจำเป็นขั้นพื้นฐานที่หน่วยงานรัฐต้องดำเนินการให้ประชาชน
โดยเราจะเห็นได้ว่าบทบาทและหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยธรรมาภิบาล ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเราดำเนินการแก้ไขปัญหาในเชิงรับ ความเดือดร้อนเกิดขึ้นแล้ว มีการยื่นเรื่องร้องเรียน เราต้องเข้าไปแก้ไข แต่จากการถอดบทเรียน ลำพังการทำงานเชิงรับ เราทำอย่างไรก็ไม่หมด เพราะดูจากสถิติ เรื่องร้องเรียนจากหลัก 100 เรื่อง มาหลัก 1,000 เรื่อง มาอยู่ในหลัก 3,000 เรื่อง และนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราต้องทำงานเชิงรุก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อน
สำหรับการทำงานเชิงรุก เราจะเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ จะศึกษาแก้ไขปัญหาประเด็นสาธารณะ ซึ่งเกิดขึ้นหลายพื้นที่ เราจะแนะนำหน่วยงานรัฐให้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ขณะเดียวกันเราไม่มีหน่วยงานส่วนภูมิภาค จึงต้องสร้างเครือข่ายสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการเป็นที่พึ่งของประชาชน
โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราสร้างเครือข่ายสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจร่วมกับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน โดยมีการให้ความรู้ความเข้าใจ บทบาทหน้าที่ ประเด็นและช่องทางร้องเรียน ซึ่งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน จะนำไปสื่อสารต่อกับประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้เรายังมีเครือข่ายประชาสัมพันธ์ในบางจังหวัด ทั้งวิทยุชุมชน อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน เราได้ให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง และเราได้ลงนามความร่วมมกับกรมการปกครอง ในการส่งต่อเรื่องร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรม หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม และไปต่อไม่ได้ อาจจะติดขัดความร่วมมือจากหน่วยงานส่วนกลาง เราจะให้ส่งเรื่องร้องเรียนต่อมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเรามีอำนาจเชิญหน่วยงานมาให้ข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหา
โดยหลังจากนี้เราจะลงนามความร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเป็นเครือข่ายส่งต่อเรื่องร้องเรียนของประชาชนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน ในกรณีที่ประชาชนไปปรึกษาข้อกฎหมาย หากอยู่ในกรอบหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน จะมีนิติกรคอยอำนวยความสะดวกในกรอกข้อร้องเรียนผ่านทางอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความสะดวก ฉะนั้นกรณีที่เราไม่มีหน่วยงานภูมิภาคก็จะไม่เป็นอุปสรรค
“การทำงานเชิงรุก เราเห็นว่าจะรอรับเรื่องร้องเรียนไม่น่าจะพอแล้ว เราต้องแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว บริหารเรื่องร้องเรียนไปสู่คำวินิจฉัยด้วยความรวดเร็ว ประสานงานทุกหน่วยงานเพื่อขับเคลื่อนให้เป็นสังคมธรรมาภิบาล”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากเราทำให้สังคมมีธรรมาภิบาล เราจะสร้างลดความขัดแย้งในสังคมได้ การขับเคลื่อนสังคมธรรมาภิบาล ในระดับชาติรัฐบาลได้กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ โดยกำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะรณรงค์ให้คนไทยมีพฤติกรรมที่สะท้อนว่ามีคุณธรรมเพิ่มขึ้น โดยใช้การรณรงค์ไปสู่จังหวัดคุณธรรม เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
โดยผู้ตรวจการแผ่นดินเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรม ร่วมกับหน่วยงานหลักต่างๆจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ ในกระบวนการตามแผนปฏิบัติการด้านคุณธรรมแห่งชาติ ยังมีจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ในระดับตำบล เนื่องจากไม่ได้ขับเคลื่อนทั้งองคาพยพ จะเน้นรณรงค์ในกลุ่มต่างๆ ไม่ได้มุ่งเน้นรณรงค์ทุกเครือเรือน
“เกือบ 5 ปีที่ผ่านมา เราเห็นว่าการขับเคลื่อนในฐานรากต้องเข้มแข็ง ต้องมุ่งไปสู่การเป็นหมู่บ้านคุณธรรม ตำบลคุณธรรม อย่างเข้มแข็ง เพื่อให้ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด เดินต่อไป เราอยากจะเห็นการส่งเสริมกิจกรรม เพื่อทำให้คุณธรรมเป้าหมายให้บรรลุ หากเราดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ก็จะเห็นความร่วมมือในชุมชนมากขึ้น”