สอบต่อคดีฮั้ว! ดีเอสไอ อัปเดตคดีนอมินี 'ไชน่า เรลเวย์' ปมตึก สตง.

ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าคดีนอมินี 'ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10' หลังจับ 'คนจีน-3 คนไทย' ฝากขังศาลอาญาไปแล้ว รับลูกนายกฯสอบต่อปมฮั้วประมูล ดูวัสดุสร้างตึก สตง.ด้วย
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2568 ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้า คดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ของกิจการร่วมค้าที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกิดเหตุถล่มหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหว
โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายชวนหลิน จาง ได้ประกอบธุรกิจต้องห้ามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 บัญชี 3 ความคืบหน้าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาได้ครบถ้วนแล้วตามหมายจับประกอบไปด้วย บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) นายจางฯ กรรมการนิติบุคคล ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการ หรือต้องได้รับอนุญาตก่อน และเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น นายโสภณ มีชัย นายประจวบ ศิริเขตร และ นายมานัส ศรีอนันท์ ผู้ถือหุ้นสัดส่วนคนไทย ในความผิดฐานร่วมกันให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าวในธุรกิจที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปขออำนาจศาลในการฝากขังเรียบร้อย คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน
นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษในการดำเนินคดีเกี่ยวกับมาตรฐานของวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กและปูนที่อาจไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ รวมถึงกรณีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย และการกระทำความผิดเกี่ยวกับการสมยอมในการเสนอราคาหรือฮั้วประมูลด้วย
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอขอบคุณเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนข้อมูล การบูรณาการร่วมกันในการดำเนินคดีพิเศษดังกล่าว ประกอบไปด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มา ณ โอกาสนี้