ดีเอสไอ เผยฮั้วเลือก สว.รับเป็นคดีพิเศษ 2 ปม 'อั้งยี่-ฟอกเงิน'

ดีเอสไอ เผยฮั้วเลือก สว.รับเป็นคดีพิเศษ 2 ปม 'อั้งยี่-ฟอกเงิน'

'อธิบดีดีเอสไอ' เผยปมฮั้วเลือก สว. รับ 2 ปมเป็นคดีพิเศษ ทั้ง 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คิกออฟ 25 เม.ย.นำ จนท.ไปเมืองทองฯ จำลองการเลือกระดับประเทศ เอา AI มาใช้

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2568 ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีฟอกเงิน กรณีการเลือก สว.

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในส่วนที่ดีเอสไอรับผิดชอบจะมีอยู่ 2 คดี นั่นก็คือ คดีการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งคดีดังกล่าว ทางดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มีผู้ร้องเรียนมาที่ดีเอสไอเป็นจำนวนมาก ส่วนอีกคดีหนึ่งคือคดีอั้งยี่ซ่องโจร ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งคดีดังกล่าวทางดีเอสไอได้รับสำนวนมาจากพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี และ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งทางดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีอั้งยี่ซ่องโจรนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร แต่จากพยานหลักฐานพบว่า มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่ตั้งตัวเองเป็นคณะบุคคล ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า รวมตัวกันเพื่อกระทำผิดกฎหมายฟอกเงินหรือกฎหมายอื่นๆ หรือไม่

สำหรับประเด็นเรื่องการสอบปากคำนั้น พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงแรกของคดีนี้ ทางดีเอสไอได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ กกต.ในการสอบสวนพยานบุคคลร่วมกับพนักงานอัยการเพื่อประหยัดเวลาในการสอบปากคำพยานพร้อมกันทีเดียว แต่การทำงานเป็นการแยกสำนวนคดีกัน เพราะ กกต.ก็จะทำในส่วนเรื่องของการฮั้วการเลือก สว.แต่ดีเอสไอจะทำสำนวนในเรื่องการฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร โดยที่ผ่านมาได้สอบปากคำเรื่องขบวนการฟอกเงิน 30 ปาก ซึ่งการสอบปากคำมีทั้งการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ข้อมูลทางโทรศัพท์และใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมบุคคล ทั้งนี้ พยานบุคคล 30 ปาก ที่สอบปากคำไปนั้น เป็นพยานกลุ่มที่รู้เห็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งขอสงวนว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในรายชื่อหมื่นกว่ารายที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่

โดยประเด็นเรื่องพยานบุคคลนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเสริมว่า ในคดีนี้ทางพนักงานสอบสวน ดีเอสไอจะเร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่ เพราะต้องเข้าใจว่าคดีดังกล่าวนั้นเป็นคดีใหญ่และมีพยานหลักฐานที่เยอะมากกว่า 20 กลุ่มอาชีพ ที่ลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า หากคำนวณแล้วมีผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่ระดับอำเภอกว่า 4 หมื่นราย ก่อนที่จะคัดเลือกเหลือสมาชิกวุฒิสภาตัวจริง 200 ราย และยังไม่รวมสมาชิกวุฒิสภาสำรองอีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องเข้าใจว่าคดีนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการสอบสวนสักระยะ แต่ยืนยันว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำอย่างเต็มที่และรวดเร็วที่สุดอย่างแน่นอน

ผู้เมื่อถามถึงกรณีพบพยานหลักฐานหรือมีพยานบุคคลให้ข้อมูลว่า มีความเชื่อมโยงหรือเส้นทางการเงินถึงกลุ่มก้อนการเมืองหรือพรรคการเมืองใดหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในเรื่องเส้นทางการเงินนั้น ตอนนี้ยังไม่ปรากฏ และอยู่ในระหว่างการขอเอกสารเส้นทางการเงินจากทางธนาคารเพื่อจะนำมาตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนพยานบุคคล 30 ปากที่สอบปากคำไปก่อนหน้านี้นั้น ให้การพาดพิงถึงพรรคการเมืองใดหรือไม่ ขอสงวนที่จะระบุประเด็นดังกล่าว เพราะอยู่ในสำนวนคดี

นายสมบูรณ์ ยังกล่าวถึงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยในเรื่องอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอ ว่าต้องแยกคนละประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่องของการสอบสวนเรื่องการเลือก สว.ที่อาจจะมีการทุจริต เรื่องนี้อยู่ในขอบอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 49 ที่วางหลักว่าการกระทำใดอันขัดกับกฎหมายการเลือกตั้ง ซึ่งครอบคลุมถึงกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เรื่องนี้จะอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขณะที่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับอื่นๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ในขอบอำนาจของ กกต.

ดังนั้นดีเอสไอจึงมีอำนาจในการสอบสวนกรณีการฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจรในกระบวนการการเลือก สว.ตามอำนาจในกฎหมาย อื่นๆ ที่ไม่ได้ให้อำนาจกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงกล่าวได้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะสอบสวนในเรื่องของการฮั้วหรือทุจริตในเรื่องการเลือกสมาชิกวุฒิสภา แต่ดีเอสไอจะทำเรื่องการฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งยืนยันว่า ทางดีเอสไอไม่ได้รีบเร่งการสอบสวนคดีนี้ เพราะเนื่องจากมีผู้มายื่นคำร้องให้ดีเอสไอตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2567 หรือ 1 วันหลังจากเลือกสมาชิกวุฒิสภาแล้ว

ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า เนื่องจากตนรับผิดชอบในเรื่องของการจำลองแผนที่และภูมิศาสตร์ในสนามเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ที่เมืองทองธานี ในส่วนการสอบสวนของดีเอสไอ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) เวลา 14.00 น.ได้นัดหมายให้คณะพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ สังกัดกระทรวงยุติธรรม เข้าไปยังเมืองทองธานี เพื่อตรวจสอบสถานที่เลือก สว.จริง พร้อมทั้งจะจำลองทำแผนที่สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวันเลือก สว.เพื่อมาเป็นข้อมูลประกอบสำนวนคดีฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร

เมื่อถามว่า ในเรื่องของกล้องวงจรปิดต้องมีการรวบรวมหรือไม่ และมีข้อกังวลว่าภาพวงจรปิดจะสูญหาย เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมานานเกือบ 1 ปีแล้วหรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ทางดีเอสไอได้ภาพวงจรปิดบางส่วนจากเมืองทองธานีมาแล้ว