‘ทักษิณ-เนวิน’ ซ่อนไพ่ต่อรอง ‘พท.-ภท.’ รอจังหวะไฟติ้ง

‘ทักษิณ-เนวิน’ ซ่อนไพ่ต่อรอง  ‘พท.-ภท.’  รอจังหวะไฟติ้ง

 “กาสิโน” ร้อน! ชนวนร้าวแดง-น้ำเงิน ถูกตัดจบเป็นแค่เรื่อง “ผิดคิว”  ก็คงเหมือนอย่างที่  พ่อนายกฯ บอก “ภูมิใจไทยก็คือภูมิใจไทย ไม่มีปัญหาคุยกันได้”

KEY

POINTS

  • “กาสิโน” ร้อน! ชนวนร้าวแดง-น้ำเงิน ถูกตัดจบเป็นแค่เรื่อง “ผิดคิว”  ก็คงเหมือนอย่างที่ พ่อนายกฯ บอก “ภูมิใจไทยก็คือภูมิใจไทย ไม่มีปัญหาคุยกันได้”
  • สูตรคณิตศาสตร์การเมืองถูกตัดจบที่“เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”ยังจำต้องกอดคอร่วมรัฐบาล จึงต้องจับตาฉากต่อรองที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้  

“นายใหญ่-ครูใหญ่” ไม่พร้อมแตกหัก? “กาสิโน” ร้อน! ชนวนร้าวแดง-น้ำเงิน ถูกตัดจบเป็นแค่เรื่อง “ผิดคิว” 

ก็คงเหมือนอย่างที่ “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อนายกฯ บอก “อย่ากังวลการเมือง ภูมิใจไทยก็คือภูมิใจไทย ไม่มีปัญหาคุยกันได้

ตอกย้ำจากท่าที “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ล่าสุดยังคงคอนเซ็ปต์ “หนูหวานเจี๊ยบ” ไม่พร้อมปะทะ แถมยังบอกด้วยว่า ก่อนสงกรานต์ได้มีการไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับ “พ่อนายกฯ” 

จริงอยู่ แม้ “มท.หนู” จะบอกว่า การพบกันดังกล่าว เป็นการพบปะในวงแขกจากต่างประเทศที่รู้จักกัน ซึ่ง "ทักษิณ" ชวนไปทานอาหารด้วย ยืนยันว่า การพูดคุยวันนั้นไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่มีนักการเมือง ไม่มีรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องส่วนตัว

ทว่า ฉากการพบกันของ “2 คีย์แมน” ย่อมถูกตีความไปที่ การเปิดทางสางปมร้าว “แดง-น้ำเงิน” อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

‘ทักษิณ-เนวิน’ ซ่อนไพ่ต่อรอง  ‘พท.-ภท.’  รอจังหวะไฟติ้ง

โดยเฉพาะประเด็น"กาสิโน" ซึ่ง “มท.หนู” ระบุว่า  กรณี “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศกลางสภาฯ

ไม่เอากาสิโน ได้พูดไปตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ไม่ใช่มติของพรรคภูมิใจไทย

ไม่ต่างจากท่าที “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” เนวิน ชิดชอบ จับอาการดูแล้ว แน่นอนว่า ไม่ได้เปิดเกมแตกหัก แต่การส่งบทผ่าน “ลูกนก” ประกาศกร้าวกลางสภาฯ “ไม่เอากาสิโน” เอาเข้าจริง หวังสร้างเงื่อนไขต่อรองบางประการ โดยเฉพาะสารพัดวาระร้อน ที่ค้างคาในเวลานี้

ทั้งประเด็น “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”  ที่ต้องจับตา ตั้งแต่วินาทีนี้ไป จนกว่าจะเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในเดือนก.ค. 

โดยเฉพาะ ประเด็นการมี “กาสิโน” ต่างฝ่ายจะยื่นเงื่อนไขต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ที่สมประโยชน์ร่วมกันอย่างไร รวมถึงประเด็นสถานที่ตั้ง “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ท่ามกลางจับตาไปที่การช่วงชิงพื้นที่ทำเลทอง เพื่อต่อยอดการเมืองหลังจากนี้ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งเงื่อนไขต่อรองเช่นเดียวกัน

อีกทั้งยังมี คดี “โพยฮั้วสว.” ซึ่งถูกจับตาว่า เป็นสัญญาณ “ล้างกระดานสีน้ำเงิน” จนถึงขณะนี้ ยังคงเปิดฉากฟาดกันไปมา ทั้งในส่วนของดีเอสไอ ที่รับสอบคดีฟอกเงิน หรือฝั่ง สว.สีน้ำเงิน ที่ยื่นสอบจริยธรรม “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) และ “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม

ท่ามกลางเกมต่อรองที่ต่างฝ่ายต่างถือไพ่ในมือ แม้ก่อนหน้าจะมีเสียงเชียร์จากบรรดาพลพรรค ยุให้ “นายใหญ่” เพื่อไทย ขับภูมิใจไทยพ้นรัฐบาล ไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามตำใจ แต่เอาเข้าจริง อาจต้องนับนิ้วบวกลบคูณหารกันหลายตลบ โดยเฉพาะสูตรคณิตศาสตร์เสียง “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน” 

ยังไม่นับรวม“หมากสภาสูง” ซึ่งถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขต่อรองในเวลานี้

‘ทักษิณ-เนวิน’ ซ่อนไพ่ต่อรอง  ‘พท.-ภท.’  รอจังหวะไฟติ้ง

จึงเห็นอาการของ “2 พ่อลูก” นายใหญ่-นายน้อย พรรคเพื่อไทย ชิงสยบลือ ตัดจบที่สูตรคณิตศาสตร์เดิม คือ“เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” กอดคอร่วมรัฐบาลกันต่อไป

ส่วนเรื่อง “ผิดคิว”ของภูมิใจไทย หากย้อนกลับไปในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2562 ก็เคยเกิดกรณีในลักษณะใกล้เคียงกัน 

หากยังจำกันได้ ในวันโหวต พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ 5 มิ.ย.2562 เคยเกิดกรณีที่ “เสี่ยโต้ง”สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สส.ศรีษะเกษ ในเวลานั้น ลงมติ “งดออกเสียง” หนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ร้อนถึง“หัวหน้าหนู” ต้องรีบแก้เกี้ยวว่า รู้สึกสะอึกนิดหน่อย ไม่ทราบมาก่อน เชื่อว่าน่าจะมาจากการตัดสินใจส่วนตัวเร่งด่วน ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.

เวลานั้น "สิริพงศ์"  ชี้แจงว่า ทำตามที่สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนว่าจะสนับสนุน"อนุทิน"   เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีอคติกับ พล.อ.ประยุทธ์

กระทั่งจังหวะ“ผิดคิว”เวลานั้น ถูกตัดจบ แค่เรื่องความเห็นส่วนตัว และ“ภูมิใจไทย”ก็เข้าร่วมรัฐบาล“พลังประชารัฐ”เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

แม้จะมีช็อต “ตบจูบ”ในบางครั้ง “ลูบหลัง”ในบางคราว ต่างกันตรงที่“เสี่ยโต้ง” เป็นลูกชายบ้านใหญ่ศรีสะเกษ แต่“ลูกนก”ไชยชนก เป็น “ลูกเนวิน” นายใหญ่สีน้ำเงิน จึงทำให้ถูกโฟกัสเป็นพิเศษเท่านั้น

เมื่อสูตรคณิตศาสตร์การเมืองถูกตัดจบที่“เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”ยังจำต้องกอดคอร่วมรัฐบาล จึงต้องจับตาฉากต่อรองที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้  

โดยเฉพาะข่าวคราว“ปรับครม.”ที่ถูกคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นหลังผ่านงบประมาณฯ 2569 วาระแรก ในช่วงปลายเดือนพ.ค. เริ่มเดินเกมเขย่าสูตร สลับสับเปลี่ยน-ยึดคืนบางกระทรวง กลับมาอยู่ในการครอบครองของพรรคแกนนำ ท่ามกลางสารพัดรายชื่อ-รายกระทรวง ที่ถูกปล่อยออกมาจองเก้าอี้ในเวลานี้