ศึก 3 เส้า ชิงดำ ‘เมืองคอน’ กระสุนชี้ขาด โหมโรงเลือกตั้งใหญ่

หลังจากร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน ผ่านสภาฯ อาจได้เห็นการขยับปรับย้ายทัพของขุนพลบางส่วน โดยเฉพาะในพรรคร่วมฯ บางพรรค เพื่อเตรียมเข้าโหมดหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป
KEY
POINTS
- เลือกตั้งซ่อม นครศรีธรรมราช เขต8 3พรรคร่วมรัฐบาล หวังแย่งชิงปักธงให้ได้
- ชัยชนะในศึกนี้ เป็นตัวสะท้อนความแข็งแกร่งในการเลือกตั้งใหญ่เป็นอย่างดี
- อีกอย่างที่ต้องจับตา หลังงบฯปี69 ผ่านสภา อาจได้เห็นการขยับของหลายคนในพรรคร่วมฯ
ศึก 3 เส้า เรา 3 พรรค กับสังเวียนเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ที่ขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ที่แฝงความดุเดือดอยู่ในที
แชมป์เก่าภูมิใจไทยดัน “ไสว เลื่องสีนิล” ลงรักษาเก้าอี้แทนเมีย มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตามคำร้องของ กกต. ฐานทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง สืบเนื่องจากมีส่วนรู้เห็นให้เงินจูงใจผู้มีสิทธิลงคะแนน
โดย 2 ผู้ท้าชิง คนแรกจากประชาธิปัตย์ วางตัว “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ลงกู้ชื่อ ดีกรี สส.เขตนี้ 9 สมัย ทว่า เลือกตั้งใหญ่รอบที่แล้ว ส่งปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ ลูกสาวลงแทนตัวเองในเขต 8 เพื่อที่ผู้เป็นพ่อจะโยกไปลงเขต 7 ผลปรากฎว่า แพ้ยับเยินทั้งพ่อทั้งลูก ชินวรณ์ ได้แค่ 8,879 คะแนน น้อยกว่าลูกสาว ที่ได้ 10,529 คะแนน
ผู้ท้าชิงคนที่ 2 จากพรรคกล้าธรรม คือ “ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ” จากอดีต สจ. ขออัปชั้นลงสนามใหญ่ โดยได้แรงหนุนจากเครือข่ายในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งกำนันศักดิ์ พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.สุราษฎ์ธานี และ ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา กล้าธรรม ลุยแหลกสไตล์บ้านใหญ่ธรรมนัส
นัยทางการเมืองในสนามนี้ มีความหมายมากกว่ามิติเลือกตั้งซ่อม หรือแค่ประกาศศักดาในระดับจังหวัด เพราะยังมีผลต่อโมเมนตั้มในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป
ภูมิใจไทย ที่ต้องการสยายปีก ขยายฐานภาคใต้ และต้องการรักษาดุลต่อรองในจังหวะที่ยังชุลมุนจับฟัดจับเหวี่ยงอยู่กับเพื่อไทย
ประชาธิปัตย์ ที่ปลุกกระแสไม่ซื้อเสียง แถมได้นายหัวชวน ลงไปช่วยหาเสียงด้วยตัวเอง หวังให้คืนวันเก่าๆ หวนกลับมาเหมือนสมัยส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ แถมปูดข้อมูล 2 พรรค แจกเงินหัวละ 1,000
ขณะที่กล้าธรรม นอกจากประเดิมศึกแรกอย่างเป็นทางการ ก็ยังเป็นบททดสอบของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ในการรันพรรคให้นายใหญ่เห็นฝีมือ เพื่อต่อยอดศึกใหญ่ในอนาคต
ภูมิใจไทย ที่เพิ่งได้เฮชนะเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีฯ ด้วยกลยุทธ์ผนึกแนวร่วมจากพรรคอื่นไว้เพียบ มารอบนี้สีน้ำเงิน จัดการดึงตัว สุนทร รักษ์รงค์ แกนนำชาวสวนยาง ที่ถูกวางตัวทำยุทธศาสตร์ด้านการเกษตรภาคใต้ และเป็นอดีตผู้สมัคร สส.พลังประชารัฐ นครศรีฯ เขต 8 เข้าป้ายอันดับ 2 เคยได้ไป 17,448 คะแนน แพ้มุกดาวรรณ ที่กวาดไป 23,393 คะแนน
ฝ่ายแชมป์เก่าที่รวมกำลังคู่แข่งเดิม ก็อาจจะได้เปรียบไม่มากก็น้อย แต่ก็ประมาทตัวเก๋าอย่าง“ชินวรณ์” และตัวสดอย่าง“บิ๊กโอ”ค่ายผู้กองไม่ได้ พูดง่ายๆ ทั้ง 3 ค่ายต่างต้องตั้งการ์ดสูงพอตัว ไม่เช่นนั้น อาจสังเวยใบแดง รอบ 2 เพราะอย่างที่รู้กัน เลือกตั้งซ่อม ต่างกับเลือกตั้งใหญ่ ปัจจัยใต้ดิน หรือกระสุนเป็นตัวชี้ขาดมานักต่อนัก
จังหวะถัดจากนี้ เกมปรับครม. เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และฟื้นความนิยมรัฐบาลแพทองธาร น่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าไม่นาน จะถึงขั้นหักดิบริบกระทรวงมหาดไทยคืน หรือเขี่ยน้ำเงินพ้นรัฐบาลก็ทำได้ แต่คุ้มหรือไม่ ก็ต้องวัดใจนายใหญ่เพื่อไทย
นอกจากนั้น สัญญาณความเคลื่อนไหว และความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกขยักที่ต้องจับตา คือหลังจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน ผ่านสภาฯ และมีผลโดยสมบูรณ์ ก็อาจได้เห็นการขยับปรับย้ายทัพของขุนพลบางส่วน โดยเฉพาะในพรรคร่วมฯ บางพรรค เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่โหมดหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป