แกะรอยล็อกสเปก เอ็กซโป 2025 ? ‘เจาะจงจ้าง’ สืบราคากลาง 4 วัน

แกะรอยสารพัดข้อพิรุธจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai วงเงินกว่า 867 ล้านบาท กรม สบส.จัดจ้างวิธีเฉพาะเจาะจง เลือก ‘กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ’ เป็นผู้ชนะ
KEY
POINTS
- แกะรอยพิรุธจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai วงเงินกว่า 867 ล้านบาท
- กรม สบส.จัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง เลือก ‘กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ’ เป็นผู้ชนะ
- คุ้ยข้อมูลพบเคาะราคากลาง 17 ต.ค.2566 แต่เลือก ‘กิจการร่วมค้าฯ’ ชนะเมื่อ 20 ต.ค. ห่างกันแค่ 4 วัน
- กรม สบส.เผยเหตุผลจำเป็นต้องใช้วิธี 'เฉพาะเจาะจง' เพราะเปิดคัดเลือกถึง 3 รอบ ญี่ปุ่นเร่งมา ต้องรีบดำเนินการด่วน
- เอกชนแจงเป็น Joint Venture กันจริง ส่วนในนาม 'บริษัท กิจการร่วมค้าฯ' ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ ไม่เกี่ยวข้อง
World Expo 2025 Osaka Kansai นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในธีม “การออกแบบสังคมในอนาคตสําหรับชีวิตของเรา" (Designing Future Society For Our Live) ที่ประเทศไทยเข้าร่วมงานระดับโลกครั้งนี้ กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อถูกตั้งข้อสังเกตจากผู้เข้าชมงาน ถึงความคุ้มค่างบประมาณ 867 ล้านบาท โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า "ดีไซน์เอกชน คอนเทนต์ราชการ"
การจัดงานปีนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ มีการจัดทำอาคารนิทรรศการไทย หรือไทยแลนด์พาวิลเลี่ยน (Thailand Pavilion) และนิทรรศการภายในงาน ซึ่งจะจัดแสดงยาวนาน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. - 13 ต.ค. 2568
เนื้องานสำคัญมี 2 ส่วน คือ การสร้างอาคารสถาปัตยกรรมไทยในต่างประเทศ และการนำเสนอนิทรรศการ โดยจ้างบริษัทออแกไนเซอร์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านอีเวนต์มานานถึง 35 ปี และยังมีวิศวกรชั้นนำ จากบริษัทที่ทำงานมานานกว่า 50 ปี จึงได้มารวมกัน และเข้ายื่นงานครั้งนี้ ในนาม “กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ” ซึ่งเป็นการรวมตัวระหว่างบริษัท ไร้ท์แมน จำกัด และบริษัท สถาปนิก หนึ่งร้อยสิบ จำกัด
พลันที่ “สหัสวัต คุ้มคง” สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เปิดประเด็นว่า “กิจการร่วมค้า” ที่ชนะการประมูล มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท และตั้งล่วงหน้า 4 เดือน ก่อนคว้างานด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง หลังจากนั้นอีก 4 เดือนได้แจ้งปิดกิจการลง ส่อมีข้อพิรุธจำนวนมาก ทั้งที่ใช้วงเงินงบประมาณมากถึง 867 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ
สหัสวัต ระบุว่า ก่อนหน้านี้ในการอภิปรายงบประมาณปี 2568 ในวาระ 2 มาตรา 25 กระทรวงสาธารณสุข เคยเสนอขอให้ “ตัดงบ” โครงการดังกล่าว โดยระบุว่า ปัจจุบันยังมีความจำเป็นอื่นที่เร่งด่วนมากกว่า แต่กลับยังทุ่มงบฯ ไปกับ Osaka World Expo 2025 กว่า 555 ล้านบาทในปีนี้ และงบฯ ทั้งหมดที่ใช้กว่า 800 ล้านบาท เพื่อโรดโชว์ ชวนต่างชาติมารักษาพยาบาลในไทย คนที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดคือ โรงพยาบาลเอกชน ในขณะที่งบประมาณศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน หรือสถาบันวัคซีนน้อยนิด
“ปัจจุบัน สปสช.ก็มีปัญหา ทำให้ส่งผลต่อการจ่ายเงินให้โรงพยาบาล ส่งผลให้โรงพยาบาลจำนวนมากขาดทุนเพิ่ม จากที่ขาดทุนมานานจนบุคลากรทางการแพทย์ตกเบิก ไม่ได้ค่าล่วงเวลา และถึงขนาดบางโรงพยาบาลไม่มีเงินซื้อยา แต่กลับยังทุ่มงบฯ ไปกับการโรดโชว์ ที่ โรงพยาบาลเอกชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด” สหัสวัต ระบุ
ยังไม่นับสารพัดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งจากคนที่อยู่ในแวดวงจัดนิทรรศการ และประชาชนโดยทั่วไปว่า การจัดงานดังกล่าวอาจไม่คุ้มค่ากับวงเงินงบประมาณที่ลงทุนไว้ เพราะบางบูธ บางกิจกรรม ไม่ดึงดูดใจเท่าที่ควร
อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
มาไล่เรียงข้อเท็จจริง ที่มาที่ไป โครงการดังกล่าว “กรุงเทพธุรกิจ” ตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า โครงการนี้จัดทำโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข วงเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร 867,881,611 บาท
กำหนดราคากลาง 867,877,000 บาท เมื่อ 17 ต.ค. 2566 โดยสืบที่มาราคากลางท้องตลาด 1 รายคือ กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ต่อมา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินการจ้างผู้ดำเนินการจัดนิทรรศการในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ต่อจากนั้น 20 ต.ค.2566 ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก คือ "กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ"
เบื้องต้น กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ไม่มีการระบุข้อมูลว่า เป็นกิจการร่วมค้าในลักษณะ Joint Venture หรือไม่ และไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า เอกชนรายใดมาเป็น Joint Venture กัน
จากการตรวจสอบกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่ามีบริษัทชื่อ “บริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด”อยู่ในฐานข้อมูลจริง แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าบริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด กับกิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งมีลักษณะเป็น Joint Venture นั้น คือบริษัทเดียวกันหรือไม่? (ล่าสุด สบส.และเอกชนชี้แจงแล้วว่า เป็นคนละส่วนกัน และ กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ คือ Joint Venture ระหว่าง บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด และบริษัท สถาปนิกหนึ่งร้อยสิบ จำกัด)
บริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 แจ้งเลิก 16 ก.พ.2567 เสร็จชำระบัญชี 25 มี.ค. 2567 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ 118 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการรับจ้างออกแบบงานสถาปัตยกรรม ออกแบบนิทรรศการ และให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้อง กรรมการ 2 คนคือ นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ นายนภดล สัตยารักษ์
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 22 มิ.ย. 2566 บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 5,999 หุ้น มูลค่า 599,900 บาท คิดเป็น 59.99% บริษัท สถาปนิกหนึ่งร้อยสิบ จำกัด ถือ 3,999 หุ้น มูลค่า 399,900 บาท คิดเป็น 39.99% นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ ถือ 1 หุ้น คิดเป็น 0.01% นายนภดล สัตยารักษ์ ถือ 1 หุ้น คิดเป็น 0.01% ไม่พบข้อมูลการนำส่งงบการเงิน
สำหรับ 2 เอกชนที่ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด ดังกล่าว ในฐานะข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐพบว่า เคยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐอย่างน้อย 210 สัญญา รวมวงเงินไม่ต่ำกว่า 2,413.33 ล้านบนาท
ได้แก่ บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด เคยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐระหว่างปี 2558-2568 (10 ปีงบประมาณ) อย่างน้อย 197 สัญญา รวมวงเงิน 2,175 ล้านบาท
ส่วนบริษัท สถาปนิกหนึ่งร้อยสิบ จำกัด ผู้ถือหุ้นรองลงมา เคยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐระหว่างปี 2558-2568 (10 ปีงบประมาณ) อย่างน้อย 13 สัญญา รวมวงเงิน 238.33 ล้านบาท
จากข้อเท็จจริงข้างต้น พบประเด็นที่น่าสนใจ
1.กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เข้ามาทำธุรกิจในฐานะ “Joint Venture” หรือไม่
หากเข้ามาในสถานะนี้ เป็นการร่วมกันระหว่างบริษัทใดกับบริษัทใด ส่วนบริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด ซึ่งถูก “สหัสวัต คุ้มคง” อ้างอิงถึงนั้น เป็นส่วนหนึ่งของกิจการร่วมค้าฯ ข้างต้น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในโครงการนี้หรือไม่
2.กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้รับงบประมาณจัดสรรเมื่อปี 2566 ราว 867 ล้านบาท กำหนดราคากลางเมื่อ 17 ต.ค. 2566 867,877,000 บาท โดยสืบที่มาราคากลางท้องตลาด 1 รายคือ กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ หลังจากนั้นอีก 4 วัน (20 ต.ค. 2566) ได้ประกาศคัดเลือก กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง เหตุใดจึงสืบราคาจากท้องตลาดแค่กิจการร่วมค้าแห่งนี้แห่งเดียว และใช้เวลาแค่เพียง 4 วันในการคัดเลือกเอกชนรายนี้เป็นผู้ชนะ
อย่างไรก็ดี ประเด็น “ความคุ้มค่า” เกี่ยวกับการใช้งบประมาณดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องตรวจสอบต่อไป
ด้าน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แถลงข่าว (21เม.ย.) โดย นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ชี้แจงไทม์ไลน์การจัดซื้อจัดจ้างว่า โครงการนี้ ครม.มีมติเห็นชอบแผนดำเนินงาน เมื่อ 20 ธ.ค.2565 ต่อมา 14 มี.ค.2566 ครม.อนุมัติงบประมาณ 867.881 ล้านบาท โดยตั้งแต่ เม.ย.2566 - ก.ค.2566 มีการเปิดจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือกถึง 3 ครั้ง
โดยครั้งแรก 3 บริษัทที่ยื่นเข้ามาเอกสารไม่ครบถ้วน จึงยกเลิก ครั้งที่สอง กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ แต่ถูกร้องเรียน
อย่างไรก็ดี กรมบัญชีกลางแจ้งว่าให้ สบส.ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อได้ ทำให้ต้องคัดเลือกเป็นครั้งที่ 3 โดยคราวนี้ มีแค่กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เสนอบริษัทเดียว จึงว่าจ้างบริษัทแห่งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย
นพ.กรกฤช ชี้แจงอีกว่า กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ และบริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด เป็นคนละส่วนกัน โดยกรม สบส.ในฐานะผู้ดูแลไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัท กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด แม้แต่เรื่องเดียว เพราะทั้งหมดจะเป็นกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ชื่อคล้ายกัน แต่เป็นคนละส่วน
ภายในงานแถลงข่าว มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่า กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ คือการ Joint Venture กันระหว่างบริษัท ไรท์แมน จำกัด และบริษัท สถาปนิกหนึ่งร้อยสิบ จำกัด
โดยนายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการบริหารบริษัท ไร้ท์แมน จำกัด และกิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ชี้แจงยืนยันเช่นกันว่า กิจการร่วมค้าฯ และบริษัทที่ถูกอ้างข้างต้น เป็นคนละส่วนกัน โดยกิจการร่วมค้าฯ คือผู้รับงานกับ สบส. ส่วนบริษัทฯ ที่ปรากฏตามข่าวนั้น เป็นการบริหารจัดการภายใน
อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางบัญชี ให้คำปรึกษาว่า การทำรูปแบบนี้ อาจสลับซับซ้อนเรื่องเอกสาร และการเสียภาษีต่าง ๆ จึงคิดว่ายุ่งยาก ไม่ได้ใช้ จึงปิดบริษัท และใช้ของ 2 บริษัทคือ ไรท์แมน และหนึ่งร้อยสิบ ดำเนินการแทน
“เท่ากับว่า กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ทำธุรกรรม นิติกรรม ทุกสิ่งอย่างกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่วนบริษัท กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ จำกัด ไม่ได้มีธุรกรรม หรือนิติกรรมใดเกี่ยวกับงานนี้เลย” นายอุปถัมป์ ชี้แจง
ทั้งหมด คือข้อมูลที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกระทรวงสาธารณสุข ออกมาชี้แจงประเด็นร้อนโครงการนี้ ส่วนจะถูกขุดคุ้ยตรวจสอบอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป