'วราวุธ' ไม่ยุ่ง พรรคร่วมฯ ขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพันธมิตรการเมือง

"หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา" มองพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้ง เป็นปกติ เหตุมีหลายพรรค บอกพรรคไม่ยุ่งขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพันธมิตรทางการเมือง
ที่สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินเอกภาพของรัฐบาล ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หลังจากนี้ ว่า ตนเชื่อว่าอุณหภูมิการเมืองจะเบาลงไป หลังจากที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ และช่วงปิดสมัยประชุม 3 เดือน แต่ละพรรคจะลงพื้นที่เพื่อพบปะปะชาชน และตั้งหน้าตั้งตาทำงานในพื้นที่มากกว่า และในช่วงเดือนพ.ค.จะมีการเปิดประชุมวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ก่อน หลังจากนั้น จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพูดคุยเรื่องญัตติและพระราชบัญญัติต่างๆ
เมื่อถามว่าถึงยุทธศาสตร์การทำงานการเมืองของพรรค หลังจากที่พบว่าพรรคร่วมรัฐบาล มีความขัดแย้งแลกหมัดคนละหมัด นายวราวุธ กล่าวว่า ตนยึดคำพูดของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ที่สอนเสมอ ว่ามีมิตร 100 คนก็น้อยเกินไป มีศัตรู 1 คนก็มากเกินไป ดังนั้น แนวทางการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คือ เน้นการทำงานและการสร้างพันธมิตรทางการเมืองมากกว่า เพราะการมีพันธมิตรทางการเมืองจะทำให้เราทำงานให้กับประชาชนได้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีหมัดไปแลกกับใคร
เมื่อถามย้ำว่าเหมือนไผ่ลู่ลมใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ผลงานของเราเป็นสิ่งที่ทำให้การเจรจา กับพรรคร่วมรัฐบาล ว่าเราเดือดร้อนตรงไหน และมีสิ่งใด ให้พรรคชาติไทยพัฒนาที่กำกับดูแลกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแล ซึ่งยินดีที่จะช่วยกันทุกพรรค รวมถึงพร้อมทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ในฐานะ สส.เพราะทุกคน ล้วนเป็นสส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชน ต้องทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน ขณะที่เรื่องการเมืองเอาไว้ก่อน
เมื่อถามถึงโอกาสเพิ่มความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล จากการแข่งขันในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เพราะมีการปราศรัยกระทบกระทั่งกัน หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การกระทบกระทั่งเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้รัฐบาลที่มีหลายพรรค เหมือนลิ้นกับฟัน แต่ว่าการเลือกตั้งสนามเล็กกับสนามใหญ่ จะมีความละเอียดอ่อนแตกต่างกันไป ซึ่งตนเองมั่นใจว่าเมื่อสนามเล็กจบแล้วสนามใหญ่ ก็คงจะเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่พรรคร่วมจะมาพูดคุยกันอีกครั้ง เมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้ยังถึงเวลา.