‘แพทองธาร’ เผยใกล้ ‘ออกหมายจับ’ ผู้เกี่ยวข้อง ‘ตึก สตง.’ ถล่ม

“แพทองธาร” ถก เกาะติดคดี “ตึก สตง.” ถล่ม ยัน รัฐบาลไม่ปล่อย ลั่น รับไม่ได้มีคนตายจากตึกตึกเดียว จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคายข้อมูล-เอกสาร เผย ใกล้ออก “หมายจับ” เป็นไปไม่ได้จะไร้คนผิด
ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังรายงานผลการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม (ตึก สตง.ถล่ม) โดยมีผู้เข้าร่วมอาทิ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พ.ต.อ.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกฯ แถลงว่าจากนี้จะมีการขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีหน่วยงานในการควบคุมมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อดูคุณภาพวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีตัวชี้วัดและมีอำนาจในการบอกเลิกสัญญา ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งร่วมตรวจรับการออกแบบก่อสร้าง และการตรวจรับงาน เป็นผู้เกี่ยวข้องในความเสียหายครั้งนี้ ต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการตรวจจับจากกรมโยธาธิการฯ ในตึก สตง. ที่ผ่านมา ควรจะแยกออกจากกระบวนการการสืบสวน คือ คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนต่อไปนั้น คนที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงก็ขอให้คัดกรองออกไปเพื่อที่จะได้ไม่มีส่วนมาเกี่ยวข้องในการสืบสวน
นายกฯ กล่าวว่า DSI กำลังดำเนินคดีกับเรื่องมาตรฐานของเหล็ก รวมถึงคุณภาพของปูน การแก้ไขแบบในส่วนต่างๆ รวมถึงในส่วนของลิฟต์ที่ต้องอยู่ศูนย์กลางของตึก และไม่มีการเสริมเหล็ก ทำให้เกิดความเสี่ยงในอาคาร รวมถึงประเด็นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการฮั้วประมูล ก็ขอฝากสื่อมวลชนช่วยสื่อสารตรงนี้ต่อไปด้วย แน่นอนว่าตนก็ต้องย้ำในเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าเรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ปล่อยมือ
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวรับเรื่องนี้ไม่ได้กับการที่มีคนเสียชีวิตไปด้วยเหตุผลที่มีตึกถล่มหนึ่งตึก แต่ถ้าเป็นเหมือนเมียนมาเข้าใจได้อยู่แล้ว ว่าเกิดแผ่นดินไหวกันทั้งหมด รุนแรงอย่างนั้นมันห้ามไม่ได้แล้ว แต่กรณีนี้มีแค่หนึ่งตึก ตนก็ติดตามเรื่องนี้อยู่อย่างจริงจัง และที่เคยให้สัมภาษณ์ถึงระยะเวลา 90 วันในการตรวจสอบโดยสร้างโมเดลจำลองตึกถล่มของ5หน่วยงาน ตรงนั้นคือการหาเหตุผลโดยละเอียดว่าอะไรทำให้ตึกถล่มลงมา แต่ระหว่างนี้การดำเนินงานต่างๆมันถูกหมดหรือยัง การสรุปอะไรในวันนี้ต้องรอทางตำรวจ หรือDSI ที่จะช่วยหาหลักฐานให้ชัดเจนก่อน เพราะถ้าตอนพูดก่อนก็จะโดนฟ้องได้ จึงต้องรอซึ่งอีกไม่นานแล้ว
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกหมายจับ หรือใดๆก็ตามเมื่อสักครู่ ได้คุยกับทางตำรวจแล้วว่า เมื่อหลักฐานพอที่จะออกหมายจับให้ออกได้เลย เพราะฉะนั้นไม่นานหรอกที่จะมีการเริ่มออกหมายจับ” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและเอกสาร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มันชัดอยู่แล้ว ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือไม่เต็มที่ ก็ต้องถูกตั้งข้อสังเกตอยู่แล้ว ตนจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือให้เต็มที่ เพื่อที่จะไม่เป็นข้อครหาของประชาชน
เมื่อถามว่า หน่วยงานหลักที่พูดถึงคือ สตง. ใช่หรือไม่ ที่ยังให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน นายกฯ กล่าวว่า ก็ยังรอเอกสารจากทาง สตง. ด้วย และทราบว่าทุกหน่วยงานคงทำหลายเรื่อง แต่ตอนนี้รอเอกสารรายงานผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
นายกฯ กล่าวว่า เราดำเนินการทุกอย่างตามหลักฐานที่มี และได้เน้นย้ำกับทางตำรวจว่า ทำให้เต็มที่ทำให้จริงจัง อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ควรเกิดขึ้นอยู่แล้วในทุกตึกไม่เฉพาะของหน่วยงานราชการ ทุกตึกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่เข้าไปอยู่ในนั้นทุกวัน ทุกตึกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้แน่นอน แต่เมื่อเกิดปัญหาก็เป็นสิ่งที่ต้องตรวจสอบดำเนินคดีให้ชัด
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการปลอมแปลงลายเซ็นตนก็ได้รับรายงานว่ามีบางคนได้แจ้งมาว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็น ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป ตนก็ได้รับทราบมาประมาณนี้แล้วว่า เจ้าของลายเซ็นบอกว่าถูกปลอมแปลง ทั้งนี้ คนในสตง. จะต้องมีส่วนรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหนต้องดูตามหลักฐาน จะไม่เหมารวม ต้องดูเป็นหัวข้อ เช่นเรื่องการออกแบบผิดไปก็ต้องดูรายชื่อว่าใครรับผิดชอบหรือคณะกรรมการชุดไหนดูแล จะไปเหมาว่าทุกคนทำผิดไม่ได้ ต้องดูตามหลักฐานให้ตำรวจเขาชี้ ว่าหลักฐานเพียงพอก็ตามนั้นเลย
เมื่อถามย้ำว่า จากข้อมูลการออกหมายจับใกล้หรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ใกล้ค่ะ การออกหมายจับใกล้มากแล้ว ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวอีกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนผิดเลยในเรื่องนี้ ก็ทราบอยู่แล้ว ว่ามีบางจุดแน่นอนที่ผิดไปจากทุกตึก อันนี้มันชัดเจน การที่จะไม่มีใครรับผิดชอบเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยากมาก