'กะเหรี่ยง' รบพม่า ชิงรุก 'มินอ่องหล่าย' เขย่าแผนสันติภาพ

'กะเหรี่ยง' รบพม่า ชิงรุก 'มินอ่องหล่าย' เขย่าแผนสันติภาพ

ความหวังของ “นายใหญ่” ที่อยากให้ไทยเป็นเวทีกลางสำหรับการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก็ต้องมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน

KEY

POINTS

  • แนวรบด้านตะวันตกระอุเดือด ในจังหวะที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร จะมาพบอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กรุงเทพฯ
  • วันสงกรานต์ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดปากพูดเป็นครั้งแรกว่า ได้คุยกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC เพราะอยากเห็นความสันติสุขเกิดขึ้นในเมียนมา
  • เป็นความหวังของ “นายใหญ่” ที่อยากให้ไทยเป็นเวทีกลางสำหรับการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก็ต้องมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน

คนแถวรัฐกะเหรี่ยงสาดน้ำ ยังไม่ทันสิ้นสุดเทศกาลตะจาน กะเหรี่ยง KNU ก็สาดกระสุนใส่ทหารเมียนมาเมื่อรุ่งสาง 15 เม.ย.2568 ซึ่งสมรภูมิรบอยู่ห่างจากชายแดนไทยด้าน อ.แม่สอด 40 กม. 

แนวรบด้านตะวันตกระอุเดือด ในจังหวะที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร จะมาพบอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กรุงเทพฯ

แม้ประเทศวิปโยคจากเหตุแผ่นดินไหว แต่ชาวเมียนมาในหลายพื้นที่ยังร่วมฉลองเทศกาลตะจาน(ปีใหม่พม่า) ทำบุญตามประเพณี เล่นสาดน้ำกันพอประปราย

รัฐบาลทหารเมียนมา ประกาศหยุดยิง 20 วัน ส่วนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ(NUG) ก็หยุดยิง 2 สัปดาห์ และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ต่างแจ้งข่าวหยุดยิงเช่นกัน

ในโลกความเป็นจริง คู่ขัดแย้งหลักทหารเมียนมา และฝ่ายต่อต้าน ต่างฝ่ายต่างละเมิดคำประกาศหยุดยิง 

กองทัพอากาศเมียนมาทิ้งระเบิดรายวัน ทั้งในภูมิภาคสะกาย รัฐยะไข่และรัฐคะฉิ่น ด้านกองกำลังเอกราชคะฉิ่น(KIA) และ กองทัพแห่งชาติชิน(CDF) ก็เปิดฉากโจมตีที่มั่นทหารพม่าต่อเนื่อง  

ส่วนทีมกู้ภัยต่างชาติยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุธรณีพิบัติ เดินทางกลับประเทศหมดแล้ว จึงเหลือแต่ทีมงานที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 

ดังนั้น “อันวาร์” ในฐานะประธานอาเซียน จึงนัดพบ “มินอ่องหล่าย” เพื่อพูดคุยเรื่องการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรรมแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว

สำหรับทางการไทย ไม่ได้มีการแจ้งกำหนดการที่ “มินอ่องหล่าย” จะมาเมืองไทยในห้วงเวลานี้ เนื่องจากงานนี้เป็นการพบปะส่วนตัวระหว่าง “อันวาร์-ทักษิณ-มินอ่องหล่าย” 

เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดปากพูดเป็นครั้งแรกว่า ได้คุยกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC เพราะอยากเห็นความสันติสุขเกิดขึ้นในเมียนมา

“ผมก็ได้บอกกับทุกประเทศมหาอำนาจว่า ประเทศไทยอยากเห็นเมียนมายุติความขัดแย้ง และหากไม่มีการพูดคุยกัน ก็ไม่สามารถเปิดหนทางในการเจรจาได้”

อดีตนายกฯทักษิณ ยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเปิดเวทีให้มีการเจรจาสันติภาพในเมียนมา

อย่างไรก็ตาม 16 เม.ย.2568 รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ(NUG) ร่วมกับกองกำลังติดอาวุธชาติพันธ์ อาทิเช่นสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ,พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNPP) ,แนวร่วมแห่งชาติชิน (CNF) และแนวร่วมประชาธิปไตยของนักศึกษาพม่าทั้งหมด (ABSDF) ชิงออกแถลงการณ์ด่วนเรื่อง พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ตามที่มีกระแสข่าวจะพบกับผู้นำมาเลเซีย

“เรารู้สึกกังวลอย่างยิ่งที่ผู้นำอาเซียนได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้นำกองทัพภายใต้ข้อ อ้างในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม บุคคลผู้นี้รับผิดชอบต่อการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ทุกวัน”

รัฐบาลฝ่ายต่อต้านในเมียนมา ยังเรียกร้องอาเซียนยุติการส่งผ่านความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย ผ่านรัฐบาลทหารเมียนมาแต่ฝ่ายเดียว

รัฐบาล NUG อ้างว่า รัฐบาลทหารเมียนมา เหลือพื้นที่ควบคุมเพียง 22% ของทั้งประเทศ แต่ “มินอ่องหล่าย” ก็ยืนยันจะจัดให้มีการเลือกตั้งปลายปี 2568

มีข้อน่าสังเกตว่า กระแสข่าวมินอ่องหล่ายจะมาเมืองไทย ช่างประจวบเหมาะกับการสู้รบในรัฐกะเหรี่ยงครั้งล่าสุด

ทำไมกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน(PDF) จึงเปิดปฏิบัติการทางทหารเมื่อรุ่งสางวันที่ 15 เม.ย.นี้

ตามรายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวรระบุว่ากลุ่มต่อต้านมีทั้งทหาร KNLA และ PDF ได้เข้าโจมตีทหารพม่า บก.ควบคุมยุทธการที่ 12 ซึ่งวางกำลังอยู่ตามเส้นทาง อ.โจ่งโด่ง-อ.กอกาเร็ก บริเวณพื้นที่ อ.กอกาเร็ก จ.กอกาเร็ก รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ด้านตรงข้ามบ้านริมเมย หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 42 กม.

บ่ายวันเดียวกัน กองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินรบ YAK-130ทิ้งระเบิดบริเวณวัดกานนี่  บ้านกานนี่ อ.โจ่งโด่ง จ.กอกาเร็ก ส่งผลให้มีพระสงฆ์ และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง

ที่สำคัญ อ.กอกาเร็ก จ.กอกาเร็ก เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์บนเส้นทางหลวงเอเชีย (AH-1) ที่เชื่อมต่อจากเมืองเมียวดี ผ่าน อ.กอกาเร็ก ไปยังตอนกลางของประเทศเมียนมา

ทางหลวงสายเอเชีย AH-1 เป็นเส้นทางการค้าสำคัญไทย-เมียนมา โดยกะเหรี่ยง KNU ได้วางกำลังทหาร KNLA และ PDF ปิดกั้นถนนสายนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว โดย KNU หวั่นทหารพม่าจะฉวยโอกาสใช้เป็นเส้นทางรุกคืบยึดพื้นที่เมียวดีคืน

ปลายปีที่แล้ว ภาคเอกชนการค้าชายแดนแม่สอด จ.ตาก ร้องขอรัฐบาลแพทองธารเร่งเจรจากับฝ่ายรัฐบาลเมียนมา เปิดเส้นทาง AH-1 ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ 

ฝ่ายต่อต้านพยายามประโคมข่าวว่า สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) ใช้กำลังผสม KNLA และ PDF จำนวน 3,000 นาย พุ่งเป้าที่จะยึด บก.ควบคุมยุทธการที่ 12 ของทหารเมียนมาให้ได้ เพื่อตัดขาดเส้นทางเชื่อมต่อมาสู่เมืองเมียวดี

แม้วันนี้ กะเหรี่ยง BGF สาย “ชิตตู่” จะดูแลเมืองเมียวดี ในมุมของผู้นำ KNU ก็มองว่า น่าจะดีกว่าจะปล่อยให้ทหารพม่าเข้ามายึดครองเหมือนในอดีต 

ก่อนหน้านั้น มีข่าวว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ตั้งใจจะเคลื่อนกำลังทหารเข้ามาทวงคืนเมืองเมียวดี หลังจบยุทธการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ชเวก๊กโก่ และเคเคพาร์ค  

ปฏิบัติการทหารของ KNU ในช่วงเทศกาลตะจาน ย่อมส่งสัญญาณเตือนถึงรัฐบาลไทย ในการวางน้ำหนักความสัมพันธ์ต่อรัฐบาลทหารในเนปิดอว์ และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ(NUG)

ความหวังของ “นายใหญ่” ที่อยากให้ไทยเป็นเวทีกลางสำหรับการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก็ต้องมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน