'รองโฆษกรัฐบาล' เผยสถิติภัยออนไลน์ เดือนก.พ. ยังพุ่ง 2.5หมื่นคดี

"อนุกูล" เผยสถิติคดีมิจฉาชีพออนไลน์ เดือนก.พ. ยังพุ่ง 2.5หมื่นคดี พร้อมเตือนช่วงสงกรานต์ มิจฉาชีพปรับรูปแบบหลอกหลวง เตือนประชานยยึด4ไม่
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถิติการหลอกลวงจาก ภัยมิจฉาชีพออนไลน์ ประจำเดือน ก.พ.2568 พบว่า มีการแจ้งความคดีออนไลน์ จำนวนกว่า 25,000 คดี โดย 7 อันดับสูงสุด ได้แก่
1.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ แบบไม่เป็นขบวนการจำนวน 13,643 คดี
2.คดีหลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่น จำนวน 2,660 คดี
3.คดีหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ จำนวน 2,524 คดี
4. คดีหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 1,442 คดี
5. คดีหลอกให้กู้เงิน จำนวน 1,413 คดี
6. คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 1,251 คดี
และ 7. คดีหลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน จำนวน 1,046 คดี
นายอนุกูล กล่าวด้วยว่าสำหรับช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ พบว่ามิจฉาชีพได้พัฒนาการก่อเหตุโดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และปรับเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงไปอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1.แอบอ้างเป็นขนส่ง ธนาคาร หรือหน่วยงานราชการ โดยมิจฉาชีพจะส่งข้อความสั้น หรือข้อความผ่านแอปพลิเคชัน เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ค โดยอ้างถึงพัสดุตกค้าง บัญชีผิดปกติ หรือ มีเงินเข้า พร้อมแนบลิงก์หลอกลวงให้ผู้ที่หลงเชื่อกดลิงก์ เพื่อติดตั้งแพลตฟอร์มดึงข้อมูลส่วนตัว และเงินในบัญชีธนาคาร 2. หลอกจองที่พัก 3. การแฮ็กบัญชีเฟซบุ๊ค หรือ แอพลิเคชั่นไลน์ เพื่อหลอกยืมเงิน หรือขอความช่วยเหลือด่วน เช่น รถเสีย เข้าโรงพยาบาล
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า 4. แชร์ลิงก์ที่มีชื่อคล้ายกับหน่วยงาน เพื่อปลอมไปหลอกให้กรอกข้อมูล เช่น แจกเงินช่วยสงกรานต์ รับของขวัญปีใหม่ไทย เมื่อหลงเชื่อกดลิงก์ อาจนำไปสู่เว็บไซต์ปลอมเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล 5. หลอกขายสินค้าออนไลน์ช่วงสงกรานต์ ผ่านการสร้างเพจปลอมเพื่อขายสินค้าที่ดึงดูดความสนใจ และเข้ากับช่วงเทศกาล เช่น ปืนฉีดน้ำ เสื้อผ้าตามเทศกาล ของแต่งบ้านช่วงวันหยุดยาว ฯลฯ โดยเสนอโปรโมชันที่น่าสนใจ ราคาถูก มีจำนวนจำกัด เพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่สนใจเร่งโอนเงินด่วน
"ขอย้ำเตือนประชาชน ยึดหลัก 4 ไม่ คือ ไม่กดลิงก์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ และ ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ ทั้งนี้ หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี ผ่านศูนย์ AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง" นายอนุกูล กล่าว
ขณะที่ น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อว่าศูนย์ปฏิบัติการ AOC 1441 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เร่งรัดดำเนินการตัดวงจรการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพอย่างจริงจัง ส่งผลให้ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 ถึง 31 มี.ค. 2568 มีการระงับบัญชีม้าแล้วรวม 582,548 บัญชี
"ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 มีการระงับบัญชีม้าถึง 135,279 บัญชี ซึ่งยังไม่รวมกับบัญชีที่ถูกระงับโดย สำนักงาน ปปง. และธนาคารพาณิชย์ ขณะเดียวกัน มีผลการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าและซิมม้าแล้วถึง 869 รายภายใน 3 เดือนแรกของปีนี้ แยกเป็น ม.ค. 219 ราย ก.พ. 325 ราย และ มี.ค.325 ราย" น.ส.ศศิกานต์ กล่าว