'ชุติพงศ์' ย้อนเส้นทาง'ซินเคอหยวน' บทเรียน 'โรงงานศูนย์เหรียญ'

“ชุติพงศ์” ย้อนเส้นทางตรวจสอบซินเคอหยวน บทเรียน “โรงงานศูนย์เหรียญ” จี้ทบทวนมาตรการเปิดรับการลงทุน พร้อมตามต่อกรณีโรงงานปลวกแดงระยอง
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ครับุว่า [จากวันแรกจนถึงวันนี้ ปัญหาซิงเคอหยวนที่ใช้กลไกสภาผลักดันจนใกล้ถึงปลายทาง]
เรื่องปัญหาโรงงานสองสาขานี้เริ่มต้นตั้งแต่ 18 กันยา 2566 ที่ผมไปรับเรื่องร้องเรียนกรณีการหลอมเหล็กแล้วเกิดมลพิษ และนำมาเข้าสู่สภาครั้งแรกในวันที่ 5 ตุลาคม ด้วยการปรึกษาหารือ แต่ไม่มีความคืบหน้า ผมเลยเอามาตั้งกระทู้ถามอีกรอบ แต่รัฐมนตรีตอนนั้นไม่ตอบอะไรนอกจากจะดูให้ แล้วก็เงียบ
ตอนนั้นผมรู้ว่า งานนี้น่าจะยาวแน่ๆ เพราะเบื้องหลังโรงงานจีนแห่งนี้เป็นธุรกิจมลพิษสูงจากเตา IF ที่มีมูลค่าหลายพันล้าน นอกจากได้ BOI ยังทำลายธุรกิจเหล็กไทยไปมาก เป็นหนึ่งในโรงงานศูนย์เหรียญแห่งสำคัญ
ซึ่งหลังจากนั้นผมจึงใช้กลไก กมธ การอุตสาหกรรมช่วยติดตามข้อมูล ประกอบกับเกิดเหตุเครนถล่มและไฟไหม้ซ้ำในสองสาขา ข้อมูลจึงค่อยๆไหลตามมาว่าโรงงานแห่งนี้ มีเรื่องเหล็กตกคุณภาพ ก่อปัญหาความปลอดภัยในโรงงานอย่างต่อเนื่อง และจ้างงานคนผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก
จนหลังการประชุม กมธ อุตสาหกรรม วันที่ 25 ธันวาคม 67 และได้ข้อมูลผิดปกติหลายอย่าง และเรื่องไปถึงรัฐมนตรีจึงมีการสั่งระงับการประกอบการชั่วคราวให้ปรับปรุง และยึดเหล็กบางส่วนไว้เป็นของกลาง
จนกระทั่งเหตุร้ายล่าสุดคือการที่ ตึก สตง.ถล่ม และปรากฏ เหล็ก SKY ในตึก ผมจึงไปที่โรงงานในวันที่ 31 มีนาคม แล้วก็เจอเคสการขนของออกจากโรงงาน เป็นฝุ่นแดง ทางรัฐมนตรีพอรับทราบก็ส่งทีมลงมาตรวจเลยในวันที่ 2 เมษา พบว่ามีการลักลอบเก็บฝุ่นแดงอีกเรื่อง จนนำมาซึ่งการเสนอถอน BOI สู่บอร์ดและรอการพิจารณา
ซึ่งตอนนั้นเราเองยังไม่แน่ใจว่าการพิจารณาในบอร์ด BOI จะออกมาเป็นอย่างไรเพราะการถอน BOI โรงงานสักแห่งนี่ยากมาก ผมเลยไปอภิปรายในญัตติกำแพงภาษีวันที่ 9 เมษา โดยยกข้อมูลนำเสนอว่า หากจะไปเจรจาลดกำแพงภาษี ควรมีการนำเสนอว่าประเทศไทยต้องเริ่มทบทวนการเปิดรับการลงทุนจากประเทศจีน และใช้เคสซิงเคอหยวนโดนถอน BOI เป็นหนึ่งในการแสดงจุดยืน เพราะเป็นประโยชน์กับทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับประธานบอร์ดคือ รมต.พิชัย จะเอาเข้าประชุมก่อนไปเจรจาหรือไม่
ซึ่งข่าวดีคือ การประชุมบอร์ด BOI เพื่อ ยกเลิก BOI ซิงเคอหยวน ตามการเสนอของ รมต.เอกณัฐ ในวันที่ 11 เมษา ได้รับผลตอบรับที่ดีคือเพิกถอนชั่วคราวมาจาก BOI ซึ่งผมต้องขอบคุณทุกคนในบอร์ดที่เข้าใจ รวมไปถึงทาง รมต. ทุกท่านจริงๆที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ แม้เรื่องนี้จะยังไม่จบเพราะอยู่ที่รมต.เอกณัฐ แล้วว่าโรงงานนี้จะได้รับการอนุญาตให้กลับมาเปิดอีกไหม หรือจะสั่งปิดกิจการไปเลย?
แม้เคสนี้เป็นก้าวอีกก้าวที่มาได้ไกล แต่เคสนี้เป็นเพียงโรงงานศูนย์เหรียญแห่งนึงในเขตผมเท่านั้น บทเรียนจากเรื่องนี้ต้องนำไปสู่การทบทวนปรับปรุงมาตรการในการเปิดรับการลงทุนอีกหลายระดับทั้งประเทศ
ทิ้งท้าย ผมยืนยันว่าเรื่องซิงเคอหยวน แม้จะคืบหน้า แต่ว่า “ยังไม่จบนะครับ”
เพราะอย่าลืมว่ายังมีเคสที่โรงงานนี้อีกสาขาที่ปลวกแดง ที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งผมไปพบว่าหลังเครนถล่มและโดนระงับการก่อสร้าง วันที่ 7 เมษา ผมไปพบว่ามีการแอบสร้างจนคืบหน้าไปเยอะแล้ว โดยเรื่องนี้ต้องเป็นจังหวัดกับท้องถิ่นมาร่วมกันตรวจสอบว่าแอบสร้างผิดกฎหมายหรือไม่ และถ้าผิดกฎหมายจริง เรื่องนี้ใหญ่มากและต้องมีคนทำผิดกฎหมายแน่นอน







