‘ธรรมนัส’ แนะ อย่าตื่นกำแพงภาษี รีบแก้ผ้าให้ ‘สหรัฐฯ’ เหมือนบางประเทศ

“ธรรมนัส” นำคณะลงพื้นที่ชัยภูมิ ชี้ อย่าตื่นกำแพงภาษี เหมือนบางประเทศ “สหรัฐฯ” ยังไม่ทำอะไร แก้ผ้าให้เขาแล้ว ปลุกลูกพรรคอย่าสนคนว่างูเห่า ประกาศปักธงอย่างน้อย 2สส.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เพื่อพบปะเกษตรกรและรับฟังปัญหาต่างๆ โดยมีนายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ พรรคกล้าธรรมและเกษตรกรให้การต้อนรับ
โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม พูดจาดุเดือดกว่าทุกครั้ง แต่นี่คือการพูดออกมาจากใจ ถือเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นเจ้ากระทรวง เพราะว่าเราต้องดูแลคนในกระทรวง ตั้งแต่ท่านปลัดจนถึงพี่น้องราชการลูกจ้าง คนงาน นอกจากนั้น สิ่งที่กระทรวงเกษตรฯต้องดูแลก็คือ พี่น้องเกษตรกร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ปัญหาจากทางฝั่งสหรัฐอเมริกากำลังทำให้ทั่วโลกแตกตื่นกันหมด แต่ที่นี่คือประเทศไทย เราไม่เคยเสียอธิปไตยให้กับประเทศใด เวลานี้มันมีสงครามสงครามการค้า นโยบายของสหรัฐฯในวันนี้จะทำให้คนอเมริกาต้องใช้ของแพง กินของแพงแล้วจะอยู่ได้ยังไง สุดท้ายทรัมป์ ก็ต้องถอยด้วยการประกาศระงับการขึ้นภาษีนำเข้าออกไป 90 วัน ดังนั้น ถ้าเราแตกตื่นทำตัวเหมือนบางประเทศ เขายังไม่ทำอะไรเลย แก้ผ้าให้เขาแล้ว แต่เขาไม่เอา จะอายเขาหรือไม่ อันนี้ถือว่า เป็นเรื่องสำคัญของภาวะผู้นำ ก็ต้องขอขอบคุณนางนฤมล และทีมงานกระทรวงเกษตรฯที่ต่อสู้ปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย
"อีกไม่นานผมก็จะเกษียณอายุแล้ว ผมอยากจะทำให้พี่น้องคนไทยและเกษตรกรอยู่ดีกินดี เพราะเกษตรกรถือว่า เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ตอนที่ผมเข้ามาเป็น รมว.เกษตรฯผมต้องการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนดทองคำ และผมใช้เวลา 3 เดือน ผมก็ทำให้พี่น้องได้ วันนี้ผมมาพร้อมกับ สส.กาญจนา หรือ ติ๊ก ซึ่งก่อนหน้านี้ สส.ติ๊ก อยากจะวางมือทางการเมือง เพราะเบื่อการเมืองที่มีแต่ความแตกแยก มีแต่เรื่องสกปรก นินทากันไปมาผมจึงบอก สส.ติ๊กว่า ให้จำวันแรกที่มาสมัคร สส.และหาเสียงว่า จะดูแลพี่น้องประชาชน จนเราได้รับเลือกตั้งมา เราต้องลุกขึ้นมาดูแลชาวอำเภอหนองบัวแดง ไม่ต้องกลัวใครจะว่าเราเป็นงูเห่า หูหนัก ๆ อย่าไปสนใจ เพราะเราทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่ๆ และจะต้องนำความสุขความเจริญมาสู่พี่น้องที่นี่" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคกล้าธรรมเราจะขับเคลื่อนโดยยึดมั่น ตั้งมั่นว่า เราจะใช้ชีวิตการเป็นนักการเมือง มาช่วยเหลือ พัฒนา พี่น้องเกษตรกรและประชาชน เราให้คำมั่นสัญญาว่า พรรคกล้าธรรมจะทำงานเพื่อให้ทุกคนมีความสุข อยู่ดี กินดี
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส และคณะ เป็นประธานเปิดสำนักงานสาขาพรรคกล้าธรรม ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดชัยภูมิ โดยมี กรรมการบริหารพรรค และ สส.เข้าร่วม รวมถึงนายอร่าม โล่ห์วีระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การต้อนรับพร้อมระบุว่าขอขอบคุณรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ทุกท่านที่ให้เกรียติมาเยือนบ้านของตน ส่วนตัวตนรู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส มากว่า 30 ปี ผู้กองธรรมนัสมีความโดดเด่นเรื่องการตัดสินใจ งบประมาณที่ท่านลงมาช่วยจังหวัดชัยภูมิ เหมือนเป็นการปลุกเร้าความรู้สึกของชาวชัยภูมิให้ตื่นจากภวังค์ของความเจ็บปวดที่เกิดจากความแห้งแล้ง ตนขอให้พรรคกล้าธรรมสร้าง สส.น้ำดีให้กับจังหวัดชัยภูมิเพิ่มขึ้น
ด้าน นางนฤมล กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายอร่าม ที่ให้การสนับสนุนและได้ให้ใช้พื้นที่ รวมทั้งนายอัครแสนคีรี ที่เป็นแกนนำหลักของพรรคในการขับเคลื่อนพื้นที่ภาคอีสาน พวกเรามาจากบ้านเก่าด้วยกัน แต่วันนี้เราจะมาสร้างบ้านใหม่ที่เข้มแข็ง ทำงานภายใต้การให้เกียรติ เคารพ เชื่อมั่น ซึ่งกันและกัน พูดคุยกันให้จบ เราจะไม่มีการดำเนินการนโยบายทางการเมืองแบบเปลี่ยนมาเปลี่ยนไป เพราะมันทำให้ผู้ที่จะเดินตามทำตัวไม่ถูก
“ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนคำไหนคำนั้น ถ้าบอกว่าใช่ก็คือใช่ รับปากแล้วก็คือต้องทำ ไม่มีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถ้าทำไม่ได้จริงๆ เราก็ต้องชี้แจง ทำความเข้าใจกับสมาชิกในบ้านของเรา เราจะทำงานด้วยความจริงใจ ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสมาชิกพรรค และประชาชน หากเราพูดแล้ว เราต้องทำให้ได้ ดิฉันมั่นใจว่า กรรมการบริหารสาขาพรรคกล้าธรรมที่ จ.ชัยภูมิ จะสามารถนำพาต้นกล้าแห่งธรรมต้นนี้เจริญเติบโต ออกดอก ออกผล เราจะกล้าทำตามชื่อของพรรค และจะนำความสุขมาให้กับประชาชนคนไทย” นางนฤมล กล่าว
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณเจ้าบ้านที่ให้การต้อนรับ นายอร่ามถือเป็นนักการเมืองรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในเรื่องของการเมืองท้องถิ่น จ.ชัยภูมิ มี สส.ทั้งหมด 7 คน จากพรรคเพื่อไทย 3 คน พรรคภูมิใจไทย 2 คน พรรคกล้าธรรมและแนวร่วม 2 คน การแข่งขันระหว่าง 3 พรรคการเมืองขึ้นอยู่ที่ ใครจะมีผลงานมากกว่ากัน การที่ สส.ลงพื้นที่ เพื่อนำปัญหาของประชาชนไปทำให้เกิดการแก้ไข นี่คือการสร้างกระแส นิยมของพรรค
"พรรคกล้าธรรมไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมการบริหารพรรคหลายชั้น หลายขั้น ติดต่อยาก เข้าถึงได้ยาก ผมไม่ต้องการทำพรรคการเมืองแบบนั้น ตอนสมัยอยู่บ้านเก่าจะทำอะไรก็ไม่ค่อยได้ดั่งใจ คิดได้แต่ทำไม่ได้ เพราะจะต้องผ่านหลายขั้นตอน ต้องผ่านกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ผ่านคนโน้น ผ่านคนนี้ กว่าจะไปถึงหัวหน้าพรรคมันก็สายไปแล้ว เราเลยแยกออกมาสร้างบ้านหลังใหม่ของเรา ที่เราจะกล้าทำในสิ่งที่เราคิด กล้าตัดสินใจ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน โดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร เพราะเราอุดมการณ์เป็นของตัวเอง" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จ.ชัยภูมิเป็นเมืองใหญ่มี สส.ถึง 7 คน ดังนั้น การเมืองภายในจังหวัดควรที่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถ้ากระจัดกระจายคนละทิศทาง อย่าหวังเลยว่า จะพัฒนาบ้านเมืองได้ เราขอประกาศปักหมุดและปักธงครอบครัวของพรรคกล้าธรรมไว้ที่จังหวัดนี้ เลือกตั้งครั้งหน้า เราจะต้องมี สส.ของพรรคมากขึ้นกว่า 2 คน หรืออย่างไรก็จะต้องไม่ต่ำกว่า 2
ทั้งนี้ นายอัครแสนคีรี ได้กล่าวขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรคกล้าธรรมทุกท่านที่ลงเยือนอำเภอแก่งคร้อ เพื่อมาดูปัญหาของชาวบ้านที่นี่ และถือเป็นโอกาสที่ดีของชาวชัยภูมิที่ได้รับการดูแลจากกระทรวงเกษตรฯมาโดยตลอด







