ยั้ง ‘กาสิโน-กฎหมายนิรโทษกรรม’ แทกติก 'สภาฯ' รอ ‘กินรวบ’

ประเด็นที่ "รัฐบาล-พท. ถอย เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ นิรโทษกรรม คือ แทกติกการเมือง ที่ไม่ใช่การถอย เพื่อ "แพ้" แต่คือการหาจังหวะ รอการสมประโยชน์ และกินรวบ
KEY
POINTS
Key Point :
- รัฐบาล เลือกเตะเบรก ร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร ที่ปูทางไปสู่ นโยบายเรือธง ไม่น่าแปลกใจเท่า การลาก "นิรโทษกรรม" พ่วงเข้ามา
- เรื่องนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่แท้จริง คือการใช้แทกติก การเมือง สร้างตัวประกัน ไว้เพื่อต่อรอง
- ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ถูกเลื่อนเข้ามา มี4ฉบับ และ "ปชน." รวมถึง "รทสช." ต้องการดันให้ผ่านเพราะเป็นกฎหมายการเมือง
- หาก พวกเขาไม่เอา "เอนเทอร์เทนเมนต์" อาจไปไม่ถึง "นิรโทษกรรม"
- และสิ่งที่ถูกจับตามองกว่านั้นคือ "เกมต่อรอง" ที่ผูกโยง ก้อนเส้า "กาสิโน-นิรโทษกรรม-พนันออนไลน์" ที่ 3ขั้วอำนาจเก่า พ่วง1อำนาจที่สร้างบทบาทในเกม ดันสุดตัว
- ที่อาจเป็นข้อสรุปได้ว่า การยั้งร่างกม.เอนเทอร์เทนเมนต์ และ นิรโทษกรรม ก็แค่ พักรอจังหวะ "กินรวบ"
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่เป็นเหตุให้นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” จูงมือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แถลงแตะเบรก ยั้ง “สภาฯ” ไม่ให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ… หรือ “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่พ่วงกาสิโน
ทั้งที่ก่อนหน้านั้น รัฐบาลไม่มีทีท่าผ่อนคันเร่ง แถมยังดึงดันต่อการเดินหน้านโยบายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แบบเร่งด่วน ยืนกระต่ายขาเดียว ว่า เป็น “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ-แหล่งรายได้ใหม่”
หากจำกันได้ ในการประชุมสภาฯ คราวที่แล้ว สส.เถียงกันแทบเป็นแทบตาย นานถึง 3 ชั่วโมง ประเด็นการเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ ที่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องการจะขยับกฎหมายนโยบายขึ้นมาพิจารณาให้ได้ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ
ขณะที่ “พรรคประชาชน” ในฐานะฝ่ายค้าน พยายามชิงเหลี่ยม ถือเกมนำ ทว่าต้องพ่ายไป เพราะเสียงในสภาฯสู้ไม่ได้ ตอนนั้นตัวแทนพรรคเพื่อไทยเสนอให้เลื่อนร่างกฎหมายรวม 5 ฉบับ คือ
1.ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่ง ครม.เสนอ
2. ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับที่ “ปรีดา บุญเพลิง” สส.และรองหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เสนอตั้งแต่ยังเป็นสส.สังกัดพรรคครูไทยเพื่อประชาชน
3.ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ที่ “วิชัย สุดสวาสดิ์” สส.ชุมพร คนสนิทของ ลูกหมี "ชุมพล จุลใส” แกนนำ กปปส.
4.ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. .... เสนอโดย “ชัยธวัช ตุลาธน”
5.ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. ... เสนอโดยภาคประชาชน
สิ่งที่สังคมตั้งข้อสงสัยในการเดินเกมของ “รัฐบาล-เพื่อไทย”ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำไมจึงพยายามดันเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปพร้อมๆ กับ “นิรโทษกรรม”
โดยเฉพาะกลุ่มร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิรโทษกรรม ที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะวิปรัฐบาลปล่อยให้ค้างคาในวาระมาตั้งแต่ปี 2567 แถมยังเป็นคิวต่อท้ายร่างกฎหมายที่ สส.เสนออีก 3 ฉบับ
มีลักษณะใช้แทกติกการเมือง สร้างเรื่องต่อรอง เพื่อหวังให้เกิดตัวประกันทางกฎหมาย ลากกันไปสู่ชั้นการพิจารณาได้โดยละม่อม
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “นิรโทษกรรม” เป็นกฎหมายการเมืองที่พรรคการเมืองอย่างน้อย 2 พรรค คือ พรรคประชาชน ฐานะฝ่ายค้าน และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฐานะฝ่ายรัฐบาล ตัวแทนฝ่ายอนุรักษนิยม ต้องการได้เครื่องมือเพื่อนำไปสู่หนทางปลดชนักที่ปักหลังคนเบื้องหลังพรรคการเมือง รวมถึงประชาชนฐานเสียง
อย่างไรก็ดี แม้เรื่อง “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” และ “นิรโทษกรรม” จะไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ทันสมัยประชุมนี้ ที่จะสิ้นสุดในวันนี้ (10เม.ย.) แต่ภาคสังคมที่จับตาความเคลื่อนไหวของ “ฝ่ายการเมือง” ไม่อาจวางใจ การเดินเกมของ “เพื่อไทย” และกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล
ในวงของผู้ชุมนุมต้านกาสิโน ได้พูดถึงภาคต่อของเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโน และนิรโทษกรรม ว่า ยังคงมีความพยายามดันสุดซอย เมื่อได้จังหวะที่เหมาะสม ผ่านการต่อรองของขั้วอำนาจเก่าที่ยังมีพลังในทางการเมือง คือ “แดง-ส้ม-เหลือง”
นอกจากนั้นยังมี “สีน้ำเงิน” ที่พยายามเข้าไปและขอมีส่วนแบ่งในเกมต่อรอง
การขอมีส่วนในเกมต่อรอง มีจุดชี้ให้เห็นช่องคือ กรณีที่ “วุฒิสภา” ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรขึ้นมา ตามการเสนอญัตติของ “สว.กลุ่มสีน้ำเงิน” และยังเห็นชอบให้สัดส่วน “คนนอก” เข้าร่วมวง 12 คน ซึ่งเป็นกลุ่ม “นักวิชาการ-นักเคลื่อนไหว” ที่ไม่เอานโยบายกาสิโน อย่างชัดเจน เช่น แก้วสรร อติโพธิ คำนูณ สิทธิสมาน เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จรัญ ภักดีธนากุล
นักวิชาการที่มีชื่อเหล่านี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เข้าไปเพื่อสร้างความชอบธรรม แต่หาได้หวังผลค้าน เพราะ “คนนอก” ไม่มีสิทธิโหวตออกเสียงใดๆ
การตั้งกมธ.วิสามัญนี้ “นักเฝ้ามองการเมือง” มองว่าเป็นการตั้งเรื่องเพื่อต่อรองอะไรบางอย่างทางการเมือง และแสดงความกังวลว่าจะทำให้ “กาสิโน” มีผลออกมาในทางรับรองนโยบายกาสิโนเสรี ไม่ใช่การศึกษาเรื่อง “สถานบันเทิงครบวงจร” ตามที่วุฒิสภาตั้งเป็นหัวข้อญัตติไว้ตั้งแต่แรก
หาก 3 ขั้วอำนาจเก่า พ่วงกับ 1 อำนาจใหม่สมประโยชน์กัน “ฝ่ายนิติบัญญัติ” ทั้งสภาฯบน และสภาฯล่าง จะถูกกินรวบ แบบไม่มีอะไรฉุดได้ ไม่ว่าจะเป็น
นิรโทษกรรมสุดซอยพ่วง 112
สถานบันเทิงครบวงจรพ่วงบ่อนเสรี
และพนันออนไลน์พ่วงฟอกเงิน และฟอกทุนเทา
ดังนั้น ภาคประชาสังคมยังต้องจับตา “รัฐบาล” ต่อไปอย่างใกล้ชิด แม้ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกลุ่มร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ยังไม่ถูกหยิบยกขึ้นมา แต่เมื่อ ครม.ไม่ถอนออกจากวาระ เท่ากับยังมีความพยายามผลักดันต่อ โดยรอจังหวะ หาช่องทางใหม่ เพื่อไม่ให้ “รัฐบาล-เพื่อไทย-แพทองธาร ชินวัตร” ถูกสั่นคลอนก่อนครบเทอม.







