ด่วน! รัฐบาลร้าว ‘นายกฯ’ ควง พรรคร่วมฯ แถลง ถอย ‘เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’

ด่วน! รัฐบาลร้าว ‘นายกฯ’ ควง พรรคร่วมฯ แถลง ถอย ‘เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’

พรรคร่วมร้าว รัฐบาลถอย “ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ไปสมัยประชุมหน้า นายกฯ อ้าง แก้ปัญหาสำคัญก่อน นำเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา พิจารณาแทน

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ แถลงร่วมกันว่า หลังการประชุม ครม. มีการประชุมร่วมกันของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค โดยเล็งเห็นถึงปัญหาวิกฤติต่างๆ ที่ประเทศเรากำลังประสบตอนนี้ ทั้งเรื่อง"แผ่นดินไหว" และการเยียวยา จะดูแลแน่นอนทั้งคนไทย และคนต่างประเทศ

รัฐบาลก็จะดูเรื่องการยกเว้นกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อจะได้ช่วยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยได้มากยิ่งขึ้น ก็อยู่ในกระบวนการพิจารณา นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ที่จะมีการประชุมบ่ายนี้ 

นายกฯ กล่าวว่า วาระต่างๆ ที่ได้สรุปร่วมกัน เรื่องอื่นๆ ก็คงจะรอได้ พรรคร่วมฯ ก็ได้คุยกันหมดแล้ว ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนใหญ่ก็คือ เห็นตรงกันอยู่แล้ว ก็ได้นั่งคุยกันในทุกขั้นตอน 

เมื่อถามว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเลื่อนการพิจารณาของสภา จากเดิมคือ 9 เม.ย.68 นี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวดูว่าในสภาจะอย่างไรต่อ ซึ่งที่คุยกับพรรคร่วมฯ ก็เอาเรื่องที่เร่งด่วนก่อน อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ถอนหรือดึงร่างกลับมา ระหว่างนี้ก็รับฟังความคิดเห็นได้เรื่อยๆ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่าเราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ 

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร จะนำเข้าพิจารณาในสภา สมัยประชุมหน้าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ค่ะ

นายกฯ กล่าวว่า ภาพของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ความตั้งใจของเราคือ ลูกเด็กเล็กแดงไปได้หมดซึ่งมีทุกอย่างอยู่ในนั้น ไม่ใช่กลายเป็นว่ากาสิโนทั้งประเทศ ถูกกฎหมายหมดมันไม่ใช่เลย มันคือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนในนั้น โดยให้ใบอนุญาติถ้าจะมี ไม่ใช่ทุกที่ทุกทางต่อจากนี้ มันต้องใช้เวลาทำความเข้าใจรายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งนี้ การพนันนอกระบบ นอกกฎหมาย สร้างผลเสียอีกมากมาย เพราะฉะนั้น เราไม่ได้เน้นกาสิโนเป็นหลักด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นว่าความตั้งใจนี้ถูกเรียกว่าเป็นกาสิโนแทน แล้วอย่างอื่นที่เราจะสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อันยิ่งใหญ่ รัฐบาลก็จะรับผิดชอบเรื่องนี้ในการสื่อสารให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าแปลว่าอะไรกันแน่ เพราะเราไม่คิดว่าเป็นการทำกาสิโน ถ้าเป็นอย่างนั้น พรรคร่วมฯ ก็ไม่เห็นด้วยในการแถลงเป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของเม็ดเงินที่จะเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง 

เมื่อถามว่า หลายภาคส่วนออกมาคัดค้าน รวมถึงเรียกร้องให้ทำประชามติ นายกฯ กล่าวว่า รับฟังทุกฝ่าย แต่ไม่ใช่เหตุผลนี้อยู่แล้ว อย่างเรื่องภาษีทรัมป์ เป็นเรื่องหลัก จำเป็นต้องแก้ปัญหา ถึงต้องจัดประชุมและคุยเรื่องนี้ให้ชัดเจน นี่คือเรื่องสำคัญ 

เมื่อถามว่า แนวคิดเรื่องประชามติเห็นด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รับฟัง เดี๋ยวไปคุยกันในคณะว่าทำอะไรได้บ้าง 

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้ถอน ซึ่งมันมีญัตติที่ด่วนกว่านี้ โดยเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องปากท้อง ไม่ได้มองเรื่องกาสิโน เรื่องนี้เป็นเม็ดเงินใหม่ มีการจ้างงาน เรามองเห็นโอกาสในการโตขึ้นของประเทศเรา เห็นตัวเลขที่จะเข้ามาอย่างมากมาย เกิดdestination ใหม่ในด้านการท่องเที่ยว แต่พอประเด็นถูกบิดไปมา ในเรื่องของการเมืองก็มีมากเช่นกัน บิดไปบิดมา กลายเป็นว่ารัฐบาลจะมุ่งเน้นเปิดสถานที่พนันเสียแล้ว มันไม่ใช่ความตั้งใจนี้เลย 

เมื่อถามว่า กระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขู่ขับพรรคร่วมฯพ้นรัฐบาล หากไม่โหวตกฎหมายนี้ ไม่จริงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นี่ค่ะ พรรคร่วมฯอยู่ครบ ทั้งนี้ เราไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ว่าเห็นด้วยหรือไม่ หรือจะขับไม่ขับ ตนในฐานะผู้นำรัฐบาล อยากให้พรรคร่วมเกิดความสบายใจ และพร้อมที่จะเห็นด้วยด้วยความเต็มใจ นี่คือการนำแบบตน อยากให้พรรคร่วมมีความเต็มใจ ในการโหวตในการเห็นด้วย ตามหลักปกติทุกพรรคเห็นด้วยตรงกัน เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่อยากให้ทำด้วยความรู้สึกว่าเห็นด้วยตรงกัน พร้อมไปด้วยกันอย่างเต็มที่100% นั่นคือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น 

รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุสำคัญ เนื่องจากท่าทีของพรรคร่วมบางพรรค จะลงมติ "งดออกเสียง" หากมีการนำวาระดังกล่าวเข้าสู่การประชุมของสภาในวาระแรก ขณะที่ท่าทีของ สว.สายสีน้ำเงิน ที่ออกมาแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเรียกร้องให้ รัฐบาลดำเนินการออกเสียงประชามติต่อร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติกำหนดให้ต้องทำคือ การดำเนินการสิ่งที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง และประโยชน์โดยรวมของประเทศ  ทั้งนี้หากไม่ทำอาจเข้าข่ายทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 172  รวมถึง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) มาตรา 123/1 หากพบการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดมิชอบ รวมถึงเหตุผลทางจริยธรรม

ทั้งนี้ท่าทีดังกล่าวของ สว.สายสีน้ำเงิน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ทำให้นายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทยตัดสินใจถอยในท้ายที่สุด 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์