‘พท.’ ในวงล้อมพรรคร่วมฯ ‘เศรษฐกิจ’ติดหล่ม ‘เลือกตั้ง’ ไว!

บรรดาแกนนำรัฐบาลที่ประสานเสียงกันตลอดว่า เหนียวแน่น จะอยู่ครบเทอม เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครประมาท ต้องพร้อมลงสนามเลือกตั้งทุกเมื่อ เพราะเงื่อนไขหรือสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และมีอะไรอีกมากที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
KEY
POINTS
- เดิมพันสำคัญของเพื่อไทยสำหรับการเลือกตั้ง คือการแก้โจทย์ปัญหาเศรษฐกิจ
- นายกฯ แพทองธาร นับว่าต้องแบกรับมากกว่าใคร เพราะยี่ห้อเพื่อไทย ชูจุดขายเรื่องนี้มาตลอด
- ท่ามกลางการจับตา2จุดเปลี่ยนสำคัญก่อนเลือกตั้งที่อาจมาเร็วกว่ากำหนด ปี70
แบรนดิ้งของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกส่งต่อจากดีเอ็นเอพรรคไทยรักไทย ถูกใช้ในการสื่อสารทางการเมืองผ่านจุดแข็งเรื่องความเชี่ยวชาญแก้ปัญหาเศรษฐกิจ กลยุทธ์ทางการตลาดตรงนี้ กลายเป็นยี่ห้อที่ติดมากับทักษิณ และเครือข่ายตระกูลชินวัตร
สโลแกนหาเสียงในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา มักจะได้ยินเสมอ ว่า “เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องเพื่อไทย” แต่ความเป็นจริงวันนี้ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ที่ภูมิใจกับความเป็นผู้นำ Gen Y อายุน้อยที่สุด กำลังเผชิญมรสุมทางเศรษฐกิจลูกใหญ่
นอกจากกำลังซื้อของคนในประเทศหดหายจากปัญหาหนี้สิน กระเป๋าฟีบ สภาพคล่องเข้าขั้นขัดสน การแจกเงินหมื่นทีละขยักก็แทบไม่มีแรงส่งให้บรรยากาศกลับมาคึกคักแต่อย่างใด การบริหารตัวเลขการเติบโตของรัฐบาลสำคัญไม่แพ้การบริหารอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน ว่าเงินทองหาง่าย
โจทย์สำคัญของเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อยู่ที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในวันนี้ ความนิยมทางการเมืองสัมพันธ์กับความสำเร็จในการทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศมีชีวิตชีวา มีเงินจับจ่ายใช้สอยไม่ขาดมือ
เงื่อนไขเหล่านี้ลำพังว่ายากแล้ว กลับต้องมาเจอภัยพิบัติแผ่นดินไหว ที่จะกระทบการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์หรือไม่ ยังต้องลุ้น และยังเจอกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา งานของรัฐบาลลูกนายใหญ่เลยหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ผลงานสำคัญของรัฐบาลผสมชุดนี้ เลยหนีไม่พ้นการกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจ หากทำไม่ได้ตามที่ประชาชนคาดหวัง แรงกดดันจะตกอยู่ที่นายกฯ แพทองธาร เป็นหลัก ในฐานะผู้นำรัฐบาล และหัวหน้าพรรคพื่อไทย ที่ชูธงเรื่องนี้มาตลอด แถมคุมกระทรวงเศรษฐกิจทั้งสิ้น บรรดาพรรคร่วมฯ เลยลอยตัวได้ประมาณหนึ่ง
แนวรบทางการเมืองของเพื่อไทย ยังต้องเจอคือศึกเฉพาะหน้าในการเตรียมตัวเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. ช่วงกลางปี 2569 คู่แข่งสำคัญหนีไม่พ้นพรรคประชาชน และบรรดาแคนดิเดตชื่อคุ้นหูทั้งหญิงและชายอีกหลายคนที่กำลังดีลกันให้วุ่น จะแยกหรือจะร่วมกันตี ท่ามกลางปัญหาปากท้องแบบที่เป็นอยู่ การที่เพื่อไทยจะเดินเข้าสู่สังเวียนจึงไม่ใช่งานง่าย
ในจังหวะที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ต่างแฮปปี้กับกระทรวงที่คุม ค่อยๆ สะสมกำลังเอาไปใช้สู้เลือกตั้ง ระหว่างนี้ ต่างขยับขับเคลื่อนทำกิจกรรมกันคึกคัก
ไล่มาตั้งแต่ ภูมิใจไทย เปลี่ยนสีโลโก้ ประกาศความพร้อมสู้ศึก โชว์สถิติเติบโตขึ้นในทุกการเลือกตั้ง
ประชาธิปัตย์ โดยผู้บริหารพรรคชุดใหม่ โชว์ไม้ตายเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ซื้อเสียง ประเดิมศึกเลือกตั้งซ่อม นครศรีธรรมราช เขต8
ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ แว่วๆว่านายทุนหันหัวเรือกลับ ไม่ทำพรรคใหม่ เบนเข็มยึดบ้านหลังเดิมก็ต้องวัดพลังกันอีกหลายยก
ด้านพรรคประชาชาติ ก็ประกาศปักธง เลือกตั้งรอบหน้ากวาด สส.ไม่ต่ำ 30 ที่นั่ง หรือแม้แต่พรรคกล้าธรรม เอง ก็ปูพรมตั้งสาขาทั่วประเทศเตรียมส่งผู้สมัครทุกภาค
บางฝ่ายเริ่มจับท่าทีของรัฐบาล อาจมีจุดเปลี่ยนสำคัญหลังเสร็จ 2 ภารกิจ คือ แจกดิจิทัลวอลเล็ต ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย และลุยไฟผ่านกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่พ่วงกาสิโน จนสำเร็จ เมื่อนั้นก็อาจได้เห็นการเลือกตั้งทั่วไป เร็วกว่ากำหนดปี 2570 หรือไม่ เพื่อคู่แข่งจะได้ไม่ทันตั้งตัว เพราะลากต่อไป ความนิยมของพรรคหลักในรัฐบาล ก็อาจไม่กระเตื้องกว่าที่เป็นอยู่
บรรดาแกนนำรัฐบาลที่ประสานเสียงกันตลอดว่า เหนียวแน่น จะอยู่ครบเทอม เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครประมาท ต้องพร้อมลงสนามเลือกตั้งทุกเมื่อ เพราะเงื่อนไขหรือสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และมีอะไรอีกมากที่อยู่นอกเหนือการควบคุม







