‘ภท.’ เปลี่ยนสีโลโก้ น้ำเงินล้วน โว ‘เลือกตั้ง’ หน้า โตกว่านี้อีก

“ภท.” เปลี่ยนสีโลโก้พรรค เป็นน้ำเงินล้วน ตามสื่อเรียก สื่อถึงความรักชาติ เทิดทูนสถาบัน “อนุทิน” ชี้ 16ปี พรรคโตทุกการเลือกตั้ง รอบหน้าจะโตกว่าปัจจุบัน
ที่ พรรคภูมิใจไทย มีการทำบุญครบรอบ วันก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ก้าวสู่ปีที่ 17
นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยแกนนำและสมาชิกพรรค จากนั้น มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 วาระสำคัญคือการแก้ไขข้อบังคับพรรค และเปลี่ยนสีโลโก้พรรค เป็นสีน้ำเงินทั้งหมด มีความหมายถึงการดำเนินงานทางการเมืองที่ยึดมั่นวิถีของความเป็นไทย สื่อถึงความรักชาติ จรรโลงศาสนา และเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยทั้งชาติ ภายในการปกครองในระะบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีอายุครบ 16 ปีในวันนี้ ซึ่งมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์การทำงานทางการเมือง และการบริหารมาแล้วทุกรูปแบบในทุกสถานการณ์การเมือง สามารถบริหารจัดการพรรค ดูแลสมาชิกและดำเนินงานทางการเมืองโดยไม่มีสะดุด ไม่มีหยุดพัก เพราะเราคิดกันแบบนี้ ทำงานกันแบบนี้ จึงเป็นเหตุให้พรรคเติบโตขึ้นทุกครั้งที่มี การเลือกตั้ง สส.ที่เพิ่มขึ้นคือคำตอบว่า การทำงานของพรรคเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนมากขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่ ภูมิใจไทยจะเติบโตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน จะได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้นอีกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังคงยึดมั่นเป็นอุดมการณ์สูงสุด เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคนภูมิใจไทยไว้ได้ ก็คือความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งมีความมั่นคง ไม่มีเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ และ ความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ จนถูกเรียกว่าเป็น พรรคสีน้ำเงิน เราเต็มใจ ถือว่าเป็นการให้เกียรติต่อพรรคภูมิใจไทย และเป็นการแสดงให้เห็นว่าประชาชน สื่อมวลชน ยอมรับ และสัมผัสได้ถึงอุดมการณ์ของพรรค ความหมายของสีน้ำเงิน ถูกต้องตรงกับบุคลิกลักษณะ และอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทยทุกประการ ดังนั้น วันนี้ที่ประชุมใหญ่ของพรรค จึงมีมติให้เปลี่ยนสีตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทย เป็นสีน้ำเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรียก หรือฉายาที่ประชาชน สื่อมวลชน เรียกเราพรรคสีน้ำเงินซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของสมาชิกพรรคทุกคน







