‘สุดารัตน์’ แนะ ‘รัฐบาล’ จับมืออาเซียน สร้างอำนาจต่อรอง ‘สหรัฐฯ’

‘สุดารัตน์’ แนะ ‘รัฐบาล’ จับมืออาเซียน สร้างอำนาจต่อรอง ‘สหรัฐฯ’

“สุดารัตน์” ชี้ สหรัฐฯ ขึ้นภาษีไทย ซ้ำเติมศก.ที่กำลังย่ำแย่ ปชช.จนลง แนะ ดึงทุกภาคส่วนมาช่วย จับมืออาเซียน สร้างอำนาจต่อรอง ใช้เวทีสภา ระดมความเห็น ไม่ใช่เร่งดันกาสิโน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงว่าการขึ้นภาษีของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า เป็นปัญหาใหญ่ที่จะกระทบทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม ชึ่งจะส่งผลรุนแรงต่อรายได้ของธุรกิจทั้งขนาดเล็ก ขนาดขนาดใหญ่ และอาจจะกระทบ GDP สูงถึง 1.2% ที่ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้ว อาจจะต้องเข้าสู่สภาวะทดถอย ประชาชนจะยากจนลงอีกมาก ขณะที่หนี้สินทั้งของประชาชน และของประเทศจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสระดมองค์ความรู้ของทุกภาคส่วนภายในประเทศ ทั้งภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย สภา SMEs ตัวแทนเกษตรกร นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการฯลฯ รวมทั้งสส.ฝ่ายค้าน และ สว.มาร่วมแก้ปัญหา รวมทั้งควรจะแสวงหาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศกลุ่มอาเซียน ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของทรัมป์เช่นกัน โดยใช้เวทีอาเซียนในการหารือเร่งด่วนกับมิตรประเทศในอาเซียน เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการเสนอข้อต่อรองไปยังสหรัฐอเมริกา โดยใช้พลังของอาเซียน ในการต่อรอง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนขอเสนอให้รัฐบาลได้ใช้รัฐสภาเป็นเวทีระดมความคิดเห็นในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประชุมสภา นำเรื่อง การขึ้นภาษี Reciprocal Tariff ของ ประธานาธิบดีทรัมป์ แทนการเร่งรัดนำเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ชึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมาตรการ ปกป้องความเสียหายต่อคนไทยและสังคมไทย จนหลายฝ่ายกังวลว่าได้ไม่คุ้มเสีย  นอกจากนั้น ก็ยังมีความเห็นแย้งจากกลุ่มผู้นำทางสังคมหลากหลายองค์กร ที่รัฐบาลควรจะใช้เวลาในระหว่างปิดสมัยประชุมสภา ปรึกษาหารือกับองค์กรต่างๆ นำไปปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดควรจะทำประชามติ เปิดโอกาสให้ประชาชนเจ้าของประเทศเป็นผู้ตัดสินใจต่อโครงการที่มีความเสี่ยงต่ออนาคตของคนไทยอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ดังนั้น รัฐบาลต้องทบทวนการทำงาน ลำดับความสำคัญว่า อะไรคือปัญหาเร่งด่วน  ซึ่งกฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ถ้าเทียบกับเรื่องความเสียหายจากการขึ้นภาษีของทรัมป์ที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย โดยประเทศไทยต้องเร่งเจรจาแก้ไข และหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย โดยด่วนที่สุด