ข้อมูล ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ตรง รมต.! ชำแหละ 21 บ.เครือ ‘ซิน เคอ หยวน’

ข้อมูล ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ตรง รมต.! ชำแหละ 21 บ.เครือ ‘ซิน เคอ หยวน’

“พิชัย” รมว.พาณิชย์ แถลงปมร้อนตรวจสอบเครือข่าย “ทุนจีน” ใน “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10-ซิน เคอ หยวน” พบข้อมูลตรงกันกับที่ “กรุงเทพธุรกิจ” เคยนำเสนอไปแล้ว

KEY

POINTS

  • “พิชัย” รมว.พาณิชย์ แถลงปมร้อนตรวจสอบเครือข่าย “ทุนจีน” ใน “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10-ซิน เคอ หยวน”
  • พบข้อมูลตรงกันกับที่ “กรุงเทพธุรกิจ” เคยนำเสนอไปแล้ว ทั้งโมเดลธุรกิจ “กิจการร่วมค้า-เครือข่าย” กวาดงานรัฐ 27 สัญญาหมื่นล้านบาท
  • เปิดข้อมูลใหม่เครือข่ายบริษัท “ซิน เคอ หยวน” 21 แห่ง ตัวละครใหม่ 2 “คนไทย” 1 คนจีน ร่วมถือหุ้น

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการตรวจสอบเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (อาคาร สตง.) แห่งใหม่ วงเงิน 2.1 พันล้านบาท ที่ “พิชัย นริพทะพันธุ์รมว.พาณิชย์ ตั้งโต๊ะแถลงวันนี้ (3 เม.ย.) สรุปข้อเท็จจริงได้ว่า

1.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีเครือข่ายบริษัทอีก 13 แห่ง

บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด มีเครือข่ายธุรกิจอีกรวม 24 บริษัท รวมทั้ง 2 บริษัทมีเครือข่ายรวม 37 แห่ง

 

2. ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 มีบุคคล สัญชาติจีนถือหุ้นในเครือข่ายรวม 49%

ซินเคอหยวน” มีบุคคลสัญชาติจีนถือหุ้นในเครือข่ายรวม 80%

ส่อเข้าข่ายมูลฐานความผิดตามกฎหมายไทยหลายฉบับ หนึ่งในนั้น คือ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้นำส่งเอกสารรายละเอียดข้อมูลทางทะเบียนของทั้งสองบริษัทให้แก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อพิจารณา และขณะนี้ DSI ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว

 

3. มีการเปิดเผยว่าจะตรวจสอบ 14 บริษัทในเครือข่าย “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10” ว่ารับงานที่ใดบ้าง โดยข้อมูลล่าสุดพบว่ามี 26 โครงการที่เกี่ยวข้อง และอาจมีเพิ่มเติม ได้เสนอให้ดีเอสไอ กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง และกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและทรัพย์สิน โดยจะตรวจสอบเชิงลึกว่ามีการใช้คนไทยเป็นนอมินีอีกหรือไม่ และโยงใยไปถึงใคร ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งให้ดีเอสไอ ดำเนินการอย่างเร่งด่วน

ข้อเท็จจริงทั้ง 3 ข้อที่ “พิชัย” แถลงไปนั้น เกือบทั้งหมดตรงกันกับข้อเท็จจริงที่ กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอไปแล้ว โดยเฉพาะของ “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10” ที่ใช้ที่ตั้งเดียวกันกับ 9 บริษัท และมีเครือข่าย “คนไทย” 3 คนคือ โสภณ มีชัย มานัส ศรีอนันท์ และประจวบ ศิริเขตร ร่วมกับ “บิงลิน วู” สัญชาติจีน เป็นกรรมการ และถือหุ้นรวมกัน 14 บริษัท 

“ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10” ใช้โมเดลธุรกิจลักษณะ “กิจการร่วมค้า” ไปเข้าร่วมกับ “เอกชนทุนใหญ่” เพื่อเข้าประมูลงานรัฐ และคว้างานไปแล้วระหว่างปีงบประมาณ 2561-2568 อย่างน้อย 18 สัญญา และหากนับรวมเครือข่ายทั้งหมด จะกวาดงานรัฐไปอย่างน้อย 27 สัญญา รวมวงเงินไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท นอกจากนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ยังเปิดเผยสเปกเหล็กที่ใช้ก่อสร้าง รวมถึงงานโครงสร้างของตึก สตง.ดังกล่าวไปแล้วด้วย

อ่านข่าว:

‘ไชน่าเรลเวย์’ ยึดงานรัฐ ‘หมื่นล้าน’ คว้างาน กฟน.-กปน.-กทม.เพิ่ม

ผ่าสาแหรก ‘ซิน เคอ หยวน’ พบ ‘อดีตบิ๊กทหาร’ เคยถือหุ้น บ.ในเครือ?

โชว์สเปกเหล็กครบ! ชำแหละใส้ในงานโครงสร้าง ตึก สตง. 570 ล้าน

ข้อมูล ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ตรง รมต.! ชำแหละ 21 บ.เครือ ‘ซิน เคอ หยวน’ (ข้อมูลเดิมเมื่อ 2 เม.ย. 2568 โดยข้อมูลล่าสุด 3 เม.ย.พบว่ามี 18 สัญญา วงเงินหมื่นล้านบาท)

ส่วนกรณี “ซินเคอหยวน สตีล” กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่ามีบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อย 7 แห่ง โดยมี “คนจีน” ถือหุ้นใหญ่คือ เจี้ยนฉี เฉิน หรือ เฉิน เจี้ยนฉี (สัญชาติจีน) ถือหุ้นใหญ่ มี “คนลาว” ชื่อ “สมพัน ปันแก้ว” เป็นกรรมการ ได้แก่ 

  1. บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด วัตถุประสงค์ โรงงานผลิตเหล็ก
  2. บริษัท ซิน เคอ หยวน จำกัด การผลิตเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐานอื่นๆ ซึ่งมิได้จัด ประเภทไว้ในที่อื่น (Manufacture of other basic iron
  3. บริษัท ซิน เส้า หยวน จำกัด วัตถุประสงค์ การผลิตเหล็ก และเหล็กกล้าขั้นมูลฐานอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
  4. บริษัท เจิ้นหวา อินเตอร์เนชั่นแนล ทัวริซึ่ม และเทรดดิ้ง จำกัด วัตถุประสงค์ จำหน่ายสินค้าประเภทยาสูบซิการ์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  5. บริษัท ไทยอินเตอร์สตีล จำกัด (เสร็จชำระบัญชี)
  6. บริษัท เอเชีย สเตป (ไทยแลนด์) จำกัด วัตถุประสงค์ รับจ้างเย็บชุดชั้นใน
  7. บริษัท ลี่ เคอ หง จำกัด วัตถุประสงค์ การนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ (บริษัทแห่งนี้เคยมีบุคคลชื่อคล้าย “อดีตนายทหาร” ระดับยศ “พลเอก” เคยมีตำแหน่งระดับสูงใน “กองทัพไทย” เข้าไปถือหุ้นด้วย โดยชื่อในฐานะผู้ถือหุ้นนั้นใช้คำว่า “นาย” นำหน้าแทน “พลเอก”)

 

เปิดตัวละครใหม่ 2 "คนไทย" เข้าถือหุ้น-กรรมการ

กรุงเทพธุรกิจ ขยายผลสืบค้นพบรายละเอียด พบว่าใน “เครือข่าย ซิน เคอ หยวน” ข้างต้นมีอีกอย่างน้อย 21 บริษัท ที่ “คนไทย” ปรากฏชื่อเป็นกรรมการ หรือถือหุ้นหลัก ๆ อยู่ 2 คน ได้แก่ จิโรจน์ โรจน์รัตนวลี และ สันติ เกษมอมรกิจ โดยทั้ง 2 คนถือหุ้นในบริษัทที่มีเครือข่าย “คนจีน” ของ “ซินเคอหยวน” ร่วมถือหุ้นด้วย (ไม่นับเครือข่าย “ซิน เคอ หยวน” 7 บริษัทที่นำเสนอไปแล้วข้างต้น) ดังนี้

จิโรจน์ โรจน์รัตนวลี ถือหุ้น 7 บริษัท โดยข้อมูลใหม่ 5 บริษัท ได้แก่

1.บริษัท ไทยเซ้าท์อีส นิตติ้ง จำกัด วัตถุประสงค์ ผลิตและส่งออกเสื้อไหมพรมนำเข้าและส่งออกไหมพรมรวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับผ้าทุกชนิด (ถือ 40%)

2.บริษัท เค.เจ.อพาร์ทเม้นท์ จำกัด วัตถุประสงค์ ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ (ถือ 30.00%)

3.บริษัท ไทยสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่าและดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น ของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นเพื่อเป็นที่พักอาศัย (ถือ 20.00%)   

4.บริษัท ที เอส อี แอสเซท จำกัด วัตถุประสงค์ ค้าอสังหาริมทรัพย์ ค้าที่ดิน จัดสรร โดยการปลูกสร้างอาคารขายพร้อมที่ดินหรือเฉพาะ (ถือ 30.00%)

5.บริษัท แกรนเดอร์ การ์เมนท์ จำกัด วัตถุประสงค์ ผลิตและส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป (ถือ 24.00%)   

 

สันติ เกษมอมรกิจ ถือหุ้น 9 บริษัท โดยข้อมูลใหม่ 7 บริษัท ได้แก่

1.บริษัท ฟู่ซัน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วัตถุประสงค์ ผลิตและจำหน่ายหินขัด หินเจียร (ถือ 51.00%)  

2.บริษัท ไทยวารุณ จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการโรงแรม สถานพักตากอากาศ (ถือ 28.85%)   

3.บริษัท คามีย่าอุตสาหกรรม(ไทยแลนด์) จำกัด วัตถุประสงค์ ผลิตและจำหน่ายหินขัด หินเจียร (ถือ 90.00%)  

4.บริษัท บ้านปูไข่ดอง จำกัด วัตถุประสงค์ การบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม (ถือ 20.00%)   

5.บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด วัตถุประสงค์ การขายปลีกเชื้อเพลิงยานยนต์ในร้านค้าเฉพาะ สถานี ปั๊ม (ถือ 0.50%)

6.บริษัท หงฝู คูซีน จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการภัตตาคาร ร้านอาหาร ผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่ายจำหน่ายและกิจการค้าอาหารทุกชนิด (ถือ 40.00%)

7.บริษัท เฮง ไทย การช่าง จำกัด วัตถุประสงค์ บริการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (ถือ 30.00%)

นอกจากนี้ในบริษัท “ซินเคอหยวน สตีล” ยังพบว่า มีบริษัท ฟู่ซัน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือหุ้น 0.83% โดยบริษัทแห่งนี้มีวัตถุประสงค์ ผลิตและจำหน่ายหินขัด หินเจียร (มีสันติ เกษมอมรกิจ ซึ่งเป็นเครือข่าย “คนไทย” ที่ร่วมถือหุ้นในเครือ “ซินเคอหยวน” ถือหุ้นใหญ่สุด 51%)

ต่อมา “คนจีน” อีกอย่างน้อย 1 รายคือ หลินฟง เฉิน (ถือหุ้นในเครือข่าย “ซินเคอหยวน” เช่นกัน) เข้าไปถือหุ้นอีกอย่างน้อย 1 บริษัท คือบริษัท ซั่ง เคอ หยวน เมดิคอล อินสทรูเม้นส์ จำกัด วัตถุประสงค์ การผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ในทางการแพทย์ (ถือ 49.00%)

หากนับรวมข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว 7 บริษัท พบว่ามีข้อมูลใหม่ที่มีเครือข่าย “คนไทย-คนจีน” เข้าไปถือหุ้น-นั่งกรรมการบริษัทอีกอย่างน้อย 14 แห่ง รวมเบ็ดเสร็จมีอย่างน้อย 21 บริษัท ที่มีรายชื่อผู้ถือหุ้น-กรรมการโยงใยเกี่ยวพันกัน

อย่างไรก็ดีในทั้ง 21 บริษัท (ยกเว้นซิน เคอ หยวน และซินเคอหยวน สตีล ที่อยู่ระหว่างถูกกระทรวงอุตสาหกรรมสอบสวน) ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นบริษัทที่ถูกกระทรวงพาณิชย์ เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ ดังนั้นจึงยังถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการของ “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10” และ “ซิน เคอ หยวน” แต่อย่างใด