'สว.สำรอง' ยื่น กมธ.ปราบโกง สอบ 'เลขา กกต.' ทำหน้าที่มิชอบ

'สว.สำรอง' ยื่น กมธ.ปราบโกง สอบ 'เลขา กกต.' ทำหน้าที่มิชอบ

"กลุ่มสว.สำรอง" พึ่ง กมธ.ปราบโกง สภาฯ ขอให้ตรวจสอบการทำงานของ "เลขา กกต." หวั่นปมทุจริต-ฮั้วเลือก สว. ทำไม่ทันกำหนด หลังเหลือเวลา3เดือน

ที่รัฐสภา พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.กลุ่มสำรอง นำ สว.กลุ่มสำรอง ยื่นเรื่องต่อ นายฉลาด ขามช่วง  สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ให้ตรวจสอบนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  กรณีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่าตนในฐานะผู้สมัคร สว. ยืนยันว่ามีการกระทำโดยมิชอบและไม่ทุจริตในการเลือก สว. ที่ผ่านมา ซึ่งนายแสวง ฐานะที่เป็นผู้อำนวยการเลือกได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารว่าจะมีคนนำโพยที่ไม่ถูกต้อง เข้าไปแต่ไม่มีการป้องกันแก้ไข เป็นเหตุให้คนส่วนหนึ่งนำโพยที่ว่าเข้าไปใช้จนเกิดเหตุที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ได้ใช้สิทธิ์คัดค้านเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2567 และได้นำพยานหลักฐานเอกสารไปให้ กกต.มาอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่า 8 เดือนที่ผ่านมา กกต.ไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับคำตอบใด ๆ ได้รับคำตอบแค่ว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ 

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวด้วยว่า ในการตรวจสอบของ กกต. ตามกฎหมายยังมีเวลาเหลือ   3 เดือน แต่ยังไม่มีแนวทางการบริหารงานที่ชัดเจน จึงหวั่นเกรงว่าอาจทำให้เกิดความเสียหายในภาพรวมได้ ขอให้ กมธ.เป็นที่พึ่ง ให้ความจริงปรากฏขึ้น 

 

ทางด้านนายฉลาด  กล่าวว่า ได้รับเสียงร้องเรียนจากตัวแทนผู้สมัครสว. ในครั้งที่ผ่านมา ปัญหาที่เกิดขึ้นมีความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชนส่วนหนึ่งว่าทำไมการสรรหาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่อ้างว่าทำตามกฎหมายนั้นไม่เป็นไปตามความสุจริตและเที่ยงธรรม 

“แม้ กมธ.ไม่มีอำนาจในการลงโทษบุคคลใดแต่มีหน้าที่ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามข้อบังคับ เมื่อได้ความอย่างไรแล้ว ก็จะส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป หลังจากรับเรื่องวันนี้จะมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการกลั่นกรอง ว่าเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการหรือไม่ หากมีมติว่าเกี่ยวเนื่องกัน ก็จะจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อหาข้เท็จจริงต่อไป” นายฉลาดกล่าว

นายฉลาด ระบุว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการหาข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องด่วนของคณะกรรมาธิการคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีเอกสารส่วนหนึ่งที่รวบรวมไว้มากพอสมควรแล้วคาดว่าจะพิจารณาทันในช่วงเดือนพ.ค. นี้ และในสัปดาห์หน้ามีการประชุมเพื่อวางกรอบการทำงานอีกครั้ง.