'ภูมิธรรม' โชว์แผนปฏิรูปกองทัพ 'ลดกำลังพล' เออรี่ 589อัตรา

'ภูมิธรรม' โชว์แผนปฏิรูปกองทัพ 'ลดกำลังพล' เออรี่ 589อัตรา

'ภูมิธรรม' ผิดหวังฝ่ายค้านตัดแปะซักฟอก โชว์แผนปฏิรูปกองทัพ 'ลดกำลังพล' ​เออรี่ 589อัตรา 'เกณฑ์ทหาร' เท่าที่จำเป็น ลั่นใครไม่กล้าผมกล้า เร็วๆนี้รู้คำตอบเรือดำน้ำ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ วาระญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 ว่า  ตนนั่งฟัง2วัน ก็เห็นการเอาอภิปรายมีแต่การเอาข่าวหนังสือพิมพ์เอาคำให้สัมภาษณ์ มาผูกโยงรวมกันเป็นเรื่องราวมากมาย จึงไม่รู้จะตอบอย่างไรถ้าจะตอบก็คงต้องเอานสพ.มาเรียงตอบ เวลาที่เหลืออีก20นาทีคงตอบไม่ได้

ทั้งนี้จึงอยากให้การอภิปรายหยิบประเด็นใหม่ๆชี้ให้เห็นชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีมีเจตนาทำลายประเทศ หรือไม่มีความเหมาะสมบริหารประเทศ

ทั้งนี้จะขอชี้แจงบางประเด็น อาทิ เรื่องการปฏิรูปกองทัพเรารู้อยู่แล้วบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปกองทัพจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด รวมถึงตนและรมช.กลาโหมได้ตกลงกันว่ากองทัพต้องเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงให้ทันยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปและมีการออกสมุดปกขาวกำดนดทิศทางกองทัพจากปี69-ปี80 เพื่อให้การกำหนดทิศทางเป็นไปในแนวทางเดียวกัน 

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า ข้อเสนอยกเลิกเกณฑ์ทหารนั้นอย่าลืมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำมายาวนานถ้าอยู่ๆจะมาเลิกคิดง่ายๆอย่างนั้นไม่ได้ต้องมาคิดว่ากองทัพมีไว้ทำอะไร หากตกอยู่ในสภาวะสงครามต้องปกป้องประเทศชาติได้ ตนได้คุยกับเหล่าทัพได้รับคำตอบว่าให้ท่านคิดถึงจุดต่ำสุดของการมีกำลังพอที่จะรักษาประเทศถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่เหลือค่อยมาจัดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

เรื่องนี้พูดกันตามความเป็นจริงไม่ใช่จินตนาการ ทุกอย่างไม่ได้จบในวันเดียว กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียวเหมือนกันการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในกองทัพต้องใช้เวลา

"ผมไปคุยกับผู้นำเหล่าทัพได้บอกไปว่าผมไม่คาดหวังว่าผมเข้ามาแล้วทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่มีหลายคนเรียกร้องแต่อย่างน้อยสำนึกที่เห็นว่ามมันมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้น และถ้าคิดแล้วต้องมีจุดเริ่มต้นเมื่อไหน เมื่อมีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่ มันก็ต้องมีไทม์ไลน์ที่จะจบ ไม่มีหรอกเข้ามาแล้วจะยกเลิกเกณฑ์ทหารเลย100% หรือต้องลดนายพลเท่าไหร่" 
 

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า เรื่องลดกำลังพลด้วยการ​เออรี่รีไทร์​ในุยคที่ตนเป็นรัฐมนตรี จนถึงขณะนี้มีการลดไป589อัตรา ซึ่งเป็นอัตราทดแทนพอถึงเดือนเม.ย.นี้ก็จะหมดแล้ว    

ขณะที่เรื่องเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่ตกค้างมาจากรัฐบาลที่ผ่านมารัฐบาลนี้เข้ามาแบกรับและไม่เคยปฏิเสธการแก้ปัญหาทั้งนี้ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีเพื่อขอซื้อเรือดำน้ำที่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ แต่ได้มีการประสานผ่านทูต และตัวแทนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำหนังสือถึงปากีสถาน อีกไม่นานจากนี้คงต้องรอคำตอบ

ไม่มีใครกล้าตัดสินใจแต่ตนจะตัดสินใจ ขณะที่เรื่องไอโอรัฐบาลไม่มีนโยบายแบบที่ฝ่ายค้านอภิปราย แต่จะไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป