‘แพทองธาร’ ยืมจมูกพรรคร่วมฯ เสิร์ฟข้อสอบซักฟอก รับศึกแทน‘พ่อ’

‘แพทองธาร’ ยืมจมูกพรรคร่วมฯ เสิร์ฟข้อสอบซักฟอก รับศึกแทน‘พ่อ’

บทหนักของแพทองธาร ในการรับมือศึกซักฟอกครั้งนี้ อาจจะเหนื่อยกว่าที่คิด เมื่อต้องเป็น “หนังหน้าไฟ” รับคมหอกคมดาบแทนทักษิณ พรรคร่วมฯ ผ่อนแรงลงไปเยอะ พรรคส้มพุ่งเป้าใหญ่ครอบครัวเดียว ซึ่งฝ่ายอนุรักษนิยมเป็นกองหนุน 

KEY

POINTS

  • ศึกอภิปรายฯ ของฝ่ายค้าน ที่จองกฐินนายกฯ คนเดียว สถานการณ์เลยบังคับให้ต้องอาศัยพรรคร่วมฯ ฝ่าไปให้ได้
  • ก่อนหน้านี้ นายกฯ สั่งทุกกระทรวงเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงในสภา พร้อมกับนัดพรรคร่วมฯ ดินเนอร์กระชับความมั่นใจ21มี.ค.นี้ 
  • เกมถูกเชือดเฉือนครั้งแรกของลูกสาวคนเล็กบ้านชินวัตรครั้งนี้ กลายเป็นหนังหน้าไฟรับทุกแรงปะทะแทนคนเป็นพ่อไปเต็มๆ 

เข้าใกล้วันอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด 24 มี.ค.ไปทุกขณะ หลังยืดเยื้อเรื่องเนื้อหาในญัตติขอเปิดซักฟอกของฝ่ายค้าน ซึ่งในที่สุดก็ยอมถอดชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร” โดยใช้คำว่า“บุคคลในครอบครัว”แทน

ถึงอย่างนั้นก็ตาม อุณหภูมิและความเข้มข้นของเนื้อหาการอภิปรายฯ ทำท่าว่าจะไม่ได้ลดน้อยลงไป เมื่อเทียบกับการกาชื่อทักษิณทิ้ง 

มองอีกมุม กลับยิ่งจะสร้างความหวาดหวั่นให้แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่มขึ้น เพราะทุกอย่างจะประเดประดังไปที่ลูกสาวทักษิณคนเดียว

การยอมถอยเพื่อไปต่อของฝ่ายค้าน ไม่เอ่ยถึงทักษิณ เปลี่ยนสรรพนามเป็นคนในครอบครัว ก็อาจจะยิ่งเข้าทางฝ่ายค้านที่ต้องการขยายแผลคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ที่มีการกล่าวหา เน้นทุกดอก

พฤติกรรมส่อเข้าข่ายการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิหน้าที่โดยมิชอบ หรืออาจเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจชุดนี้ถูกโจมตี เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ในการใช้อำนาจเอื้อใครคนใดคนหนึ่ง หรือถูกครอบงำ สั่งการจากใครบางคนในครอบครัวนายกฯ หรือไม่

คิวนัดหมายแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 21 มี.ค.นี้ จึงถูกจับตาถึงความไม่มั่นใจของนายกฯ เนื่องจากต้องอาศัยจมูกพรรคร่วมฯ หายใจ ในการประสานข้อมูลจากแต่ละกระทรวง คอยเสิร์ฟคอยป้อนให้ผู้นำเอาไปเก็งข้อสอบ ส่วนพรรคอื่นจะเต็มร้อยเหมือนคนในเพื่อไทยแค่ไหน วันอภิปรายคงจะได้เห็น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การซักฟอกแต่ละครั้ง ล้วนเป็นจังหวะสุ่มเสี่ยง เต็มไปด้วยกับดัก และกลเกมต่างๆ คอการเมืองจำนวนไม่น้อย น่าจะกำลังตั้งตารอว่าฝ่ายค้านจะเปิดหลักฐานไม้เด็ดจัดการพ่อลูกชินวัตรอย่างไร

เรื่องชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่คนในฝ่ายค้านมีข้อมูลในมือ รวมไปถึงคนนอกสภาฯ ว่ามีคนป่วยทิพย์ หรือกรณีที่แกนนำพรรคร่วมฯ เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อจัดแจงสถานการณ์บ้านเมือง หลังเศรษฐา ทวีสิน หลุดนายกฯ ครั้งนั้น แกนนำพลังประชารัฐก็ร่วมวงด้วย ก่อนจะถูกถีบส่งไปเป็นฝ่ายค้านในที่สุด 

ข้อมูลเหล่านี้ซึ่งมีประจักษ์พยานเป็นตัวละครทางการเมือง จะย้อนกลับมาทิ่มแทงผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาลแค่ไหน จึงเป็นการบ้านของลูกพ่อเลี้ยง หากมีภาพและคลิปหลักฐานเด็ดที่คิดไม่ถึง หลุดออกมา จะรับมืออย่างไร

ขณะที่ในบรรดาพรรคร่วมฯ หลายพรรควันนี้ ต่างก็มีวาระที่ต้องจัดการสะสางในส่วนของตัวเอง 

บางพรรคกำลังถูกโยงคดีฮั้ว สว. มีแกนนำในพรรคถูกถูกระบุว่า เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง มิหนำซ้ำ ยังเผชิญปัญหาภายในที่ปิดเงียบอย่างอยู่หมัด แต่ก็ยังเล็ดลอดออกมาให้คนข้างนอกรู้เรื่อง ลูกพรรคหลายคนที่ไม่แฮปปี้กับเจ้าของพรรคที่มักใช้วิธีกำราบด้วยกำปั้นเหล็กอย่างเด็ดขาด รอบหน้าสส.ตั้งท่าย้ายหนีหลายคน และไหนจะปัญหาเรื่องความไว้วางใจจากทักษิณที่แทบเป็นศูนย์ ดุลอำนาจจึงอาจไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน

หรือพรรคร่วมฯ อีกพรรค ที่เสียงแตกกันเอง บางกลุ่มอยากร่วมรัฐบาลจนตัวสั่น บางคนยังยึดมั่นต่อต้านทักษิณ 

หรืออีกพรรค ที่มีปัญหาระหว่างผู้บริหารพรรคกับนายทุน ที่พยายามแบ่งแยก สส.ไปร่วมขบวนกับพรรคใหม่

ขณะที่อีกพรรคร่วมฯ กำลังเร่งตั้งสาขาพรรคทั่วประเทศ เพื่อรองรับการส่งผู้สมัคร สส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตอนนี้กลายเป็นพรรคจอมดูดรายใหม่ โดยมีภารกิจคู่ขนานของแกนนำคนสำคัญ คือการตัดกำลังค่ายน้ำเงิน ผ่านปฏิบัติการพิเศษต่างๆ 

หรืออีกพรรค ไซส์กระทัดรัด ที่ได้ชื่อว่าท้องถิ่นนิยม มีกระแสข่าวมาตลอดว่า ลูกพรรคอยากเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีโควตาพรรคเพียงหนึ่งเดียว

จะเห็นได้ว่า บทหนักของแพทองธาร ในการรับมือศึกซักฟอกครั้งนี้ อาจจะเหนื่อยกว่าที่คิดพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่บนตำแหน่ง ที่เป็น“หนังหน้าไฟ” จำเป็นต้องรับคมหอกคมดาบแทนทักษิณ 

งานนี้พรรคร่วมฯ เลยผ่อนแรงลงไปเยอะ เพราะพรรคส้มพุ่งเป้าใหญ่ไปที่ครอบครัวเดียว ซึ่งมีฝ่ายอนุรักษนิยมเป็นกองหนุน