ซักฟอกส่อยืด ถก3ฝ่ายไร้ข้อยุติ รัฐบาลตีกลับกรอบ 30ชั่วโมง

ซักฟอกส่อยืด ถก3ฝ่ายไร้ข้อยุติ รัฐบาลตีกลับกรอบฝ่ายค้านขอ 30ชั่วโมง นัดคุยอีกรอบ19มี.ค. 'ณัฐพงษ์' ย้ำชัด ตัดชื่อ "ทักษิณ" แน่นอนหากรัฐบาลยอมเพิ่มวัน
ที่รัฐสภาายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือวิป3ฝ่ายเกี่ยวกับการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่าที่ประชุมยังหาข้อสรุปในวันนี้ไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตามทั้งฝั่งรัฐบาลและพวกเราก็ยังยืนยันว่าจะกลับไปคุยเจรจาภายในในแต่ละฝ่ายของตัวเองก่อนที่ในวันพุธที่19มี.ค. ก็จะมาหารือเรื่องนี้กันอีกครั้ง
ทั้งนี้ประเด็นที่ยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้คือกรอบระยะเวลาซึ่งจากที่ตนได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ยืนยันที่กรอบเวลา 30 ชั่วโมงแต่เมื่อมาเจอเจรจากับทางวิปร่วมประกอบด้วยนายวิสุทธิ์ ชัยณรุณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานวิปรัฐบาลและตัวแทนรัฐบาล คือนางมพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ก็ยังพบว่ากรอบระยะเวลายังตกลงกันไม่ได้
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า ในเรื่องของตัวเลขยังไม่อยากให้ข่าวเดี๋ยวจะกระทบกับการเจรจาที่เป็นอยู่แต่เบื้องต้นยืนยันได้ว่าเรา ยึดตัวเลข 30 ชั่วโมงตามที่มีการระบุไปก่อนหน้านี้ ส่วนคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะใช้เวลาเท่าไหร่พวกเรายินดีก่อนที่จะคำนวณว่าจะอภิปรายกี่วัน
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า ในเรื่องของการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเบื้องต้นมีความชัดเจนว่าถึงอย่างไรจะต้องตัดชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่จะมีข้อความอย่างไรคงต้องรอเนื่องจากทุกทุกรายละเอียดจะปรับเป็นคำไหนหรือระยะเวลาจะได้กรอบเท่าไหร่ล้วนส่งผลกัน
เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเจรจาของกรอบระยะเวลาทางรัฐบาลก็ยังไม่ได้ให้ข้อสรุปกับพวกเราจะปรับเป็นคำไหนก็ขอให้รอดูข้อสรุปอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ผู้นำฝ่ายค้าน ยังเชื่อมั่นว่า แม้การหารือในครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อยุติแต่ยังเชื่อว่า จะสามารถเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ เพราะขณะนี้ตัวญัตติสมบูรณ์เสร็จแล้วทุกอย่างรอแค่การปรับคำก็พร้อมที่จะบรรจุได้เลยและเป็นอำนาจของประธานสภาในการบรรจุวาระอยู่แล้ว
ขณะนี้ขณะนี้ติดอยู่ล็อกเดียวคือเรื่องกรอบระยะเวลาในการอภิปรายซึ่งอันที่จริงเราปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย. เชื่อว่าอาจจะยังมีกรอบที่ขยับไปได้อีกหนึ่งสัปดาห์ในการพูดคุยเจรจาฉะนั้นที่จะอภิปรายมีความเป็นไปได้ว่าหากสิ้นเดือนมี.ค.ยังไม่ได้ข้อสรุปก็อาจจะขยับไปเป็นต้นเดือนเม.ย.
ส่วนที่รัฐบาลมีการอ้างเหตุผลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้มีการอภิปรายนายกเพียงคนเดียวไม่ควรที่จะใช้เวลานานนั้น เรื่องนี้ฝ่ายค้านได้ไปค้นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในอดีตที่ผ่านมามีทั้งหลายวันหรือไม่กี่วันก็มี
เพราะฉะนั้นถ้าดูตามมาตรฐานของสภาในอดีตเห็นว่ามีความหลากหลายแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เรายืนยันวันนี้คือเรื่องของเนื้อหาถ้าดูตามกรอบยุติที่พักฝ่ายค้านเตรียมกันมานานหลายเดือน
ยืนยันว่าที่เราเสนอ 30 ชั่วโมงไม่ได้เยอะเกินไปก่อนหน้านี้เสนอ5วันด้วยซ้ำและมีการโต้กันผ่านหน้าข่าวว่ารัฐบาลขอ1วันซึ่งตนซึ่งตนไม่อยากให้โต้กันแบบนั้นแต่อยากให้ยึดในเรื่องของเนื้อหาเป็นสำคัญ
"เรื่องการอภิปรายในสมัยประชุมนี้ ผมยืนยัน พรรคประชาชนรวมถึงฝ่ายค้านเราอยากมุ่งไปสู่จุดนั้นแต่ตอนนี้มันเดินหน้าต่อไม่ได้เนื่องจากทางรัฐบาลเองในเรื่องเวลายังเจรจากับเราไม่ลงตัวเพราะฉะนั้นขออนุญาต สื่อสารตรงๆถ้าจะเดินหน้าไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ในสมัยประชุมนี้ก็อาจจะเกิดจากการที่รัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้านอย่างเพียงพอในการเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ"