'ภูมิธรรม'ชี้ตั้งคนสุ่มเสี่ยงร่วม ครม. ต้องคำนึง วิญญูชนควรรู้

'ภูมิธรรม'ชี้ตั้งคนสุ่มเสี่ยงร่วม ครม. ต้องคำนึง วิญญูชนควรรู้

"ภูมิธรรม"ชี้ ตั้งคนสุ่มเสี่ยงร่วม ครม. ต้องรอบคอบมากขึ้น หลังศาล รธน.ไม่รับวินิจฉัยปมซื่อสัตย์สุจริต-มาตรฐานจริยธรรม

12 มี.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติของรัฐมนตรีในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและมาตรฐานจริยธรรม ว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการเข้มงวดและมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น เกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีหรือข้าราชการทางการเมือง ให้เป็นไปตามที่วิญญูชนเห็นว่าควรจะเป็นอย่างไร

เมื่อถูกถามว่า หากจะแต่งตั้งบุคคลใด และสังคมมีการตั้งคำถาม รัฐบาลจะต้องพิจารณาอย่างเข้มข้นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สังคมตั้งคำถามก็ต้องพิจารณาว่าเป็นเสียงจากสังคมส่วนไหน และถือเป็นเสียงทักท้วงที่รัฐบาลต้องกลับไปตรวจสอบให้รอบคอบ

เมื่อถูกถามว่าการแต่งตั้งรัฐมนตรีต้องใช้มาตรฐานเข้มข้นเช่นเดียวกับการตั้ง ครม.แพทองธาร 1 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการหารือกัน และถือเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีในการคัดเลือก

แต่หากถามความเห็นส่วนตัว ก็เห็นแบบนั้นว่าเมื่อศาลยังไม่พิจารณา เราก็ต้องรอบคอบมากขึ้น ส่วนจะมีมาตรการหรือการดำเนินการในระดับใด ก็คงเป็นสิ่งที่นายกฯ เรียกหารือหรือใช้ดุลยพินิจของท่านอย่างไรก็ได้ ซึ่งตนไม่สามารถตอบแทนท่านได้

เมื่อถูกถามว่า บุคคลที่มีคุณสมบัติสุ่มเสี่ยงจะไม่กล้าตั้งใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอบคอบมากขึ้น, จะแค่ไหนต้องดูความเป็นจริง เพราะเรายังไม่รู้ว่าตำแหน่งอะไร หรือเป็นใคร โดนอะไรแค่ไหน ยังไง ซึ่งเราต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายชัดเจนเข้มงวดและคำนึงถึงเรื่องวิญญูชน

เพราะที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติโดยคำนึงถึงวิญญูชนในการตัดสินใจ เราต้องเข้มงวดเรื่องนี้มากขึ้น และยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะการที่จะบอกว่าวิญญูชนพึงกระทำมันยาก คงเป็นเรื่องที่ต้องไปขบคิดก่อน ซึ่งยังอีกไกล

พร้อมย้ำว่า การยื่นศาลตีความเรื่องนี้ไม่เกี่ยวเรื่องการปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้ เพราะนายกฯ ก็ย้ำไปแล้ว

เมื่อถูกถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรี อาจเป็นสัญญาณล่วงหน้ากรณีที่รัฐสภาจะประชุมในวันที่ 17 มี.ค.นี้ เพื่อเสนอญัตติสอบถามศาลรัฐธรรมนูญว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งสองเรื่องมีความแตกต่างกัน เพราะการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติรัฐมนตรียังไม่มีเหตุ และไม่ได้หมายความว่าทุกเรื่องจะส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่ได้ 
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญเอง ตนไม่สามารถตอบแทนได้