สว.สำรอง ยื่น ปธ.กกต.สั่งสอบ 'แสวง' ปมละเลยป้องทุจริตเลือก สว.

สว.สำรอง ยื่น ปธ.กกต.สั่งสอบ 'แสวง' ปมละเลยป้องทุจริตเลือก สว.

สว.สำรอง ยื่นประธาน กกต.ตรวจสอบพฤติการณ์ 'แสวง บุญมี' กล่าวหาละเลยป้องทุจริตเลือก สว. ขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เลขา กกต.ชั่วคราว จนกว่าได้ข้อสรุป

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม "สว.สำรอง" นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือต่อประธาน กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กรณีที่มีผู้ตรวจการเลือกตั้งร้องเรียนว่า ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ

โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีผู้ตรวจการเลือกตั้งได้ยื่นหนังสือต่อประธาน กกต.เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 ว่าได้รายงานข้อมูลเบาะแสต่อหน้านายแสวง ว่า จะมีผู้สมัคร สว. ในรอบระดับประเทศที่เป็นกลุ่มจัดตั้งนำสมุด สว.3 ที่มีการจดหมายเลขผู้สมัครลงคะแนนนำเข้าไปในคูหาเลือกลงคะแนนเพื่อเลือกตามหมายเลขที่จัดตั้งกันไว้โดยจะมีเป็นจำนวนมาก โดยได้แจ้งแก่นายแสวง ในฐานะผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ให้ทำการป้องกันหรือยับยั้งมิให้มีการนำสมุด สว.3 ตามที่กล่าวถึงเข้าไปในรอบการเลือกไขว้ เพื่อจะทำให้การเลือกครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่นายแสวง ก็บอกว่า "ถึงแม้จะรู้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เขาก็คิดวางแผนทำกันมาแบบนี้แหละ ปล่อยให้เขานำเอา สว. 3 เข้าไปในคูหาเลือกรอบไขว้ได้"

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ดังกล่าวทราบว่า กกต.ได้มีมติให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่สำนักงาน กกต. โดยนายแสวง ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายแสวง เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และผู้ตรวจการเลือกตั้งที่เป็นผู้รายงานเหตุเห็นว่าไม่สมควรผู้ใต้บังคับบัญชา ตรวจสอบผู้บังคับบัญชาจึงได้ขอเตรียมตัวกรรมการโดยเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนเป็นบุคคลภายนอก ไม่ทราบว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการตามที่ร้องขอใดๆ

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า  เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นการกระทำที่ละเลยหลีกเลี่ยงต่อหน้าที่รับผิดชอบของนายแสวง อย่างร้ายแรงที่ทราบเหตุจะมีการทุจริตนำโพยจัดตั้งเข้าไปใช้ในการเลือกสว.แต่ไม่ได้ใช้ความพยายามในการป้องกันแก้ไข พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่มัวหมองอย่างยิ่ง จึงขอให้ประธาน กกต.ได้ให้คำตอบใน 3 ประเด็นดังนี้

1. การตรวจสอบเรื่องที่มีผู้ตรวจการเลือกตั้งรายงานพฤติการณ์ของนายแสวง เจตนาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบที่ไม่พยายามรักษาไว้ซึ่งความสุจริต และเที่ยงธรรมในการเลือก สว. ที่ผ่านมาโดยขอทราบว่าขณะนี้มีผลการดำเนินงานอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว

2.การประเมินผลการปฏิบัติงานของนายแสวง ได้รับการพิจารณาเพื่อให้ปฏิบัติงานต่อไปในรอบปีนี้ผลเป็นเช่นไรมีคะแนนปรากฏในลักษณะใด 

3.เพื่อให้การสืบสวนไต่สวนคำร้องเรียนและคำร้องคัดค้านการเลือกสว.ที่อ้างว่ามีการใช้โพยฮั้ว จนทำให้ไม่เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและจะสร้างความเชื่อถือเชื่อมั่น ที่จะรักษาไว้ซึ่งความเที่ยงธรรม

นอกจากนี้ ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง เป็นการชั่วคราวจนกว่าการสืบสวนไต่สวนในเรื่องร้องเรียนการร้องคัดค้านต่างๆ เกี่ยวกับการเลือก สว. จะแล้วเสร็จ โดยในระหว่างนี้ให้มีการมอบหมายบุคคลอื่นมาปฏิบัติงานแทน

  • เตือน สว.อย่าร้อนตัว ยันดีเอสไอทำคดีฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นไปตามระเบียบ

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวถึงกรณีมี สว.กลุ่มหนึ่งไปร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ว่า เรื่องนี้ตนไม่อยากวิจารณ์มาก เพราะคนเหล่านี้คือสว.ที่มีศักดิ์และสิทธิ์เป็นสมาชิกวุฒิสภาเต็ม อย่างไรก็ตามตนอยากให้ข้อสังเกตว่าการที่ท่านเหล่านี้ไปร้องต่อป.ป.ช.นั้นไปในฐานะอะไร ถ้าบอกว่าไปในฐานะที่เป็นสว. ไปร้องให้มีการตรวจสอบอ้างว่า กรมสอบสวนพิเศษทำอย่างนั้นอย่างนี้ ร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่ามีการกระทำผิดเช่นนั้นเช่นนี้ ตนมองว่าเรื่องนี้จะชอบด้วยจริยธรรมหรือไม่ เพราะว่าท่านเป็นสว.ฐานะ VIP ของท่าน ท่านสามารถตั้งกรรมาธิการต่างๆได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหน่วยงานในซีกบริหาร ส่วนสว.เป็นซีกนิติบัญญัติ การที่มาเช่นนี้ เป็นการใช้สถานะของสว. ไปก้าวก่ายหรือไม่ต้องไปดูในจริยธรรม ซึ่งมีอยู่ 10 ข้อ  

“ส่วนกรณีที่สว. เหล่านี้กล่าวหาว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะไปแจ้งข้อหาอะไรนั้นจริงๆ ผมคิดว่าการที่เขาได้รับอนุมัติให้ดำเนินคดีพิเศษ ก็เป็นเพียงการได้รับอนุมัติให้ดำเนินคดีพิเศษ เท่านั้นเองเพิ่งจะเข้าเรื่องยังไม่ได้ลงรายละเอียดไปเลยว่าจะไปกล่าวหาใคร ใครจะถูกกล่าวหาบ้าง ยังไม่ได้พูดถึงรายชื่อสว.อะไรสักคน ดังนั้น การที่ท่านไปเดือดเนื้อร้อนตัว ก็ไม่ทราบว่า จะเกี่ยวข้องอะไรหรือไม่ในประเด็นนี้” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว 

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนขอฝากไปยังป.ป.ช.ด้วย รายการที่ป.ป.ช.จะรับคำร้องก็ต้องดูว่า ผู้ร้องนั้นมีสิทธิ์ร้องเรียนหรือไปร้องเรียนในฐานะอะไร เป็นผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจน ดังนั้นทางป.ป.ช.ก็ต้องพิจารณา ก่อนที่จะประทับไต่สวน หรือประทับคำร้อง และก็ต้องดูมูลฟ้องด้วยเพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษรับเรื่องตามกรอบ มีการประชุมตามระเบียบแบบแผน จะไปบอกว่าเขาทำไม่ถูกต้อง ก็ขอให้ทางป.ป.ช.กลั่นกรองโดยรอบคอบ ในการที่จะรับคำร้อง นี่คือข้อสังเกตของเราในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งดูด้วยความห่วงใย