'วันนอร์' ยืนกราน ฝ่ายค้านตัดชื่อ'ทักษิณ' ก่อน17มี.ค.'ไม่แก้' อดซักฟอก

ทีมโฆษก-เลขาธิการสภาฯ ขีดเส้นฝ่ายค้าน ตัดชื่อ'ทักษิณ' พ้นญัตติซักฟอกก่อน17มี.ค. เตือนดึงเช็งอดอภิปราย พร้อมยกดำริ'วันนอร์' ยืนกราน 'ถ้าไม่แก้ ก็ไม่บรรจุ'
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ และว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าวกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นคำโต้แย้ง คัดค้านการถอดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรรี ออกจากญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยเลขาธิการสภาฯ กล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า ญัตติที่พาดพิงถึงบุคคลภายนอกนั้น ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และรัฐธรรมนูญ จึงมีดุลยพินิจว่า ฝ่ายค้านจะต้องแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตัดชื่อบุคคลภายนอกออก ซึ่งยึดตามบรรทัดฐานในอดีต เพราะได้มอบหมายให้สำนักการประชุมตรวจสอบแล้วว่า ในอดีตไม่มีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กล่าวถึงชื่อบุคคลภายนอก มีแต่ใช้คำว่าบุคคลในครอบครัว, อดีตสมาชิก ไม่มีการระบุชื่อโดยตรงในญัตติ จึงถือเป็นบรรทัดฐาน
อีกทั้ง ญัตติที่มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกเคยมีเมื่อปี 2529 โดยมีการกล่าวถึงบริษัทเอกชนหนึ่ง แต่ในยุคนั้นมีเอกสิทธิ์ คุ้มครองแม้พาดพิงบุคคลภายนอกก็ไม่สามารถฟ้องร้องได้ แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หากพาดพิงบุคคลภายนอกให้เสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้
ส่วนที่มีการระบุว่า เมื่อมีการอภิปรายแล้ว บุคคลภายนอกสามารถมายื่นคำชี้แจงได้นั้น เลขาธิการสภาฯกล่าวว่า ต้องแยกส่วนต่างหาก เพราะเป็นส่วนของการอภิปราย แต่กรณีนี้เป็นการระบุชื่อในญัตติ เมื่อญัตติเผยแพร่ มีชื่อบุคคลภายนอกแล้ว บุคคลที่มีชื่อไม่สามารถที่จะชี้แจงในลักษณะถ้าไม่ถูกอภิปรายได้ จึงถือเป็นกรณีที่แตกต่างกัน
ดังนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ได้ให้บรรจุระเบียบวาระ เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย แม้ สส.ผู้อภิปราย จะต้องรับผิดชอบเนื้อหาการอภิปรายก็ตาม โดยให้ดำริมาว่า "ถ้าไม่แก้ ก็ไม่บรรจุ"
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวว่า ในนามสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้นำฝ่ายค้านฯ อย่างเป็นทางการอีกครั้งว่า ให้แก้ไขญัตติดังกล่าว ซึ่งหากแก้ไขและยื่นกลับมาเลยทันที จะทันการอภิปรายในวันที่ 24 มี.ค.นี้ แต่หากยื่นมาหลังวันที่ 17 มี.ค.จะไม่ทันการอภิปรายในสมัยประชุมนี้ เพราะจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย.นี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่ฝ่ายค้านมีการหยิบยกกรณีที่ตนเอง ก็เคยเสนอญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการศึกษา โดยมีการระบุชื่อบริษัทเอกชนลงในญัตติชัดเจนว่า เนื่องจาก ญัตติดังกล่าว เป็นญัตติการตั้งกรรมาธิการซึ่งจะมีการแต่งตั้งบุคคลนอกเข้ามาร่วมเป็นกรรมาธิการ และเชิญบุคคลภายนอกเข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการได้
รวมถึงคนนอกยังมีสิทธิชี้แจงต่อสภาในการเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ และเป็นการอภิปราย ระหว่างฝ่ายค้าน และรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก แต่สามารถอภิปรายเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกได้ หากไม่ผิดข้อบังคับฯ
แต่หากผิดข้อบังคับก็ต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป และการระบุชื่อคนนอกไปในญัตติ ซึ่งผิดกติกา ก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะผิดข้อบังคับ และหากเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็อาจจะถูกฟ้องร้องได้
ย้ำญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อมีการโต้แย้ง ก็จะต้องพิจารณาข้อโต้แย้งนั้นว่า ข้อใดที่สามารถทำได้ และข้อใดจะต้องแก้ไข
ถามย้ำว่า จะทันกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำหนดเบื้องต้น 24 มี.ค.นี้ หรือไม่นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ทันแน่นอนหากได้รับความร่วมมือทุกฝ่าย เพื่อให้ญัตติเดินหน้าต่อไปได้ เพราะวันนี้เพิ่งจะ 11 มี.ค. และตนเองก็ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น นอกจาก เพื่อให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามกติกา







