วิปรัฐบาล ยื่นคำขาดฝ่ายค้าน ลบชื่อ'ทักษิณ' ขู่ ตะแบงอดซักฟอก

วิปรัฐบาล ยื่นคำขาดฝ่ายค้าน ลบชื่อ'ทักษิณ' ขู่ ตะแบงอดซักฟอก

ประธานวิปรัฐบาล ยื่นคำขาดฝ่ายค้าน ต้องลบชื่อ'ทักษิณ' ออกจากญัตติซักฟอก เตือนหากยังตะแบง อาจไม่ทันสมัยประชุม

ที่รัฐสภานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวภายหลังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือให้ฝ่ายค้านแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และลบชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากญัตติว่า ฝ่านค้าน จะต้องแก้ไขญัตติ ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้วินิจฉัยไว้ หากไม่แก้ไข ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่สามารถบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้ และตนก็รอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระ เพื่อกำหนดกรอบวัน-เวลาร่วมกัน แต่หากฝ่ายไม่แก้ไข ก็ไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยใด ๆ

ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ใช่จากรัฐบาล แต่เป็นระหว่างฝ่ายค้าน และประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องไปเจรจากันเอง และทราบว่า ฝ่ายค้านจะไม่แก้ไข ซึ่งหากฝ่ายค้านไม่แก้ไข ก็จะไม่ได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ตนก็ไม่ได้เดือดร้อน และไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ๆ ซึ่งฝ่ายค้าน จะต้องไปเจรจากับประธานสภาผู้แทนราษฎรเอง

ในครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่ฝ่ายค้านต้องการอภิปรายบุคคลนอก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่ควรสร้างประวัติศาสตร์ผิด ๆ ซึ่งครั้งหนึ่ง สมัยที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ สมัยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในปี 2545 นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ทำหนังสือทั้งท้วงญัตติเช่นกัน ซึ่งแม้นายชวน ไม่เห็นด้วยแต่ก็แก้ไข เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเป็นเรื่องฝ่ายค้าน ซึ่งหากไม่แก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องของ สส.พรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเอกสารที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ สมัยเป็น สส.พรรคประชาชาติ เคยเสนอขอสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ตรวจสอบ การดำเนินการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยมีการอ้างชื่อบริษัทเอกชนภายในญัตติด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ มองว่า ญัตติในกรรมาธิการ และญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นคนละเรื่องกัน ไม่นำมาปะปนกัน และเชื่อว่า ฝ่ายกฎหมายของสภา ได้พิจารณาแล้วอย่างรอบคอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ออกหนังสือให้ฝ่ายค้านแก้ไข 

ยืนยันว่าการตีกลับญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่การเตะถ่วงฝ่ายค้านไม่ให้มีการอภิปราย เพราะไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องฝ่ายค้าน

"การที่ฝ่ายค้านยังคงพยายามคงชื่อนายทักษิณไว้ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ฝ่ายค้านอยากจะอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงหรือไม่ หรืออยากให้เรื่องค้างคา เพราะหากไม่แก้ไขก็ไม่สามารถอภิปรายได้ ซึ่งฝ่ายค้านรู้อยู่แล้ว และรัฐบาลไม่ได้มีการแทรกแซงใด ๆ โดยแนะนำให้ฝ่ายค้าน ดำเนินการตามวินิจฉัยของประธานสภาผู้แทนราษฎร" 

ส่วนที่มีการมองเป็นความพยายามปกป้องนายทักษิณนั้น นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องของการปกป้อง แต่เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามระเบียบ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้ฝ่ายค้านดำเนินการให้ถูกต้อง และไม่ใช่เรื่องที่จะไปพูดนอกสภา และพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เคยล็อบบี้ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการใด ๆ แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ดำเนินการเอง ถ้าฝ่ายค้านไม่พอใจก็สามารถฟ้องร้องประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยใด ๆ

อย่างไรก็ดีหากสัปดาห์นี้ฝ่ายค้านยังไม่แก้ไขญัตติ การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทันต่อกรอบสมัยการประชุมสามัญ ที่จะจบลงในวันที่ 10 เม.ย.นี้หรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ มองว่า อาจจะหวุดหวิด หรืออาจไม่ทันก็ได้ ซึ่งจะได้อภิปราย และจะทันหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่ก็ถือเป็นเรื่องของฝ่ายค้านล้วน ๆ ที่จะต้องไปแก้ไขญัตติ