เกมเดิมพัน ล้ม-เลื่อน ซักฟอก ขั้วรัฐบาลเสียงแข็งถอนชื่อ‘ทักษิณ’

เกมเดิมพัน'ล้ม-เลื่อน'ซักฟอก ‘ขั้วรัฐบาล’เสียงแข็ง ถอนชื่อ‘ทักษิณ’พ้นญัตติ วัดใจ 3 ทางฝ่ายค้าน ยอมถอย-ไม่แก้-ยื่นใหม่เพิ่มรมต.
KEY
POINTS
- ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ของฝ่ายค้าน ซึ่งนำโดยพรรคประชาชน โดน “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตีกลับ เพื่อให้แก้ไขญัตติ เนื่องจากมีชื่อของ "ทักษิณ ชินวัตร" บิดานายกฯ
- ทว่า “ขั้วรัฐบาล - วันนอร์” ยึดตามมาตรา 176 ซึ่งเป็นอำนาจของประธานสภาฯ ถ้าประธานพบว่ามีข้อบกพร่องให้แก้ไข วินิจฉัย โดยกรณีดังกล่าวมีชื่อ “ทักษิณ” คือความบกพร่อง
- "ขั้วฝ่ายค้าน" ข้อบังคับไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาฯ ใช้ดุลพินิจมาตัดสินว่าญัตติควรจะเป็นเช่นไร เพราะมาตรา 151 ระบุชัดถึงสิทธิของ สส.ในการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
- เกมซักฟอกจึงเดินเข้าสู่โหมดวัดใจ หาก "ขั้วฝ่ายค้าน" ไม่ถอนชื่อ "ทักษิณ" โอกาสที่ ขั้วรัฐบาล - วันนอร์ จะบรรจุญัตติมีน้อยเช่นกัน การล้มศึกซักฟอกจึงมีความเป็นไปได้
ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ของฝ่ายค้าน ซึ่งนำโดยพรรคประชาชน โดน “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตีกลับ เพื่อให้แก้ไขญัตติ เนื่องจากมีชื่อของ "ทักษิณ ชินวัตร" บิดานายกฯ อยู่ในเอกสารด้วย
ทว่า มีข้อถกเถียงเรื่องกรอบเวลา เนื่องจาก ประธาน“วันนอร์” รับญัตติจาก "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" ผู้นำฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. แต่กลับมีหนังสือสั่งแก้ไขชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติในวันที่ 7 มี.ค. ซึ่งเลยเวลา ตามกรอบ ที่กำหนดห้ามเกิน 7 วัน
โดย “วันนอร์” อธิบายว่า “เขาจะนับตั้งแต่วันรุ่งขึ้น ไม่ใช่นับจากวันที่ยื่นเป็นวันที่หนึ่ง และตนได้แจ้งนายณัฐพงษ์ไปตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมแล้ว ซึ่งอยู่ในระยะเวลากรอบ 7 วัน ส่วนวันที่ 7 มีนาคมนั้น เป็นเรื่องขั้นตอนของหนังสือ”
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวจาก “ขั้วฝ่ายค้าน” ว่าพรรคเพื่อไทยได้รับจาก “ทีมสภาฯ” เมื่อวันที่ 4 มี.ค.แล้วว่า จะมีการแก้ไขญัตติซักฟอก โดยให้เอาชื่ออดีตนายกฯ “ทักษิณ” ออก แต่ขั้นตอนกลับล่าช้า เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า ลายมือชื่อของ “สส.พรรคประชาชน” ไม่ตรงกับลายมือชื่อก่อนหน้านี้ จึงมีการแจ้งให้แก้ไขไปแล้วด้วย
ปมดังกล่าว แม้จะเป็นปัญหาเชิงเทคนิคทางกฎหมาย ที่อาจจะต้องตีความกัน แต่เมื่อ “ประธานสภาฯ” ตีกลับให้แก้ไขญัตติ จึงเป็นไฟต์บังคับของ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ที่จะต้องดำเนินการ เพราะวันนอร์ ยืนยันเสียงแข็งว่า หากไม่แก้ญัตติจะไม่บรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ
แม้ “พรรคประชาชน” จะยก 3 ข้อ สวนหมัด "วันนอร์” โดยระบุว่า ข้อบังคับไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาฯ ใช้ดุลพินิจมาตัดสินว่าญัตติควรจะเป็นเช่นไร เพราะมาตรา 151 ระบุชัดถึงสิทธิของ สส.ในการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยไม่มีส่วนไหนที่พูดถึงดุลพินิจของประธานสภาฯ
ขณะเดียวกันยังบลัฟกลับมาแม้จะอ้างข้อบังคับข้อ 176 แจ้งให้พรรคแก้ไขข้อความในญัตติ แต่การแจ้งของประธานสภาฯ นั้นไม่ชอบด้วยข้อบังคับ เพราะไม่ตรงตามกรอบเวลาที่ระบุในข้อ 176
พร้อมทั้งยืนยันหนักแน่นว่า ปัจจุบันไม่มีข้อกฎหมายหรือข้อบังคับข้อไหน ที่ระบุห้ามไม่ให้พูดถึงชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาของญัตติ
ทว่า “ขั้วรัฐบาล - วันนอร์” ยึดตามมาตรา 176 ซึ่งเป็นอำนาจของประธานสภาฯ ถ้าประธานพบว่ามีข้อบกพร่องให้แก้ไข วินิจฉัย โดยกรณีดังกล่าวมีชื่อ “ทักษิณ” คือความบกพร่อง ดังนั้นต้องแก้ไข โดยเอาชื่อออก
เนื่องจากหากยังใส่ชื่อ จะเท่ากับพาดพิงบุคคลภายนอก ปกติในการประชุม “ประธาน” ต้องสั่งให้หยุดพูด หรือฝ่ายตรงข้ามประท้วงทันที เพราะผิดข้อบังคับ 178 วรรคสาม และหากการควบคุมการประชุมมีปัญหา หรือหาก “ประธาน” ให้อนุญาต และมีการฟ้องร้องจะโดนดำเนินคดีไปด้วย
ดังนั้น “วันนอร์” อ่านเกมว่า “ขั้วฝ่ายค้าน” จะอ้างว่าชื่อ “ทักษิณ” อยู่ในญัตติ หากจะอภิปรายย่อมกระทำได้ ทั้งที่การพาดพิงบุคคลที่สามจะกระทำไม่ได้ก็ตาม จึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเสียก่อน
จะเห็นได้ว่า “พรรคประชาชน” เริ่มมีลูกเก๋าเกมการเมืองในสภาฯ มากขึ้น โดยรู้อยู่เต็มอกว่า การใส่ชื่อบุคคลที่สามเข้าไปในญัตติ อาจจะต้องถูกตีกลับให้มาแก้ไข แต่ต้องการลาก “ทักษิณ” ศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองตัวจริง ออกมาชำแหละกลางแจ้ง
โดย “ขั้วฝ่ายค้าน” คาดหวังโจมตีตรงไปที่กล่องดวงใจพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล
ที่สำคัญปม “นักโทษเทวดา” บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวพันกับ “นายใหญ่”เพื่อไทยโดยตรง หากตีเนียน ใส่ชื่อไปในญัตติได้ ย่อมมีโอกาสเอ่ยชื่อได้ตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม
ยุทธศาสตร์ซักฟอก “นายกฯอิ๊งค์” เพียงคนเดียวของ “พรรคประชาชน” ต้องการลดทอนความน่าเชื่อถือของ “แพทองธาร - ทักษิณ - ตระกูลชินวัตร” เพื่อตัดคะแนน “เพื่อไทย” พ่วงแรงเหวี่ยง ให้คะแนนนิยมมาเพิ่มเติมให้ “ขุนพลสีส้ม”
ฉะนั้นหากจะใช้เวทีซักฟอกให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ต้องโฟกัสที่ “ทักษิณ” เจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้า ศูนย์รวมอำนาจทางการเมืองตัวจริง
ขณะเดียวกันเกม “ขั้วรัฐบาล” ย่อมอ่านออกว่า การเอาชื่อ “ทักษิณ” มาขึงในญัตติซักฟอก เพราะ “ขุนพลสีส้ม” คาดหวังจะลักไก่ เปิดทางให้อภิปรายบุคคลที่สามได้ หากยอมปล่อยผ่าน โอกาสจะเสียแต้มการเมืองมีสูง
ศึกซักฟอกยกแรก จึงต้องวัดใจว่า “ขั้วรัฐบาล-ขั้วฝ่ายค้าน” จะเดินหน้าต่ออย่างไร “พรรคประชาชน” จะยอมแก้ไขญัตติ เอาชื่อ “ทักษิณ” ออก หรือจะยื่นญัตติใหม่ พ่วงชื่อ “รัฐมนตรี” รายอื่นเข้ามาด้วย
หาก“พรรคประชาชน”ไม่ยอมถอยแก้ญัตติ โอกาสที่ “ขั้วรัฐบาล” จะยอมอ่อนข้อให้ มีน้อยมาก ทำให้โอกาส “ล้มศึกซักฟอก” หรือถูก“เลื่อนไทม์ไลน์” ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน







