ไส้ในเอกสาร สปส. ‘เว็บแอป’ 850 ล้าน เปิด '3 เอกชน' ที่มาราคากลาง

ไส้ในเอกสาร สปส. ‘เว็บแอป’ 850 ล้าน เปิด '3 เอกชน' ที่มาราคากลาง

เจาะไส้ในเอกสาร "ราคากลาง" จัดทำ "เว็บแอป" 850 ล้านบาท เปิด 3 เอกชนที่ สปส.สืบราคากลาง พบระดับยักษ์ใหญ่แวดวงไอที คู่สัญญารัฐรวมกันกว่า 3 พันล้านบาท

เงื่อนปมสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดทำโครงการประกวดราคาจ้างโครงการปรับเปลี่ยนระบบงานประกันสังคมบนเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม เป็นระบบ Web Application หรือ “เว็บแอป” ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงินงบประมาณ 850 ล้านบาท กำหนดราคากลาง 848,925,000 บาท

พบว่ามีผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “IRCP” ด้วยวงเงิน 848 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดในโครงการดังกล่าวแก่สาธารณะ เนื่องจาก กมธ.ติดตามงบสภาผู้แทนราษฎร กังขาว่า โครงการนี้ดำเนินการอย่างล่าช้า และส่อพบข้อพิรุธในสัญญาจำนวนมาก

กรุงเทพธุรกิจ สรุปข้อเท็จจริงในการประมูลโครงการดังกล่าวไปแล้ว 3 เงื่อนปม ได้แก่

1.ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ทำ 2 ครั้ง ยกเลิก 1 ครั้ง โดยในครั้งที่ 2 มีผู้เสนอราคา 2 รายคือ IRCP เสนอราคา 848,500,000 บาท (ต่ำกว่าราคากลาง 425,000 บาท) และบริษัท ยิบอินซอย จำกัด เสนอราคา 848,888,000 บาท (ต่ำกว่าราคากลาง 37,000 บาท) และ IRCP เป็นผู้ชนะการประกวดราคาครั้งนี้ ด้วยวงเงิน 848 ล้านบาท (ต่ำกว่าราคาที่เสนอ 500,000 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 925,000 บาท) และทำสัญญาดำเนินการเมื่อ 20 ธ.ค.2564 แต่จนถึงปัจจุบันยังส่งมอบงานไม่แล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ยังไม่มีคำชี้แจงจาก สปส.ว่า สาเหตุประการสำคัญที่ทำให้ต้องยกเลิกการประกวดราคาเมื่อต้นปี 2564 ทั้งที่ได้ผู้ชนะการประกวดราคาแล้วคืออะไร และเอกชนที่เข้าร่วมประกวดราคาครั้งดังกล่าวอีก 2 รายคือใคร และใครเป็นผู้ร้องเรียน จนนำไปสู่การยกเลิกการประกวดราคาครั้งนั้น นอกจากนี้แม้ว่าจะมีการประมูล ครั้งที่ 2 แล้วก็ตาม ซึ่งได้ผู้ชนะราคาเจ้าเดิม แต่โครงการนี้แม้จะสิ้นสุดในสัญญาเมื่อ 20 ธ.ค.2566 แล้ว

2.หลังสิ้นสุดสัญญาเมื่อ 20 ธ.ค.2566 ปรากฏว่า ผู้รับจ้างยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยทำหนังสือถึง สปส.อ้างว่าติดช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงส่งมอบงานล่าช้า กระทั่งถึงเดือนก.ค.2567 มีการส่งมอบงานให้แก่ สปส.รวมค่าปรับที่ต้องจ่าย ณ เวลานั้นกว่า 193 ล้านบาท แต่ สปส.ได้ยกเว้นไม่ปรับ เนื่องจากได้รับเงื่อนไขตามนโยบายรัฐบาลช่วงโควิด-19 

อย่างไรก็ดีนับจาก ก.ค.2567 จนถึงปัจจุบัน (5 มี.ค.2568) ผ่านมาราว 8 เดือน แต่ก็ยังไม่สามารถส่งมอบงานครบทุกงวดได้ ซึ่งหากคำนวณตามค่าปรับ จะต้องถูกปรับอีกราว 84 ล้านบาท

3.ในคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอราคา ข้อ 13 ระบุว่า ผู้ยื่นข้อเสนอราคา จะต้องมีประสบการณ์ และมีผลงานในการดำเนินงานด้านพัฒนาระบบสารสนเทศหรือ ผลงานเกี่ยวกับจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายสารสนเทศ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 170,000,000 บาท (หนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านบาทถ้วน) ในสัญญาเดียว ในระยะเวลา ไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันรับมอบโครงการ ถึงวันยื่นเอกสารประกวดราคา เป็นคู่สัญญาตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นๆ ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่สำนักงานประกันสังคมเชื่อถือ

 

 

จากการตรวจสอบในฐานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในช่วง 10 ปีก่อนที่ IRCP จะเข้าประกวดราคา “เว็บแอป” พบว่า ไม่เคยมีการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐแห่งใดเพียง “สัญญาเดียว” ที่วงเงิน 170 ล้านบาท

โดยโครงการมูลค่าสูงสุดคือ สัญญากับองค์การกระจายเสียง และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ “ไทยพีบีเอส” ในการซื้ออุปกรณ์เพื่อการปรับปรุงระบบ Combiner ยี่ห้อ Spinner เพื่อรองรับการใช้งานย่านความถี่ 470 - 694 MHz โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงิน 147,462,050 บาท 

ดังนั้น IRCP ผ่านคุณสมบัติข้อนี้ได้อย่างไร หรือว่า IRCP เคยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานเอกชนที่สำนักงานประกันสังคมเชื่อถือ ซึ่งเป็นคู่สัญญาวงเงินไม่ต่ำกว่า 170 ล้านบาท ในสัญญาเดียวหรือไม่

คราวนี้มาดูขั้นตอนการประกวดราคาในส่วนของการกำหนด “ราคากลาง” โดยโครงการปรับเปลี่ยนระบบงานประกันสังคมบนเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมเป็นระบบ Web Application มีสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ สปส. เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ ระบุวงเงินงบประมาณ 850 ล้านบาท เป็นการใช้วงเงินงบประมาณเมื่อปี 2561 กำหนดราคากลางเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 เป็นเงิน 848,925,000 บาท แบ่งเป็น ค่า Hardware 213,129,000 บาท ค่า Software 467,796,000 บาท ค่าพัฒนาระบบ 147 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 21 ล้านบาท

โดยมีที่มาของราคากลาง (อ้างอิง) จากบริษัท 3 แห่ง ได้แก่ 1.NTT Solutions (Thailand) Limited 2.Thai Transmission Industry Co., Ltd. 3.Prior Solution co., Ltd. แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่ทราบคือ เอกชนทั้ง 3 แห่ง เคยปรากฏข้อมูลเป็นคู่สัญญารัฐอย่างน้อย 438 โครงการ รวมวงเงินไม่ต่ำกว่า 3,053.62 ล้านบาท

สำหรับเอกชนทั้ง 3 แห่งที่ถูกสืบราคากลาง กรุงเทพธุรกิจตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบรายละเอียด ดังนี้

1.NTT Solutions (Thailand) Limited คือบริษัท เอ็นทีที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) เคยเป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐในการจัดซื้อจัดจ้าง 278 โครงการ รวมวงเงินอย่างน้อย 1,329.71 ล้านบาท

บริษัทแห่งนี้ จดทะเบียน เมื่อ 13 มิ.ย. 2532 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 199 อาคารคอลัมน์ทาวเวอร์ ชั้น 16 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ขายและบริการ เกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เครือข่ายไอทีทุกชนิดและซอฟต์แวร์ มีกรรมการ 4 ราย ได้แก่ นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ นายจอห์น อเล็กซานเดอร์ ลอมบาร์ด นายธีรวุฒิ ศุณะมาลัย นางสาวแอ็คเนส ลิม เค็ง เทียน

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 31 ก.ค. 2567 บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 50.9998% เอ็นทีที เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (สัญชาติสิงคโปร์) ถือ 49% สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ถือ 0.0002%

ในส่วนบริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน NTT Solutions (Thailand) Limited นั้น จดทะเบียนเมื่อ14 ก.ค. 2532 ทุนปัจจุบัน 3 แสนบาท วัตถุประสงค์ ลงทุนในบริษัทอื่น มีเอ็นทีที เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (สัญชาติสิงคโปร์) ถือหุ้นใหญ่สุด 49.1% นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ถือ 25.4667% และนายธีรวุฒิ ศุณะมาลัย ถือ 25.4333%

NTT Solutions (Thailand) Limited นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 3,313,331,392 บาท หนี้สินรวม 1,012,482,788 บาท รายได้รวม 1,064,376,043 บาท รายจ่ายรวม 842,230,718 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 402,084 บาท เสียภาษีเงินได้ 44,511,889 บาท กำไรสุทธิ 177,231,352 บาท

2.Thai Transmission Industry Co., Ltd. คือ บริษัท ไทยทรานสมิชชั่น อินดัสทรี จำกัด เคยเป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐในการจัดซื้อจัดจ้าง 152 โครงการ รวมวงเงินอย่างน้อย 1,714.56 ล้านบาท

บริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนเมื่อ 2 ก.ย.2539 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 185 อาคารธรรมเลิศ ชั้น 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ บริการติดตั้ง ซ่อมบำรุงระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเครือข่ายจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม อุปกรณ์ มีกรรมการ 2 รายได้แก่ นายไพศาล อิทธิธรรม นายคม อักษรานุเคราะห์

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 29 เม.ย.2567 นายไพศาล อิทธิธรรม ถือหุ้นใหญ่สุด 96% นายโชคชัย ชัยกิตติศิลป์ ถือ 2% นายพิบูล วงศ์ไวศยวรรณ ถือ 1% ส่วนที่เหลือถือคนละ 0.2% ได้แก่ นายบุญเชาว์ จรัสมาธุสร นางวัทนาวดี ประธานราษฎร์นิกร นางอัญชลี ลิ่มเจริญ นายอธิพร ลิ่มเจริญ นายอนุชิต วะสีนนท์ ส่วน นายสุรชัย พัฒนพิฑูรย์ ถือ 1 หุ้น

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 1,957,515,715 บาท หนี้สินรวม 1,677,269,533 บาท รายได้รวม 36,910,905 บาท รายจ่ายรวม 143,633,823 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,717,870 บาท ขาดทุนสุทธิ 109,440,787 บาท

 3.Prior Solution co., Ltd. คือบริษัท ไพรเออร์ โซลูชั่น จำกัด เคยเป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐในการจัดซื้อจัดจ้าง 8 โครงการ รวมวงเงินอย่างน้อย 9.                                                                                                                                                                              35 ล้านบาท

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2547 ทุนปัจจุบัน 16 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 80 ถนนประชานฤมิตร แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ กิจกรรมการจัดทำโปรแกรมเว็บเพจและเครือข่ายตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ ปรึกษาแนะนำด้านคอมพิวเตอร์ มีกรรมการ 1 รายคือ นายฉัตร วัฒนศิริเกียรติ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 นายฉัตร วัฒนศิริเกียรติ ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9625% น.ส.สิริพร วัฒนศิริเกียรติ ถือ 0.0188% น.ส.สิรินันท์ วัฒนศิริเกียรติ ถือ 0.0188%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 289,574,526 บาท หนี้สินรวม 140,454,826 บาท รายได้รวม 512,397,314 บาท รายจ่ายรวม 468,695,329 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 594,919 บาท เสียภาษีเงินได้ 9,613,822 บาท กำไรสุทธิ 33,493,243 บาท

อย่างไรก็ดีทั้ง 3 บริษัทข้างต้น ยังมิเคยถูกร้องเรียนถึงปัญหาในการจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์