'อังคณา' จี้ 'ดีเอสไอ' สอบฟอกเงิน 'เลือกสว.' ทำให้จริง อย่าใช้เป็นเกมต่อรอง

"อังคณา" บอก "ดีเอสไอ" รับสอบฟอกเงิน ต้องทำให้จริง อย่าใช้เป็นเกมต่อรอง มอง "ดีเอสไอ-ทวี" ต้องเอาตำแหน่งเป็นเดิมพัน
ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงมติที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับตรวจสอบกระบวนการเลือก สว. ฐานฟอกเงิน เป็นคดีพิเศษ ว่า ไม่แปลกใจที่รับคดีฟอกเงิน เพราะทราบว่ามีการพูดคุยแล้วระดับหนึ่ง ตามข่าวที่ระบุว่านายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งปรากฎข่าวตามสื่อมวลชน แต่ในฐานะที่ฟังมาจากประชาชน หากทำถึงขนาดนี้ต้องทำต่อให้จริง
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่าหากมีการอั้งยี่กันสามารถสอบต่อไปได้ นางอังคณา กล่าวว่า กังวลว่าอย่าให้เป็นเกมการต่อรอง เพราะหากมีการสืบจากคดีฟอกเงินแล้วพบว่าเป็นการอั้งยี่ แล้วใช้ข้อเท็จจริงเป็นเครื่องต่อรองนั้น สังคมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่หากพบว่าเป็นการอั้งยี่จริงและมีการดำเนินการต่อ จะทำให้สังคมเกิดความชัดเจนและจะเป็นการพิสูจน์การทำงานของดีเอสไอภายใต้แรงกดดันทางการเมือง
"บทบาทที่สำคัญที่สุดของสว.คือการเห็นชอบและพิจารณาคุณสมบัติขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะปีนี้ที่กกต. หมดวาระหลายคน ซึ่งหากเป็นความจริงว่าสว. 199 คน หรือจะเป็น 138+2 คน มาโดยไม่ชอบ ตรงนี้จะเป็นการทำลายรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ทำลายความโปร่งใสและกลไกตรวจสอบทั้งหมด ดังนั้นขอให้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ดีเอสไอก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง" นางอังคณา กล่าว
เมื่อถามว่า หากสว.แต่งตั้งกกต. ชุดใหม่จะเป็นคนของตัวเองใช่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า "ถูก และมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งถัดไปด้วย รวมถึง ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งสว.จะตกเป็นเป้าในการเลือกองค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะกกต.ที่มีความสำคัญอย่างมากแล้วต่อไปสังคมจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าเราจะมีองค์กรอิสระที่เป็นอิสระ ผู้แทนของประชาชนที่เป็นผู้แทนอย่างแท้จริง หวังว่าจะไม่เอาเรื่องนี้เป็นเครื่องมือการต่อรองทางการเมือง"
นางอังคณา กล่าวด้วยว่า พ.ต.อ.ทวี ต้องเดิมพันด้วยตำแหน่งของตัวเอง หากสุดท้ายทำอะไรไม่ได้ถือว่าน่าเสียใจ เพราะพูดไปเยอะแต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที สว.จะยื่นอภิปรายทั่วไป รมว.ยุติธรรม นายอังคณา กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะการตอบโต้ในลักษณะดังกล่าวเหมือนกับเป็นการฟ้องปิดปาก ซึ่งตนคัดค้านเรื่องการฟ้องปิดปาก หรือฟ้องเพื่อปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ ดังนั้นตนจะไม่ร่วมด้วย อย่างไรก็ดีตนสนับสนุนให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ ทั้ง ดีเอสไอ กกต. และตนเป็นหนึ่งใน 199 สว.ที่จะถูกตรวจสอบมีความพร้อมเช่นกัน
เมื่อถามว่า มองว่าคดีที่ กกต.ตรวจสอบอยู่ จะทำทันหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า กกต. ควรจะรีบเร่งในการดำเนินการ ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้า และคลุมเครือไปเรื่อยๆ เพราะบางกรณีเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติสามารถสืบค้นได้จากเว็ปไซต์
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายเรื่องนี้อาจจะหายไปหรือทำไม่ทัน นางอังคณา กล่าวว่า ในกระบวนการยุติธรรม หากมีการกล่าวหาว่ากระทำความผิด กว่าจะมีกระบวนการส่งฟ้องหรือสืบพยานนั้น แล้วเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ หรืออาจจะหมดวาระไปแล้ว.







