กมธ.มั่นคง เผยสัปดาห์หน้าเชิญ 'นายกฯ-ภูมิธรรม' แจงปม 48 อุยกูร์

กมธ.มั่นคง เผยสัปดาห์หน้าเชิญ 'นายกฯ-ภูมิธรรม' แจงปม 48 อุยกูร์

'โรม' เผยสัปดาห์หน้าเชิญ 'แพทองธาร-ภูมิธรรม' แจง กมธ.ความมั่นคง หลังชัดแล้วไทยส่ง 48 อุยกูร์กลับจีน ดักคอห้ามส่งตัวแทน ต้องตอบเอง เตือนรัฐบาลอย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยผลการประชุมว่า คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของประเทศ ที่เราเป็นส่วนหนึ่งของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แต่วันนี้มีการส่งชาวอุยกูร์ทั้ง 48 คนกลับไปที่ประเทศจีนแล้ว สามารถอนุมานได้ว่าชะตากรรมของคนทั้ง 48 คนไม่น่าจะดี

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่มีความผิดต่อมาตรา 13 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทำร้ายและการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ระบุไว้ว่าห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐขับไล่ ส่งกลับ หรือส่งบุคคลที่เชื่อได้ว่าจะกลับไปอยู่ในที่อันตราย ถูกกระทำทรมาน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือถูกกระทำให้บุคคลสูญหาย

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ยกตัวอย่าง เราเคยมีเหตุการณ์ส่งกลับชาวอุยกูร์ในยุค คสช.เท่าที่ทราบอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ กลุ่มคนเหล่านั้นไม่ได้มีชะตากรรมที่ ดีสิ่งที่เป็นห่วงมากที่จะเกิดขึ้นต่อไปกับประเทศเราคือ ภัยต่อความมั่นคงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการก่อการร้าย การวางระเบิด หรือการเอาคืน จะทำให้พี่น้องประชาชนทั่วไปอาจจะได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนไปด้วย หากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอาจจะทำร้ายการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างย่อยยับ

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น เรากำลังส่งสัญญาณว่าประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศที่ปลอดภัยอีกแล้ว ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่ตนเองจินตนาการขึ้นมาเอง แต่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต ไม่มีใครรับประกันได้ว่าครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง คำถามคือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้จะรับผิดชอบต่อความเสียหายได้หรือไม่ ยังไม่นับว่าสิ่งที่เราทำครั้งนี้อาจส่งผลกระทบให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศไทยอยู่ในฐานะดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกาทำการบางอย่างต่อประเทศไทยรวดหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา มีจุดยืนที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้

"เราคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าการตัดสินใจของรัฐบาลได้ประเมินอย่างรอบคอบหรือไม่ แต่วันนี้รัฐบาลได้แกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน โดยที่ประชาชนเป็นผู้แบกรับภาระ ยังไม่นับว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะนำไปสู่การทำให้ไทยได้รับการประเมินด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยอาจจะใน Tier ที่ตกต่ำมากขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้จะส่งผลกระทบในวงกว้าง" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์หน้า วันที่ 6 มี.ค.68 เวลา 09.30 น. คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาชี้แจงด้วยตนเอง โดยไม่รับตัวแทน เพราะคนที่จะมาชี้แจงเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้จะต้องเป็นผู้กำหนดนโยบาย และผู้ตัดสินใจในเชิงนโยบาย รวมถึงจะเชิญมิตรประเทศ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่พวกเราในฐานะคณะกรรมาธิการ ที่ทำหน้าที่ในสภานิติบัญญัติไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

"เราต้องการแสดงจุดยืนให้เห็นว่าการกระทำครั้งนี้อาจนำไปสู่ความเสียหายและก่อเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น พวกเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ การประชุมที่จะเกิดขึ้นจะเป็นการพูดคุยเพื่อลดผลกระทบความเสียหายด้วย" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า เรามีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่า มีการส่งกับชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนไปแล้ว ตนเองมีโอกาสคุยกับรัฐมนตรีหลายท่านตั้งแต่เมื่อวานนี้ ข้อมูลหลายอย่างที่ประกอบกันมาบ่งชี้ไปในทิศทางที่ค่อนข้างชัดเจนว่า มีการส่งชาวอุยกูร์แล้ว

“ถ้าไม่ใช่รัฐบาลก็ตอบมาเลย นายกรัฐมนตรียังไม่ตอบ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากเราเข้าใจผิดไม่ถูกต้อง ก็ควรที่จะตอบให้ประชาชนสิ้นข้อสงสัย” นายรังสิมันต์ กล่าว