ล้มสว.เกมยื้อกระทบนโยบายรัฐ ศึก “ทักษิณ-เนวิน” ส่งผลบิ๊กโปรเจ็กต์สะดุด

ล้มสว.เกมยื้อกระทบนโยบายรัฐ ศึก “ทักษิณ-เนวิน” ส่งผลบิ๊กโปรเจ็กต์สะดุด สถานะพรรคร่วมฯสั่นคลอน จับตาปมขัดแย้งใหม่
KEY
POINTS
- แม้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) หรือบอร์ดดีเอสไอ จะเลื่อนโหวต วาระพิจารณารับหรือไม่รับคดี "ฮั้วเลือก สว." เป็นคดีพิเศษ แต่สถานการณ์เขม็งเกลียวระหว่าง “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า กับ “ครูใหญ่” บ้านสีน้ำเงิน ยังดำเนินต่อไป
-
ดุลอำนาจทางการเมืองในเวลานี้ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นศูนย์กลางอำนาจทางฝ่ายบริหาร แต่ดุลอำนาจสภาฯสูง-อำนาจการตรวจสอบ อยู่ในมือ “ครูใหญ่สีน้ำเงิน”
-
ศึกระหว่าง “ทักษิณ-เนวิน” ที่ส่อจะเป็นเกมยื้อกันยาวนาน กำลังสร้างผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ และบิ๊กโปรเจ็กต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) หรือบอร์ดดีเอสไอ จะเลื่อนโหวต วาระพิจารณารับหรือไม่รับคดี "ฮั้วเลือก สว." เป็นคดีพิเศษ แต่สถานการณ์เขม็งเกลียวระหว่าง “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า กับ “ครูใหญ่” บ้านสีน้ำเงิน ดั่งคลื่นใหญ่ซัดถล่มสถานะ “พรรคร่วมรัฐบาล” ของ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคภูมิใจไทย” ให้สั่นคลอน
ดุลอำนาจทางการเมืองในเวลานี้ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นศูนย์กลางอำนาจทางฝ่ายบริหาร เนื่องจาก “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นั่งเก้าอี้ประมุขฝ่ายบริหาร โดยพรรคเพื่อไทยเป็น “เบอร์หนึ่ง” พรรคร่วมรัฐบาล
ดุลอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ-อำนาจการตรวจสอบ อยู่ในมือ “ครูใหญ่” เพราะ “สว.สีน้ำเงิน” แชร์บทบาทในสภาฯร่วมกับ “สส.” แต่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการเห็นชอบแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ขณะเดียวกัน “ครูใหญ่” ยังบัญชาเกมผ่าน “พรรคภูมิใจไทย” ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล “เบอร์สอง” คอยกำหนดเกมขั้วบริหารควบคู่ไปด้วย
เมื่อ “2 ผู้ยิ่งใหญ่” ถือไพ่กันคนละใบ แต่หนี้แค้นเก่า ปม “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ หักหลัง “นายใหญ่” ยกกลุ่มเพื่อนเนวิน ออกจากพรรคพลังประชาชน ก่อนร่วมจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปลายปี 2551 พร้อมฝากวาทะ “มันจบแล้วครับนาย” รอยแค้นยังฝังลึก การแก้แค้นรอวันชำระ สถานการณ์ทางการเมืองจึงอึมครึม
ฝั่ง “นายใหญ่” แม้ใจลึกๆ ต้องการขับ “ภูมิใจไทย” พ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่ติดชนักอยู่ที่ “สว.สีน้ำเงิน” ที่ต้องพึ่งบริการผ่านร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาล จึงมี “ลูกหาบ” ขันอาสาเดินเกมล้มการเลือก สว. เพื่อตอบสนอง “นาย” ให้วางหมากง่ายขึ้น
ฝั่ง “ครูใหญ่” แม้จะรู้ว่าการเปิดฉากรบกับ “นายใหญ่” อาจจะทำให้สถานะ “เบอร์สอง” พรรคร่วมรัฐบาล สั่นคลอน แต่เป็นหมากบังคับให้เดิน เพราะหากสยบยอมในทุกย่างก้าว อาจจะโดนรุกกินแดนได้
ทั้งแผลเก่า-แผลใหม่ ทำให้ “ทักษิณ” และ “เนวิน” อาจจะต้องจำยอมอยู่ในฐานะ “ศัตรูที่รัก” อยู่กับแบบหวานอมขมกลืน ต่างฝ่ายต่างอาศัยกลไกอำนาจที่มีอยู่ในมือ
ท่ามกลางความหวาดระแวงระหว่าง “2 ผู้ยิ่งใหญ่” ย่อมกระทบต่อสเถียรภาพของ “รัฐบาลแพทองธาร” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ภาพของ “นายกฯอิ๊งค์ - อนุทิน” มักจะโชว์ความสามัคคี กลมเกลียว แต่ฉากหลังไม่ได้เป็นเหมือนภาพที่สื่อสารออกไป
เมื่อแกะรอยความขัดแย้ง จะเห็นได้ชัดว่า “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” มักจะเดินกันคนละทิศ ฝั่งละทาง
ปมแรกการแก้รัฐธรรมนูญ โดย “สว.สีน้ำเงิน” เบรกการแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ให้ทำประชามติสองชั้น หักมติของ “สส.” ที่ต้องการลดขั้นตอนให้เหลือประชามติเพียงครั้งเดียว ต่อด้วย “สส.ภูมิใจไทย” ล้มญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ให้มี สสร. มาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสนอโดย สส.พรรคเพื่อไทย
ปมสองที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เป็นศึกระหว่างกรมที่ดิน ซึ่งอยู่ในความดูแลของ “อนุทิน” ชักธงรบกับการรถไฟแห่งประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯ รมว.คมนาคม
โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกระแสข่าวว่า “ครูใหญ่” บ้านใหญ่บุรีรัมย์ ต้องการให้รัฐบาลปักหมุดโครงการดังกล่าวในพื้นที่ของ “เมืองหลวงแดนอีสานใต้” แต่ “บิ๊กรัฐบาล” ปิดทางเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะไปเสริมแกร่งให้ “บ้านสีน้ำเงิน” มีโอกาสขยายอาณาจักรได้มากขึ้น
นโยบายพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มีมติจากที่ประชุมครม. สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำคลอดนโยบายดังกล่าว ขณะที่“อนุทิน-มหาดไทย” พยายามชิงความได้เปรียบ เตรียมส่งร่างกฎหมายของมหาดไทยเข้าสู่ที่ประชุม ครม. แต่ถูกเบรกเอาไว้ก่อน
นอกจากนี้ ยังต้องจับตากฎหมายสำคัญของ “รัฐบาล” ที่กำลังรอให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ อาจจะต้องสะดุดในหลายร่างกฎหมาย
จะเห็นได้ว่าการทำงานร่วมกันของ “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” ที่มีประเด็นเห็นต่าง ขัดแข้งขัดขากัน เป็นส่วนหนึ่งทำให้นโยบายและโครงการสำคัญของ “รัฐบาลแพทองธาร” มีโอกาสล่าช้าลงไป
ต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายของ “รัฐบาลเพื่อไทย” คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาอยู่ในแดนบวก แต่ศึกระหว่าง “ทักษิณ-เนวิน” ที่ส่อจะเป็นเกมยื้อกันยาวนาน กำลังสร้างผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ และบิ๊กโปรเจ็กต์ ซึ่งเป็นเดิมพันในนามรัฐบาลเพื่อไทย







