‘อนุทิน’ เตือน ระวังเจอตอ สอบที่ดินเขาใหญ่ ท้า กล้าไหม โดนกันหมด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบการครอบครองที่ดินเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นำโดย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานการขับเคลื่อน การตรวจสอบ และพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดิน และผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน บางแปลงอาจทับซ้อนที่ดิน ส.ป.ก. ว่า ไม่มีอะไรต้องชี้แจง เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เป็นเรื่องของทางราชการกับราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทย ก็ต้องไปพิสูจน์กัน เพราะประชาชนทั่วไปเข้าไม่ถึงข้อมูล

เมื่อถามว่า หากมีการขุดคุ้ยการขายตั้งแต่รุ่น 1 และรุ่น 2 ถ้าหากพบว่าผิดยินดีคืนที่ดินดังกล่าวใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่ได้ยินดีที่จะคืน ผิดก็คือ ผิด แต่ใครผิดไม่รู้ แต่คนที่ซื้อมาครอบครองโดยสุจริตเขาก็ผิดไม่ได้ ผู้ที่ซื้อที่ดินเป็นโฉนดในประเทศไทยถ้าเชื่อโฉนดที่ออกไม่ได้แล้วจะเชื่ออะไรได้อีก อย่างที่เขาพูดกันบางทีเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง ตอนนี้ถามว่าใครเดือดร้อน ไม่ได้เดือดร้อนแต่เป็นชาวบ้าน และพอเป็นปัญหาก็เดือดร้อนกันไปหมด ก็ต้องดูว่าเขาจะรับผิดชอบอย่างไร เนื่องจากที่ดินพิพาทดังกล่าวมีพื้นที่กว้าง ไม่ใช่เฉพาะที่ปากช่อง แต่รวมถึงเขาใหญ่ ไปโดนอะไรบ้างก็ต้องดูให้หมด ก็ต้องระวังมีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง ถ้าโดนก็ต้องโดนหมดแล้วจะกล้าไหม ส่วนจะมีใครบ้างก็ต้องไปหาเอาเอง 

เมื่อถามว่า จะมีการฟ้องร้องหรือไม่ที่ทำให้เสียหาย นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วจะไปฟ้องอย่างไร เขาบอกว่าเขาสงสัย จะบอกว่าครอบครัวตนเองเสียหายก็ไม่ได้ เพราะครอบครัวของตนไม่ได้ตั้งใจจะขายที่ดินนี้ และสุดท้ายอย่างที่บอกหากการออกโฉนดผิดกรมที่ดิน ก็ต้องเพิกถอน และก็ต้องชดใช้จ่ายค่าที่ดินมา ครอบครัวตนก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ชาวบ้านทั่วไปเสียหาย รวมถึงคนที่ไปลงทุนอื่นๆ ซึ่งครอบครัวผมไม่มีสนามกอล์ฟนี้ก็ยังมีใช้ ตนแค่มีทรัพย์สิน และกิจการอยู่ตรงนั้น แต่ประชาชนถ้าเขายังต้องยังชีพอยู่ตรงนั้นประชาชนเดือดร้อน ครอบครัวมีธุรกิจหลัก เป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว ตนก็เลิกทำมากกว่า 20 ปีแล้ว ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเงินที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ทำธุรกิจ แบ่งลูกแบ่งเต้าหมดแล้ว หย่าสองครั้งก็ดูแลเมียเก่าหมดแล้ว เหลือแค่ตนไม่ได้ใช้อะไรเยอะแยะ แต่สงสารชาวบ้าน เพราะคนคนเดียวต้องการเล่นการเมือง แล้วก็ไปทำให้เกิดความเสียหาย ตรงนั้นชาวบ้านทั่วไปน่าสงสารมากกว่า เพราะไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน ไปสั่งปิดร้านกาแฟเขา อย่างที่บอกต้องดูให้เยอะๆ ไอ้เส้นที่เขาขีดใครเป็นเจ้าของบ้าง ต้องทำให้หมดนะ ไม่ใช่ถึงเวลามีเส้นปะแบบนี้ 

เมื่อถามว่า จะเป็นในลักษณะที่ผ่านมาหรือไม่ แหย่แล้วก็เงียบไป นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน กว่าจะพิสูจน์กันแต่ละเรื่องต้องใช้เวลา 20 ถึง 30 ปี อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านแถวนั้นบางคนที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง สุดท้ายก็ขายที่ไม่ได้ เพราะเห็นมีอยู่หลายแปลงเหมือนกัน และมันจะไม่ใช่แค่ปากช่อง เขาใหญ่ แต่จะลามไปทั่วประเทศ ต่อไปใครไปดูที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาก็จะไม่กล้าซื้อแล้วการพัฒนาจะเกิดได้อย่างไร

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์