นักท่องเที่ยวอิสราเอล ปักหมุด ‘ปาย’ ล่อเป้าแฝงนัย พื้นที่สัญลักษณ์

จากกรณีประชาชนในพื้นที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร้องเรียนผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล จำนวนมากที่เข้ามาท่องเที่ยวทั้งระยะสั้น และระยะยาว มีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาอยู่อาศัยในพื้นที่ และยังก่อปัญหามากมาย ทั้งไม่เคารพกฏหมาย ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรม สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ที่สำคัญ ยังมีประเด็นข้อห่วงใย ต่อการเข้ามาสร้างชุมชนในพื้นที่ อย่างการก่อสร้างโบสถ์ประชิดโรงพัก ทำพิธีทางศาสนา ห้ามคนไทย-นักท่องเที่ยวเข้า 

แม้ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายการเมือง จะพยายามตัดจบ ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง ทว่า ประเด็นปัญหานี้ อาจไม่จบง่ายๆ หากการบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ไม่เป็นผลอย่างจริงจัง 

หากพิจารณาข้อมูลจาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแจ้งเข้าพักในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนปี 2567 ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 พบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาจากหลายประเทศ รวมทั้งสิ้น 221,776 คน/ปี 

ลำดับแรก มาจากสหราชอาณาจักร จำนวน 39,390 คน ลำดับที่สอง นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล จำนวน 31,735 คน เฉลี่ยเดือนละ 3,000คน ช่วงไฮซีซัน 4,000 คน

สำหรับการท่องเที่ยว มีลักษณะแบ็กแพ็กเกอร์ เช่น ไปเที่ยวประเทศลาว ก่อนมา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากนั้นก็ลงภาคใต้ ไปจังหวัดภูเก็ต เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะพะงัน จังหวัดพังงา

เอกลักษณ์คนอิสราเอล หรือคนยิว เป็นกลุ่มชอบท่องเที่ยว บางส่วนเป็นทั้งอดีตทหาร หรือทหารที่ยังประจำการ เมื่อถึงวงรอบการพักผ่อน ประเทศไทยเป็นเป้าหมายเดินทางมาท่องเที่ยว 

โดยมี ตม.ทำหน้าที่ควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวขอเดินทางต่อไปยังพื้นที่ใด จะมีการควบคุมจำนวน ตรวจสอบที่พักอาศัย

ขณะที่ผู้ประกอบการ โรงแรม ที่พัก ต้องมีการบันทึก นักท่องเที่ยวเข้าพัก มาจากประเทศใด มีจำนวนเท่าไหร่ พร้อมรายงาน ให้อำเภอ และ ตม.รับทราบทุกสัปดาห์ ก่อนนำไปตรวจสอบ กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยในภาพใหญ่

จุดเริ่มต้นปัญหา ต้องยอมรับว่า หลังอำเภอปายกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ล้วนเป็นคนนอกพื้นที่ เช่น กทม.เชียงใหม่ ส่วนคนท้องถิ่น ทำอาชีพเกษตรกร ทำนา ลูกจ้าง

จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี ได้สร้างความเดือดร้อนให้คนในท้องถิ่น โดยปัญหาหลัก ล่าสุด คือ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่ไม่เคารพกฏหมาย ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมในพื้นที่ ไม่เคารพสถานที่ เจ้าของพื้นที่ที่ตนเองเข้ามาพักอาศัย

ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นทั้งของคนไทย และชาวต่างชาติอื่นๆ 

      โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอิสราเอล กลุ่มที่เดินทางเข้ามาใหม่ในช่วง 1-2 ปี ได้ก่อปัญหาสร้างความเดือดร้อนมากมายในพื้นที่ ทั้งที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร บุกรุกสถานที่ ละเมิดสิทธิ์ ใช้วิธีไม่จ่ายค่าที่พัก ค่าบริการ การเช่ารถจักรยานยนต์ ใช้วิธีการเอาเปรียบ อีกทั้งทำผิดกฎจราจร เกิดอุบัติเหตุ ดื่มแอลกอฮอล์มึึนเมา ส่งเสียงรบกวน สูบบุหรี่ กัญชา ทุกสถานที่ แต่งกายไม่เหมาะสม ทำลายข้าวของผู้อื่น ทะเลาะวิวาท ลักขโมย จนเป็นภาระ ทั้งโรงพัก โรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างชาบัด (Chabad) หรือโบสถ์ศาสนายูดาห์(ยิว) ในพื้นที่อำเภอปาย มีลักษณะเป็นเต็นท์ ไม่ใช่อาคารถาวร เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกคนท้องถิ่นกำลังถูกคุกคาม

ต้องยอมรับว่า เรื่องศาสนาเป็นประเด็นละเอียดอ่อน แม้ประเทศไทยไม่ปิดกั้น แต่หากมองอีกด้าน การขยายพื้นที่ของชาวอิสราเอล ควรได้รับการยินยอมจากคนในพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า คนไทยมีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ให้คนต่างชาติมาซื้อ จับจองในลักษณะเป็นนอมินี เป็นหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องเข้าตรวจสอบ

แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ อำเภอปาย จะกลายเป็นชุมชนถาวรของคนอิสราเอลในอนาคต เนื่องจากลักษณ์พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนของกรมอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นเรื่องเอกสารสิทธิ์ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก

ส่วนข้อกังวลเรื่องการตั้งเป็นชุมชน มีกองกำลังยึดอำเภอปายนั้น ทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การกางเต็นท์ชั่วคราว ซึ่งแตกต่างกับการสร้างโบสถ์ ยังเป็นประเด็นต้องประเมิน ว่ามีนัยระดับพื้นที่ หรือระดับประเทศอย่างไร

ในขณะที่มุมมองเรื่องการใช้ความเชื่อ ศาสนา เป็นตัวนำนั้น พบว่ามีแรงจูงใจ แต่ยังไม่มากนัก ยอมรับว่าคนนับถือศาสนาอิสลามในอำเภอปาย มีเป็นชุมชนมุสลิมดั้งเดิมไม่มากนัก แต่เมื่อคนยิวมาอาศัย มาสร้างโบสถ์ ยังไม่แน่ใจว่าเขามองในเรื่องอะไร ถึงมาอยู่ในอำเภอปาย หากมองในมุมที่ว่า เขาจะทำบางสิ่งบางอย่าง แต่ขณะนี้ไม่มีมูลเหตุแรงจูงใจ

ส่วนการขยายพื้นที่ของชาวอิสราเอล เป็นภัยคุกคามในรูปแบบหนึ่งหรือไม่ แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า การรวมกลุ่มไม่ว่าจะมีกี่คนก็ตาม เมื่อเป็นกระแส กลายเป็นปัญหากับจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น กลายเป็นเป้าหมายกลุ่มประเทศตรงข้าม ที่มีความขัดแย้งกันอยู่ในปัจจุบัน

“ประเทศไทย ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ไม่อยากให้มีการรวมกลุ่มของอิสราเอล จนดึงประเทศไทยเข้าไปอยู่ในปัญหาความขัดแย้ง” แหล่งข่าวความมั่นคงระบุ

ปัจจุบัน อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นพื้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล โดยมีโบสถ์ศาสนายูดาห์ เป็นสัญลักษณ์ แน่นอนว่า ในมุมนโยบายด้านการท่องเที่ยว อาจส่งผลดีกับเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ แต่สำหรับคนท้องถิ่น พวกเขากำลังรู้สึกถูกคุกคาม และไม่ปลอดภัย

ดังนั้น รัฐบาลต้องบาลานซ์ แก้ไขปัญหาให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อให้อำเภอปายเป็นเพียงเมืองท่องเที่ยว ไม่ใช่พื้นที่สัญลักษณ์ หรือแหล่งพักพิงชั่วคราวของชาติใด ไม่เช่นนั้น ประเทศไทยอาจถูกดึงไปอยู่ในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง